“แรมโบ้” เอาใจ “บิ๊กตู่” ยอมสละเก้าอี้ผู้ช่วย รมต. สังเวยคลิปเสียงโควตาหวยป้องกันครหาใช้บารมีนายกฯเข้าแทรก พร้อมพิสูจน์ตัวตามกระบวนการ “ประยุทธ์” พร้อมรับมือซักฟอก-งบฯปี 66 “วิษณุ” เตือน 36 รมต.ระวังตัว แม้ไม่ตกเป็นเป้าอภิปราย “ชวน” แนะ กก.บห.เร่งไขปม “ปริญญ์” ป้อง “ศุภชัย” ไม่ใช่คนใช้อิทธิพลกลั่นแกล้งใคร “พนิต” กระทุ้งผู้บริหารกู้วิกฤติศรัทธา “นิพนธ์” ย้ำอีกเป็นเรื่องส่วนตัวอย่าเหมารวม กาหัวคนปล่อยข้อมูลไลน์ไร้วุฒิภาวะ “วิโรจน์” งงก้าวไกลถูกโยงเฉย เครือข่ายองค์กรสตรีลุกฮือไล่บี้ ปชป. “ฟลุ๊ค” แสบโต้ “ศิธา” สอดแนมในไลน์พรรคคนอื่นมีมารยาทมั้ย “ปารีณา” จี้สอบจริยธรรม “เสรีพิศุทธ์” ไล่เช็กบิล “ยุทธพงศ์-ประเสริฐ” “เบียร์-ปรเมศวร์” ชูนาเกลือทำตลาดปลา แบบญี่ปุ่น
หลังเกิดคลิปเสียงฉาวการเจรจาโควตาหวย ระหว่างนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กับ น.ส.จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แม้มีเสียงเรียกร้องให้ปลดนายเสกสกลพ้นจากตำแหน่ง แต่ก็มีความพยายามจะยื้ออยู่ต่อ ล่าสุดนายเสกสกล ประกาศยอมลาออกจากทุกตำแหน่งแล้ว
“แรมโบ้” ยอมทิ้งผู้ช่วย รมต.
เมื่อเวลา 15.35 น. วันที่ 18 เม.ย. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ฉายา “แรมโบ้” ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาผู้ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินกว่าราคาที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล อ่านแถลงการณ์ลาออกจากตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว มีผลวันที่ 19 เม.ย. เหตุที่ตัดสินใจลาออกเพราะสำนึกรับผิดชอบต่อความรู้สึกของประชาชน จากที่ปรากฏคลิปเสียงพูดโทรศัพท์กับ น.ส.จุรีพร สินธุไพร ข้าราชการการเมือง เป็นเหตุให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ และมีการตั้งข้อกล่าวหาเป็นประเด็นทางการเมือง ควรพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้เป็นที่ประจักษ์ ให้เป็นตัวอย่างและบรรทัดฐานจริยธรรมทางการเมือง เมื่อมีข่าวอาจกระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อถือของทีมงานนายกฯ จึงคิดว่าไม่เป็นผลดีต่อรัฐบาล และไม่ประสงค์จะเป็นฟันเฟืองที่ชำรุด เพื่อไปพิสูจน์ความจริงตามกระบวนการยุติธรรม
พร้อมพิสูจน์ตามกระบวนการ
นายเสกสกลกล่าวอีกว่า ไปกราบลานายกฯด้วยตัวเอง ไม่อยากให้ใครมามองว่านายกฯปกป้องหรืออุ้มตน และไม่อยากใช้ตำแหน่งบารมีนายกฯและตัวเอง ไปเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม พร้อมจะพิสูจน์และเข้าสู่กระบวนการ แต่กรุณาว่าขอให้เป็นไปด้วยความยุติธรรมจริงๆ สำหรับภารกิจการแก้ไขปัญหาราคาสลากกินแบ่งรัฐบาลไม่ให้เกิน 80 บาทนั้น ได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย และมีมติตามคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนฯ ที่ตนเป็นประธานและได้ข้อสรุปแล้ว มั่นใจว่าหากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ดำเนินการตามแนวทางมติของคณะอนุกรรมการฯ จะสามารถควบคุมราคาสลากได้ไม่เกิน 80 บาทแน่นอน ถือว่าทำหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเสร็จสิ้นภารกิจแล้ว และได้ลาออกจากทุกตำแหน่งในการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อมิให้เกิดข้อครหาเกี่ยวกับผลประโยชน์ใดๆในโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาล
