“แรมโบ้” แก้เกี้ยว ฟ้องเอาผิดคนอัดคลิปโควตาสลากฯฉาวไปเผยแพร่ ทวงบุญคุณสวมบทองครักษ์เสี่ยงตายแทน “ลุงตู่” “จุรีพร” เปิดตัวละคร “นายกิ๊ก” มือถ่ายคนใกล้ตัว “บิ๊กตู่” ให้ “โบ้” พิสูจน์ตัวเอง ลั่นถ้าผิดไม่เอาไว้ ยังไม่คิดเปลี่ยนตัวแถมไม่กลัวซักฟอก กมธ.ปราบโกงสภาฯตั้งแท่นรอสอบ “สมชัย” ชี้เป้าผิด พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. กระทุ้ง กกต.สอบ ไม่งั้นเจอ ม.157 โทษฐานเกียร์ว่าง “ชัยวุฒิ” ปัด พปชร.ในคราบพรรคทหาร “เสี่ยหนู” เข็ดแล้วจับมือจัดตั้งรัฐบาลล่วงหน้า “ชัชชาติ” ไม่หลงกระแสผลโพลชูโรง “สุชัชวีร์” รับเป็นรองยิ่งต้องขยัน “อัศวิน” เมินโพลธรรมศาสตร์ “บิ๊กตู่” แบะท่าโละสัญญาซื้อเรือดำน้ำทำใหม่
หลังมีการปล่อยคลิปเสียงการเจรจาขอโควตาสลากกินแบ่ง ระหว่างนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วย รมต.ประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการฯ แก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา และนางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จนกลายเป็นเรื่องอื้อฉาว และถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักนั้น
“โบ้” ฟ้องแก้เกี้ยวปมคลิปฉาว
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 4 เม.ย. ที่ สน.ดุสิต นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา พร้อมนางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายก รัฐมนตรี เข้าพบ พ.ต.ท.พิชัย มีอัฐมั่น รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ดุสิต นายเสกสกลกล่าวว่า มาแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่ตัดต่อคลิป และให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่อัดคลิปเสียงบิดเบือนข้อเท็จจริงไปก่อนหน้านี้ ส่วนการพูดคุยกับนางจุรีพรตามที่ปรากฏในโลกออนไลน์ ยืนยันว่ารู้จักกันมานานร่วม 20 ปีตั้งแต่สมัยเสื้อแดง พูดคุยกันทุกเรื่องหยอกล้อกันมาตลอด โดยเฉพาะเรื่องยืมเงิน และเป็นคนชวนนางจุรีพรให้มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เหตุการณ์ในคลิปเสียงนางจุรีพรสอบถามตนเรื่องโควตาลอตเตอรี่ ก็บอกไปว่าไม่มีอำนาจให้โควตาหวยใคร ต้องทำไปตามระบบของกองสลากฯ
ทวงบุญคุณเสี่ยงตายแทน “ตู่”
นายเสกสกลกล่าวอีกว่า คลิปเสียงดังกล่าวมีการตัดต่อหลายช่วง มองว่าอาจเป็นเกมการเมือง เพราะเป็นองครักษ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ยอมเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายไม่มีแม้เสื้อกันกระสุน ได้แจ้งกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความแล้วให้นำข้อเท็จจริงเสนอออกมาทั้ง 2 ฝ่าย ล่าสุดเห็นว่านายษิทรานำคลิปขอโทษของนางจุรีพรมาโพสต์ลงเฟซบุ๊กแล้ว ยืนยันว่าความจริงก็คือความจริง ประชาชนมั่นใจได้ นางจุรีพรก็ออกมาขอโทษแล้ว แสดงว่าตนไม่มีผลประโยชน์แอบแฝงใด หากใครสงสัยไปสอบถามกับ“บิ๊กโจ๊ก” (พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และ“บิ๊กจวบ” (พล.