นับเป็นประเด็นร้อนแรงถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เมื่อเกิดปรากฏการณ์ชาวเน็ตแห่ดูไลฟ์ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ และพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต แห่งวัดสร้อยทอง นับแสน ด้วยลีลาการเทศน์ที่ไม่เหมือนกรอบประเพณีดั้งเดิม ทำให้ชาวพุทธไม่สบายใจและชี้ว่าไม่เหมาะสม
โดยในการเข้าชี้แจง กมธ.ศาสนา พระมหาไพรวัลย์ และพระมหาสมปอง ได้น้อมรับความเป็นห่วง และจะปรับการไลฟ์ให้สำรวมมากขึ้น พร้อมชี้แจงว่า การแสดงธรรมให้วัยรุ่นฟังนั้น ต้องเข้าใจธรรมชาติของวัยรุ่น และปรับให้เป็นตามยุคสมัย แต่แก่นของธรรมะนั้นยังคงเดิมเพราะบรรยายธรรมมานับ 20 ปีแล้ว พร้อมทั้งยืนยันว่าจะไลฟ์ต่อไป
ล่าสุด ในการไลฟ์คืนวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่ามีชาวเน็ตเข้าชมไลฟ์นับแสนเช่นเดิม โดยพบว่า ตอนหนึ่งของการสนทนากับชาวเน็ต มีคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า “หนูเป็นซึมเศร้ามา 7 ปีแล้วค่ะ” โดยพระมหาไพรวัลย์ ได้ตอบชาวเน็ตว่า “เราต้องยอมรับตัวเองให้ได้ว่าเราป่วย แล้วไปปรึกษาหมอ ไปหาจิตแพทย์ เข้าสู่กระบวนการรักษาให้ถูกทาง ต้องไปหาหมอนะ อย่าคิดว่าป่วยแล้วมาปฏิบัติธรรมจะหายนะ วัดเรามีแม่ชีกระโดดน้ำตาย มีพระผูกคอตายเพราะเป็นซึมเศร้า อย่าปล่อยไว้นะไปหาหมอนะ”
พร้อมทั้งยังย้ำว่า อย่าคิดว่าการไปพบแพทย์เป็นเรื่องผิดปกติ ขอให้ไปพบจิตแพทย์ แล้วเอาธรรมะชุบชู ปัญหาอย่างหนึ่งคือ ไม่ไปปรึกษาคนอื่น พระพุทธเจ้าจึงบอกว่า กัลยาณมิตร เป็นสิ่งสำคัญ ขอให้หาคนที่ไว้ใจได้ ปรึกษาความทุกข์นั้น โดยพระมหาสมปอง ได้ระบุว่า หมอจะมียาต้านความเครียดให้ สิ่งที่เป็นคือสารเคมีในสมองผิดปกติไป นอกจากนี้ ยังมีเด็กๆ เข้ามาปรึกษาอีกหลายเรื่อง เช่น พ่อแม่ ทะเลาะกันทุกวันจะทำอย่างไร และอีกหลายคำถาม ซึ่งบรรยากาศการคุยเป็นไปด้วยสาระ สอดแทรกความสนุกตลอดการสนทนา
โดยบทสนทนาดังกล่าวได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก เพจ The Doc Life ซึ่งเป็นเพจทางการแพทย์และสุขภาพ ได้เขียนชื่นชมการตอบคำถามดังกล่าว ว่า จากทวีตนี้ บ่งบอกได้ชัดเจนว่า พระมหาไพรวัลย์ เข้าใจ และมองโลกได้ตามความเป็นจริง ไม่เน้นเพียงความศรัทธา อย่างที่ท่านบอก แม้แต่คนที่บวช ปฏิบัติธรรมตลอดเวลา ยังหนีความทุกข์ไม่พ้น แต่ไม่ใช่ว่า การปฏิบัติธรรมช่วยอะไรไม่ได้ เน้นย้ำอีกครั้งว่า “วิธีที่เราทำ เหมาะกับตัวเรามั้ย?” บางครั้ง ศรัทธา ก็ช่วยให้เรามีหวัง ช่วยเยียวยาจิตใจ แต่ก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน
พร้อมทิ้งท้ายว่า “ไม่มีใคร เอาชนะสารสื่อประสาทในสมองได้หรอกครับ ซึ้งในรสพระธรรมแค่ไหน ถ้าสารสื่อประสาทมากหรือน้อยไป อารมณ์ก็จะมาเหนือเหตุผลของคุณเองโดยอัตโนมัติ ธรรมะ คือ ความธรรมดา ความธรรมดา เป็นธรรมชาติของทุกสิ่ง หมอรู้ หมอเข้าใจ เพราะหมอเคยเป็น และ ….หมอผ่านมันมาได้แล้ว”