โอ่เคลียร์ให้สังคมสบายใจ
นายเสกสกลกล่าวว่า ส่วนการดำเนินคดีกับบุคคลที่ไม่ประสงค์ดี และหวังทำลายชื่อเสียง บิดเบือนข้อเท็จจริงให้เกิดความเสียหาย ขอใช้สิทธิ์ส่วนตัวดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านั้นตามกฎหมาย เพื่อมิให้ใช้วิธีการและพฤติกรรมเช่นนี้ไปทำลายชื่อเสียงบุคคลอื่นอีก เมื่อถามว่าเคลียร์ทุกอย่างแล้วจะกลับเข้ามาใช่หรือไม่ นายเสกสกลตอบว่า เคลียร์ให้สบายใจ เคลียร์ให้สังคมเห็นว่าบริสุทธิ์ใจ ต้องการให้สังคมได้รู้ว่าคนอย่างตนไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เมื่อถามว่าในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ นายเสกสกลตอบว่า ไม่ได้รับตำแหน่งอะไร เพราะเป็นเพียงแค่ผู้ก่อตั้ง ใครจะเดินหน้าต่อก็ว่าไป เมื่อถามย้ำว่าจะไม่ทำพรรคต่อใช่หรือไม่ นายเสกสกลตอบว่า ไม่รู้ แต่ถ้าอนาคตข้างหน้าไม่มีคนทำจะเอากลับมาทำ ถ้ามีคนทำก็เอาไปทำเลย ไม่มีปัญหา
ดีเดย์หวย 80 บ. งวด 16 มิ.ย.
พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติ 1.จะนำรายชื่อผู้ค้านอกระบบทั้งหมด ให้กับคณะกรรมการชุดใหญ่ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์โควตาจากกองสลากในราคาต้นทุน คาดว่าจะมีเป็นหมื่นราย 2.การจำหน่ายสลาก 80 บาท 1,000 จุดทั่วประเทศ ในระดับอำเภอ หากตัวแทนไม่สมัคร จะให้สิทธิ์ผู้ซื้อจอง และหากผู้ซื้อจองไม่สมัคร จะให้สิทธิ์ผู้ค้านอกระบบแทน และ 3.โครงการผู้ลงทะเบียนในส่วนซื้อจองปี 2558 มียอดทั้งสิ้น 1.2 แสนกว่าราย แสดง ให้เห็นว่าผู้ขายเริ่มตื่นตัวสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ 1 เดือนที่ผ่านมามีการรายงานการสแกนคิวอาร์โค้ดที่แผงจุดขาย เป็นตัวเลขยืนยันว่าที่ผ่านมามีสลาก 80 บาท และมีตัวเลขอย่างน้อยที่เก็บได้ 53,000 กว่ารายทั่วประเทศ ส่วนแพลตฟอร์มจะเริ่มงวดวันที่ 16 มิ.ย.
“บิ๊กตู่” พร้อมรับซักฟอก–งบฯ 66
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการผลักดันข้าวเหนียวมะม่วงเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม หลัง “มิลลิ ดนุภา MILLI” แร็ปเปอร์สาวชื่อดัง ขึ้นโชว์ลีลาแร็ปสุดปัง กินข้าวเหนียวมะม่วงโชว์บนเวทีเทศกาลดนตรีระดับโลก Coachella 2022 จนกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกโซเชียลว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องดำเนินการ เรามีของดีๆอยู่เยอะ ย้ำอยู่เสมอในเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ทั้งอาหาร ธรรมชาติและสุขภาพ ตนเป็นคนกำหนดว่าต้องสนับสนุนและเร่งรัดในการพัฒนาซอฟต์เพาเวอร์ที่มีอยู่ เพื่อทำให้คนสนใจและให้ความสำคัญกับประเทศไทย ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีฝ่ายค้านเตรียมยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายกฯตอบว่า พร้อมๆๆ เมื่อถามถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2566 เข้าสภาฯ พล.อ.ประยุทธ์ยังคงย้ำว่า พร้อมๆๆ ก่อนเดินขึ้นไปยังห้องทำงานตึกไทยคู่ฟ้าทันที
“วิษณุ” เตือน 36 รมต.ระวังตัว