ต.ท.ประจวบ วงษ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร.) ได้ ส่วนการดำเนินคดีกับนายษิทรานั้น ขอไปตรวจสอบทุกคนที่เกี่ยวข้องก่อนว่าได้รับความเสื่อมเสียอย่างไร จึงจะดำเนินคดีต่อไป เน้นคนอัดคลิปเสียง ได้แจ้งความดำเนินคดี “นายกิ๊ก” เรียบร้อยแล้ว รอตำรวจเรียกมาสอบปากคำ เมื่อถามว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร จะเข้ามาสอบเรื่องนี้ นายเสกสกลตอบว่าพร้อมเข้ารับการสอบสวน ทั้งนี้ นายกฯกำชับตนเรื่องของการโทรศัพท์ให้ระมัดระวังการถูกบันทึกเสียง
“จุรีพร” รับคนใกล้ตัวก่อเรื่อง
นางจุรีพร สินธุไพร ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มาลงบันทึกประจำวันเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ วันที่เกิดเหตุได้ไปรับประทานอาหารกับครอบครัว และคนติดตาม มีน้องอีกคนมากับผู้ติดตาม คือ “นายกิ๊ก” ได้มานั่งข้างตน และนายเสกสกลโทรศัพท์ผ่านแอปพลิเคชันไลน์มาหาตน ขณะที่กำลังพูดคุยกับนายเสกสกลนั้นได้เปิดลำโพง เพราะถือว่าไม่ใช่ความลับอะไรจึงไม่ได้สนใจ มีการพูดคุยเรื่องการขอโควตาลอตเตอรี่ นายเสกสกลได้ปฏิเสธมา และบอกด้วยว่ามีคนมาติดต่อขอเข้าพบเยอะเพื่อขอโควตา แต่ไม่ให้พบ นายเสกสกลยังพูดคุยหยอกเล่นเรื่องขอยืมเงิน ซึ่งเป็นเรื่องปกติ จนกระทั่งถูกบันทึกเสียงและคลิปเสียงดังกล่าวก็ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้ได้รับผลกระทบและนายเสกสกลได้รับความเสียหาย
“วันนั้นที่พูดว่าถ้ามีโควตาแบ่งด้วยเป็นการพูดเล่น หยอกล้อ ไม่ได้ขอจริงจัง และหลังเกิดเหตุได้ติดต่อนายกิ๊กไปตอนแรกก็รับสาย แต่พอโทร.ไปอีกครั้งนายกิ๊กไม่รับสายแล้ว ที่มาดำเนินคดีกับนายกิ๊กวันนี้ เพราะนายเสกสกลได้รับความเสียหาย คิดว่าคนที่ทำคงต้องการอัดเสียงเพื่อนำไปกล่าวอ้างเอาผลประโยชน์ บอกกล่าวกับคนอื่นเรื่องโควตาลอตเตอรี่มากกว่า”
“บิ๊กตู่” ให้พิสูจน์ถ้าผิดไม่เอาไว้
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่านายเสกสกลชี้แจงไปแล้วและได้เรียกมาสอบถามแล้วเช่นกัน นายเสกสกลยอมรับว่าถ้าผิดกฎหมายก็ยอมรับทุกอย่าง ขอให้ดูสิ่งที่เขาทำในวันนี้ ก็ให้โอกาสเขา และไม่ได้ทำคนเดียว คณะทำงานที่ตั้งขึ้นมามีทั้ง รมต.ประจำสำนักนายกฯ ผบ.ตร. รวมทั้งหน่วยงานอื่นและสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ช่วยกันทำ ได้บอกไปว่าให้ดำเนินการอย่างระมัดระวังที่สุดและไม่ละเว้นถ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเสกสกล ได้กำชับไปแล้ว เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวหรือไม่ เพราะเกิดความไม่เชื่อมั่นการแก้ปัญหาสลากแพง พล.อ.ประยุทธ์ย้อนถามว่า “ใครล่ะที่ไม่เชื่อมั่น ฟังทั้ง 2 ทางสิ และถ้ามันผิดกฎหมายก็ไม่เอาใครไว้ทั้งนั้นแหละ” เมื่อถามว่าเป็นการดิสเครดิตทางการเมืองหรือไม่ นายกฯตอบว่าคิดเองก็ตอบเอง ก็รู้คำตอบอยู่ทุกเรื่องมันการเมืองหมด สุดแล้วแต่สังคมจะว่ายังไง
กมธ.ปราบโกงตั้งแท่นรอสอบ
นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โฆษกคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบสภาฯ กล่าวถึงกรณีคลิปหลุดการสนทนาระหว่างนายเสกสกล อัตถาวงศ์ และนางจุรีพร สินธุไพร เรื่องโควตาลอตเตอรี่ว่า ต้องรอดูว่ามีกรรมาธิการฯคนใดเสนอเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุมหรือไม่ หรือจะมีบุคคลใดยื่นเรื่องให้กมธ.ตรวจสอบหรือไม่ จากนั้นจึงจะพิจารณาว่ารับไว้ตรวจสอบหรือไม่ ส่วนตัวยังไม่สรุปว่าคลิปเสียงดังกล่าวมีข้อเท็จจริงอย่างไร เพราะการทำงานตรวจสอบรัฐบาลที่สืบเนื่องมาจากการยึดอำนาจ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก มองว่าประเด็นนี้ พล.อ.ประยุทธ์ต้องจัดการ ไม่ปลดก็ต้องพักงาน และตรวจสอบโดยด่วน เพราะเป็นคนทำงานให้รัฐบาล หากนายกฯไม่จัดการอาจถูกมองว่ามีส่วนรู้เห็น หรือใช้คนของตัวเองทำงานให้ตัวเองได้ประโยชน์หรือไม่ เรื่องนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์การเมือง ตามที่นายกฯเคยระบุไว้เสมอว่าต้องการปฏิรูปการเมือง
“สมชัย” ยุฟัน 157 กกต.เกียร์ว่าง
ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า กรณีแรมโบ้ ถูกผิดว่าไปตามกฎหมาย นายกฯว่าอย่างนั้น 1.ใช้เงินซื้อเสียงผิดแน่นอน ไม่ว่าจะได้รับหรือไม่ได้รับเลือกไม่มีอายุความ เปิดมาตรา 138 พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ดูได้ หาก กกต.สอบสวนแล้วเป็นจริง ต้องยื่นศาลฎีกาเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง หรือสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง 2.ยังมีโทษอาญา เท่ากับผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 73 (1) จำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท เพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 20 ปี 3.จะใช้ 15 ล้าน หรือ 100 ล้าน เพื่อสู้ฝ่ายตรงข้าม เท่ากับแจ้งบัญชีรายรับรายจ่ายหลังเลือกตั้งเป็นเท็จ ผิดมาตรา 155 วรรคสอง ผู้สมัครหรือหากเกี่ยวข้องไปถึงหัวหน้าพรรค ต้องระวางโทษจำคุก 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี 4.เรื่องนี้เป็นข่าวครึกโครม ถือเป็นความปรากฏ ที่ กกต.หยิบยกขึ้นมาพิจารณาโดยไม่ต้องมีผู้ร้องได้ ยกเว้น กกต.ประเทศนี้ไม่เคยฟังข่าว 5.ดีที่สุดกรณีนี้ผู้มีส่วนได้เสีย คือผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ผู้สมัครรับเลือกตั้งในเขต 10 นครราชสีมา ควรยื่นคำร้องต่อ กกต. 6.กรณี กกต.ไม่หยิบยกขึ้นมาพิจารณา สามารถฟ้องอาญา 157 กกต.ทั้ง 7 คนได้
“ชัยวุฒิ” ปัด พปชร.พรรคทหาร
