แก๊สหุงต้มระเบิด บ้านพังเละ เด็ก 15 สาหัส เสียหายรวม 8 หลัง เห็นสภาพแล้วรุนแรงมาก
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 2 พ.ค.66 ที่ผ่านมา เกิดเหตุแก๊สระเบิดได้ที่บ้านเลขที่ 50/107 หมู่ 5 ต.บางสีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี มีนายวีรพัฒน์ ชื่นสมทรง อายุ 39 ปี ช่างภาพกรมประชาสัมพันธ์ เป็นเจ้าของบ้านซึ่งเป็นหลังตรงกลาง ด้านหน้ามีซากหลังคา ฝ้า และโครงอลูมิเนียมหล่นเป็นจำนวนมาก ด้านในที่ชั้นล่างฝ้าและกระจกแตกได้รับความเสียหายทั้งหมด จุดเกิดเหตุเป็นบริเวณครัวด้านหลัง ประตูหน้าต่าง ประตูชั้นวางของแตกเสียหาย และหลังคาครัวทะลุ ส่วนที่ชั้นสองและชั้น 3 ของบ้านฝ้าหล่น หลังคาแตกและกระจกหน้าต่างแตก
นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บ 1 รายคือ นายภาคิณ อายุ 15 ปี เป็นบุตรชายเจ้าของบ้าน โดยมีแผลถูกไฟลวกที่ผิวหนังทั้งตัว โดยเฉพาะที่ขาทั้ง 2 ข้างมีแผลไฟไหม้มากกว่าจุดอื่น หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยเทศบาลตำบลบางสีทองนำตัวส่ง รพ.บางกรวย ก่อนส่งต่อ รพ.พระนั่งเกล้า รักษาตัวอยู่ในห้องปลอดเชื้อ จากแรงระเบิดครั้งนี้ พบบ้านที่เสียหายอีก 7 หลังซึ่งเป็นบ้านใกล้เคียง คือบ้านเลขที่ 50/89, 50/90, 50/91, 50/92 ตั้งอยู่ในซอย 6 และบ้านเลขที่ 50/105, 50/106, 50/107, 50/108, 50/109 ตั้งอยู่ในซอย 8 บ้านส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน หลังคาทะลุ ฝ้าแตก กระจกแตก และรถยนต์ยี่ห้อซูซุกิ สีน้ำเงิน ถูกกระเบื้องหลังคาที่แตกตกใส่ หลังคารถและตัวถังรถเสียหายหลายจุด
จากการสอบถาม น.ส.เฟิร์น อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/106 ขณะเกิดเหตุอยู่ 2 คนกับแม่ คือ น.ส.หวาน อายุ 54 ปี เปิดเผยว่า ตอนเกิดเหตุเวลาประมาณ 17.40 น.ตนนั่งทำงานอยู่ที่ห้องชั้น 3 ตนได้ยินเสียงระเบิดดังตูมเดียว ซึ่งขณะที่ระเบิดบ้านทั้งหลังสั่น กระจกหน้าต่างแตกทั้งหมด ตอนแรกตนคิดว่าฟ้าผ่า หลังจากนั้นตนได้ยินเสียงน้องข้างบ้านร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงรีบวิ่งลงมาดูจึงทราบว่าแก๊สข้างบ้านระเบิด ตอนที่ลงมาถึงตนเห็นน้องที่บาดเจ็บวิ่งออกมาจากบ้าน ตนจึงให้น้องนั่งรอเจ้าหน้าที่กู้ภัยเพราะน้องถูกไฟลวกและน้องถูกน้ำไม่ได้ จากที่เห็นน้องถูกไฟลวกบริเวณผิวหนังแต่ไม่มีเปลวไฟติดตัว ทำให้น้องมีแผลไฟลวกทั้งตัวแต่ที่หนักสุดคือที่บริเวณเท้า เสียงแรงระเบิดดังมากจนหูอื้อ คาดว่าแรงอัดน่าจะขึ้นข้างบนและอัดออกด้านข้าง บ้านสั่น ตอนนี้บ้านตนได้รับความเสียหายคือโรงรถฝ้าหล่นและโครงสร้างเหล็กงอ ห้องครัวฝ้าถล่มลงมา และชั้น 2 โครงสร้างฝ้าหักลงมา หลังคาบ้านทะลุ
ตนไม่คิดว่าเหตุการณ์แก๊สระเบิดจะเกิดขึ้นในบ้านเรือนประชาชนเพราะทุกบ้านใช้แก๊สในการหุงต้มทุกหลังและก็น่าจะรู้ว่าต้องปิดแก๊สหลังใช้เสร็จ และถ้าคิดว่าหัวแก๊สจะรั่วเองก็เป็นไปได้ คิดว่าต้องมีการให้ความรู้เบื้องต้นทั้งก่อนใช้งาน ขณะใช้งานและหลังใช้งาน นอกจากนี้ประชาชนก็ต้องรู้การช่วยเหลือเบื้องต้นหากเกิดเหตุแบบนี้ขึ้น