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงการแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่ว่าไม่ได้ปรับเปลี่ยนอะไรมาก มีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เป็นเลขาธิการพรรค เชื่อมั่นว่าจะมาช่วยทำให้พลังประชารัฐทำงานได้ดีขึ้น และยังมีกรรมการบริหารพรรคมาช่วยเสริมทีม เชื่อว่าเมื่อเข้าสู่การเลือกตั้งถ้าเราขับเคลื่อนนโยบายช่วยเหลือพี่น้องประชาชนมากขึ้น จะมีคะแนนนิยมดีขึ้น เมื่อถามว่านายสันติประกาศว่าจะได้ 150 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายชัยวุฒิตอบว่า เราประกาศตัวเลขนี้เป็นเป้าหมายมานานแล้ว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. พูดมาก่อนแล้ว เมื่อถามว่า อะไรทำให้มั่นใจว่าจะได้ 150 เสียง นายชัยวุฒิตอบว่า ประเมินจากพื้นที่และ ส.ส.เขตที่มีอยู่เดิม รวมถึงผู้สมัคร ส.ส.ใหม่ ที่จะเข้ามาในพรรค ส่วนการตั้ง 2 อดีตนายทหารมาร่วมเป็น กก.บห.พรรคจะช่วยประสานงานให้ราบรื่นขึ้น มีความเข้าใจที่ดีต่อกันและมีความชัดเจนมากขึ้น พล.อ.ประวิตรจะทำงานเต็มที่มากขึ้น เมื่อถามว่าจะถูกมองว่าเป็นพรรคทหารหรือไม่ นายชัยวุฒิตอบว่า ไม่ใช่เป็นพรรคทหาร แต่เป็นพรรคที่มีสมาชิกหลากหลาย
เข็ดจับมือตั้งรัฐบาลล่วงหน้า
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยกล่าวถึงการประกาศตั้งเป้าให้ได้ ส.ส. 150 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งหน้าของ พปชร.ว่า ขอแสดงความยินดีล่วงหน้า เมื่อถามว่าจะประกาศจับมือพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมก่อนเลือกตั้งหรือไม่ นายอนุทิน ตอบว่า เราเป็นพรรคที่ไม่เชื่อเรื่องการจับมือก่อน เพราะเคยได้บทเรียนจากการทำเช่นนั้นมาแล้ว พอเลือกตั้งเสร็จมีความผิดพลาดก็ไม่มีความหมาย ต้องอยู่บนความเป็นจริงจะคิดจะอ่านอะไรก็เมื่อผลคะแนนออกมาแล้ว ใครไม่เคยโดนสภาพนี้ไม่รู้ เรามีบทเรียนมาก่อนจะไม่ทำผิดพลาดอีก อยู่ด้วยตัวเราเองทำให้ดีที่สุดไม่ต้องไปเที่ยวจับอะไรกับใคร ถ้าทำตัวให้ดีที่สุดเดี๋ยวก็มีคนมาชวนเอง ส่วนการลงพื้นที่ถี่ในช่วงนี้ของนายกฯ จนถูกมองว่าเป็นการหาคะแนนนิยมให้ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.บางคนนั้น เวลาไม่ลงก็ว่าไม่ลงพื้นที่ แต่เวลาลงจะไปว่าทำไม นายกฯพูดชัดเจนว่าสนใจทำการเมืองต่อไป จึงไม่แปลกอะไรกับการลงพื้นที่
“ชัชชาติ” แง้มแผนงานเร่งด่วน
เวลา 07.00 น. ที่เขตบางนา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เบอร์ 8 ลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดบางนา และตลาด ศิลวัฒน์ ถนนสรรพาวุธ เข้ากราบขอพรพระศรีศาสนวงศ์ (สนอง อนุภทฺโท ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดบางนาใน เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนออกเดินขอคะแนนเสียง พร้อมสอบถามสภาพปัญหาจากประชาชนและพ่อค้าแม่ค้าในตลาด นายชัชชาติกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ชาวบ้านบ่นเป็นเสียงเดียวกันถึงปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าราคาแพงขึ้น คนมีกำลังซื้อน้อย ปัญหาเรื่องการคมนาคม บริเวณแยกบางนา แม้จะมีรถไฟฟ้า บีทีเอส และทางด่วน แต่ชาวบ้านยังเจอปัญหาเรื่องค่าโดยสารแพง กทม.มีแผนที่จะทำรถรางสายบางนา-สุวรรณภูมิ ต้องทบทวนและดูรายละเอียดว่าใครจะเป็นคนดำเนินการ ระหว่าง กทม.หรือ รฟม.
ไม่หลงกระแสผลโพลชูโรง
นายชัชชาติยังกล่าวถึงกระแสสำรวจความนิยมที่ยังนำมาเป็นอันดับ 1 ว่า เรื่องผลโพลไม่สามารถเป็นตัวชี้วัดได้ ไม่ให้ความสำคัญมากนัก อย่าเชื่อผลโพลมากเกินไป เพราะสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เป็นสนามหักปากกาเซียน ตัวชี้วัดอยู่ที่จำนวนพี่น้องประชาชนออกมาใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า เชื่อว่าพี่น้องชาว กทม.จะให้ความไว้วางใจ เชื่อมั่นในนโยบายที่ตนจะทำให้กรุงเทพฯเป็นที่เมืองน่าอยู่ ตอนนี้พยายามลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนให้มากขึ้น เพราะไม่มีทีมสนับสนุนมืออาชีพ ลงในนามอิสระ คนที่มาช่วยงานส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ จึงวางแผนใช้การปราศรัยย่อย และการหาเสียงทางโซเชียลมีเดียเป็นหลัก
“สุชัชวีร์” ขอแก้ 4 ปัญหาหลัก
ที่ซอยอารีย์ ย่านพหลโยธิน นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 4 พรรคประชาธิปัตย์ นำทีมผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค ลงพื้นที่พบพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน นายสุชัชวีร์กล่าวถึงกรณีมีผู้สนใจลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.กว่า 20 คน ว่า ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมาย ต้องขยันยิ่งขึ้นและต้องทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจในนโยบายที่ได้ประกาศออกไปว่าทำได้จริง มั่นใจว่ากรุงเทพฯต้องเปลี่ยนเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียนให้ได้ ไม่อยากให้ปัญหาซ้ำซากนี้ไปถึงผู้ว่าฯคนต่อไป สิ่งแรกหากได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. จะทุ่มเทกำลังแก้ปัญหาเร่งด่วนคือโควิด ซึ่งจะแก้ได้อีก 4 เรื่องทันที คือ 1.เศรษฐกิจ 2.การท่องเที่ยว 3.กำลังพลบุคลากรทางการแพทย์ 4.งบประมาณไปพัฒนาด้านอื่น เป็นเรื่องเร่งด่วนสำคัญที่สุด
กระแสเป็นรองยิ่งต้องขยัน
นายสุชัชวีร์ยังกล่าวถึงการจัดทำป้ายหาเสียงว่า มีจำนวนน้อย แต่ทำไว้หลายรูปแบบให้เหมาะสมกับยุคสมัย สำหรับผู้สมัครบางคนที่ใช้ป้ายหาเสียงขนาดเล็กนั้น ความจริงมีใช้มานานแล้ว ของตนก็มีแต่ยังไม่ได้ติด แต่กำชับทีมงานให้ระมัดระวังการติดตั้งป้ายไม่ให้กีดขวางการจราจร ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและวิสัยทัศน์ของคนเดินเท้า ต้องไม่บังทางข้าม ทางม้าลาย ส่วนเรื่องการถูกทำลายป้ายนั้นยังไม่พบ และหากพี่น้องประชาชนพบเห็นป้ายหาเสียงของตนติดตั้งกีดขวาง หรืออาจก่อให้เกิดอันตราย ให้แจ้งเข้ามาทางไลน์หรือเฟซบุ๊กก็ได้จะรีบดำเนินการแก้ไขทันที ส่วนเรื่องโพลสำรวจความนิยมถือเป็นเรื่องปกติ ยิ่งเป็นรองก็ต้องยิ่งขยันมากยิ่งขึ้นครับ
“อัศวิน” เมินโพลธรรมศาสตร์