นายวีรพัฒน์ อายุ 39 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ กล่าวว่า เมื่อวานตนมีงานจึงไม่ได้อยู่บ้าน ตนได้รับแจ้งเหตุประมาณ 17.45 น. ขณะนั้นลูกชายน้องภาคิณ อยู่บ้านคนเดียว ตนได้รับแจ้งจากข้างบ้านและลูกชายว่าแก๊สที่บ้านระเบิด น้องสามารถวิ่งหนีออกมาได้และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ตนได้เจอลูกแล้วแต่น้องยังให้การอะไรไม่ได้มากต้องรักษาตัวก่อนเนื่องจากมีแผลไหม้ทั้งตัว หลังเกิดเหตุพบว่ามีบ้านที่ได้รับความเสียหายทั้งหมด 8 หลัง ที่บ้านตนซึ่งเป็นบ้านเกิดเหตุนั้นฝ้าถล่มทั้งหลังตั้งแต่ชั้น 1-3 ห้องครัวหลังคาหลุดหายไปทั้งหมด เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หลังคาบ้านมีรอบรั่วและฝ้าถล่ม ส่วนบ้านใกล้เคียงแต่ละหลังฝ้าหล่น กระจกแตก หลังคาทะลุ นอกจากนั้นมีรถยนต์เสียหาย 1 คัน ที่บ้านตนมีประกันอัคคีภัยซึ่งอยู่ระหว่างตรวจสอบ ตอนนี้ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไรแน่ แต่ที่รู้ในถังแก๊สไม่มีแก๊สเหลืออยู่ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้นำถังแก๊สไปตรวจสอบอยู่
นายวันชัย วันชาญเวช นายกเทศมนตรีตำบลบางสีทอง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตอนเวลาประมาณ 17.00 น.กว่า หลังจากนั้นได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่ามีผู้ไดเรับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ชีพชองเทศบาลนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้า สอบถามชาวบ้านในที่เกิดเหตุคาดว่าแก๊สน่าจะรั่วและอัดตัวตั้งแต่เช้า จนในถังแก๊สเย็นเหมือนไม่มีแก๊สแล้ว ทำให้แก๊สกระจายไปทั่วบ้านซึ่งน้องคนที่บาดเจ็บพอทราบว่าแก๊สที่บ้านรั่ว น้องพยายามไปปิดเตาแก๊สซึ่งขณะที่ปิดน่าจะไปถูกตัวจุดไฟทำให้ไฟพรึบขึ้นมา ตนได้เข้าไปดูที่เกิดเหตุแล้วหลังเกิดเหตุพบว่าข้างในเสียหายทั้งหมด เกือบทุกห้อง บ้านใกล้เคียงและบ้านด้านหลังก็ได้รับผลกระทบ ตนและเจ้าหน้าที่เทศบาลได้เข้าตรวจสอบและถ่ายรูปความเสียหายไว้ทั้ง 8 หลัง
จากการตรวจสอบพบว่าบ้านที่เกิดเหตุมีประกันอัคคีภัย ต้องดูว่าบริษัทประกันรับผิดชอบครอบคลุมมากน้อยแค่ไหน โดยต้องไปตรวจสอบระเบียบของเทศบาลอีกครั้งว่าสามารถเข้าเยียวยาได้มากน้อยแค่ไหน ถ้าบริษัทประกันไม่ครอบคุม เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางกรวย และเจ้าหน้าพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ส่วนบริษัทประกันอัคคีภัยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วเช่นกัน แต่บริษัทประกันจะรับผิดชอบเฉพาะบ้านที่ทำประกันภัยเท่านั้น ซึ่งบ้านอีก 7 หลังจึงต้องแจ้งความเพื่อยื่นเรื่องรับเงินเยียวยาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