ขณะที่ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 6 ให้สัมภาษณ์ระหว่างลงพื้นที่พบประชาชน ที่อาคารรักษ์กรุงเทพ ถึงผลโพลของมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ ที่พบว่ายังมีคะแนนนิยมมาเป็นอันดับ 4 ว่า ไม่กังวลใจอะไร เพราะเปิดตัวช้ากว่าผู้สมัครคนอื่น การหาเสียงเพิ่งจะเริ่มต้น ยังมั่นใจในทุกเรื่องที่เคยได้แก้ปัญหา ได้พัฒนา และสร้างสรรค์แต่สิ่งดีๆให้คนกรุงเทพฯ ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม.มา 5 ปีเศษ เชื่อว่าพี่น้องประชาชนมองเห็นและรับรู้ได้ว่าอยากจะทำงานต่อให้ ได้รับเสียงตอบรับดี ทำให้มีความฮึกเหิมขึ้น อีก 48 วันที่เหลือยิ่งมั่นใจ จนกว่าจะถึงวันเข้าคูหาลงคะแนนเสียง
“บิ๊กตู่” ยันไทยพยายามวางตัว
ช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม แถลงหลังเป็นประธานประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ครั้งที่ 1/2565 ว่า หารือหลายเรื่อง ทั้งมิติแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ เรื่องสงครามรัสเซียกับยูเครน ต้องกำหนดบทบาทประเทศไทยว่าจะอยู่ตรงไหน ต้องเอาประโยชน์ชาติเป็นหลัก และปฏิบัติตามพันธกรณีกฎหมายระหว่างประเทศ หรือกลไกองค์กรระดับประเทศ สิ่งสำคัญคือเน้นเรื่องมนุษยธรรมเราระมัดระวังที่สุด จากผลหารือพบปะทูตหลายประเทศที่ถามเรื่องนี้ เขาก็พอใจในคำตอบ
แบะท่าโละสัญญาซื้อเรือดำน้ำ
เมื่อถามถึงกรณีกองทัพเรือและจีนหารือหาทางออกหลังเยอรมนีไม่ขายเครื่องยนต์เรือดำน้ำที่ไทยสั่งซื้อจากจีน พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า ให้นโยบายดำเนินการให้สำเร็จ เพราะอยู่ในสัญญาแล้ว หากไม่ได้ก็คือไม่ได้ ต้องทำใหม่ กองทัพเรือชี้แจงหลายรอบแล้ว ถ้ามันไม่มีเครื่องรัฐบาลจะซื้อมาทำไม ในเมื่อสัญญาเซ็นไว้แล้วทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีการจะทำอย่างไรต่อไป เมื่อถามว่า ระดับรัฐบาลสามารถยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ นายกฯตอบว่า เป็นเรื่องของคณะกรรมการจะพิจารณาตามกฎหมาย กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมีอยู่ ไม่ใช่นายกฯต้องไปสั่งทุกเรื่อง เมื่อถามว่าถ้ายกเลิกการจัดซื้อจะกระทบความสัมพันธ์กับจีนหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า มันไม่ได้กระทบที่เราเพราะเป็นผู้ซื้อ ถ้าเครื่องยนต์นี้ไม่ได้ หาเครื่องยนต์ใหม่ไม่ได้ ก็ยกเลิกสัญญาแล้วจัดหาใหม่ เมื่อถามว่ามั่นใจว่าศึกซักฟอกจะชี้แจงได้ทุกเรื่องหรือไม่ นายกฯตอบว่า ชี้แจงทุกเรื่องด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์ บางเรื่องไม่ใช่ที่ตนต้องลงไปรับผิดชอบเพราะมีขั้นตอนดำเนินการต่อเนื่อง ถ้านายกฯต้องลงไปถึงระดับล่างเลยมันถูกต้องไหม