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีฝ่ายค้านเผยข้อมูลว่ามีรัฐมนตรี 3 คน ทุจริตโดยให้ภรรยาและบุตรเป็นผู้ดำเนินการ มีหลักฐานเป็นใบเสร็จว่า อันนี้ไม่ทราบ ยังไม่รู้ว่าใคร ทุกคนต้องระวังอยู่แล้ว รัฐมนตรีทั้ง 36 คน จะทำอะไรผิด ไม่ได้ ไม่ว่าฝ่ายค้านจะอภิปรายหรือไม่ เพราะวันหนึ่งต้องมีองค์กรต่างๆมาตรวจสอบ ต้องระวังกันอยู่ตลอดเวลา สำหรับปฏิทินสภาหลังเปิดสมัยประชุมมีอยู่แล้ว ทั้งร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 2566 ร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับเกี่ยวกับการเลือกตั้ง และมีกฎหมายใหม่ที่รัฐบาลเตรียมเสนอ เช่น พ.ร.บ.คู่ชีวิต หน้าที่รัฐบาลไม่ใช่แค่เข็นๆกฎหมายเข้าสภาฯแล้วผ่าน ไม่ผ่านก็ช่างให้ชุลมุนอยู่ในสภาฯ แต่ต้องออกมาให้ได้ เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านขู่จะคว่ำ พ.ร.บ.งบฯ นายวิษณุตอบว่า ก็แล้วแต่รัฐบาลมีวิธีจัดการและไม่ทำให้การใช้งบประมาณสะดุด
“ชวน” แนะเร่งไขปม “ปริญญ์”
นายชวน หลีกภัย ในฐานะประธานสภาที่ปรึกษาพรรค ปชป. กล่าวถึงผลกระทบจากกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีอนาจารฯและล่วงละเมิดทางเพศว่า ปัญหาภายในพรรคการเมืองเป็นเรื่องที่มีได้เสมอ หนีไม่พ้นต้องมีปัญหาไม่มากก็น้อย เป็นหน้าที่กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ต้องดูแลรับผิดชอบ ต้องพยายามหาโอกาสชี้แจง หลายเรื่องดูแล้วมีความเข้าใจผิด ผู้จัดรายการโทรทัศน์บางทีเสนอก็ไม่ค่อยตรงนัก กระทบต่อชื่อเสียงพรรคและความรู้สึกของผู้สนับสนุน ให้ยึดหลักไว้ว่าเราเป็นพรรคที่ยึดเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตความถูกต้อง ไม่มีอะไรอยู่เหนือกฎหมาย ถูกผิดต้องว่าไปตามนั้น นายศุภชัย พานิชภักดิ์ บิดานายปริญญ์ แม้เคยเป็นรองนายกฯ แต่ไม่ใช่นักการเมืองที่มีอิทธิพลจะไปกลั่นแกล้ง หรือทำอะไรให้บ้านเมืองผิดปกติ ไม่เคยมีปัญหาในทางที่ผิดหรือใช้อิทธิพลใดๆ ขอให้มั่นใจว่าพรรคเราไม่ทำอะไรให้ถูกเป็นผิดหรือผิดเป็นถูก
“พนิต” กระทุ้ง กก.บห.กู้ศรัทธา
นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “กอบกู้ศรัทธา ปชป. อย่าปล่อยผ่านปัญหา” ว่า รู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น หลายวันนี้สังคมมีคำถามวิจารณ์พรรคมากมาย เพื่อรักษาเกียรติยศและศักดิ์ศรีในฐานะพรรคการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด ถูกต้องที่ว่ามันเป็นเรื่องเฉพาะตัวต้องปล่อยให้เป็นเรื่องกระบวนการยุติธรรม แต่ความเชื่อมั่นต่อพรรคก็ต้องตระหนักเช่นกัน วันนี้นับว่าเป็นวิกฤติของพรรค แต่ผู้บริหารแอ็กชันน้อยไปหน่อย โดยเฉพาะเมื่อเกิดเรื่องแล้วได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง อย่าลืมว่าเราเป็นพรรคที่ให้ความสำคัญกับการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อสตรี และเพศวิถีมาตลอด มีบุคลากรที่ทำงานด้านนี้จำนวนมาก ต้องไม่ทำเพียงแคมเปญเท่ๆ ต้องทำให้สังคมเห็นว่าไม่เคยนิ่งดูดาย สิ่งแรกพรรคต้องออกมาไขข้อข้องใจ เช่น มีกระบวนการตรวจสอบประวัติคัดกรองก่อนมาเป็นสมาชิกพรรค หรือดำรงตำแหน่งต่างๆหรือไม่ ถ้ารู้ทำไมถึงรับและแต่งตั้ง ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบหรือไม่ หรือให้ออกจากตำแหน่งแล้วถือว่าจบ? ปัญหาใหญ่มันอยู่ที่ว่า เมื่อเกิดเรื่องแล้วเราสร้างความเชื่อมั่น รักษาศรัทธากับสังคมอย่างไร ทำให้เห็นว่าเราไม่เคยปล่อยปละหรือปล่อยผ่าน
“นิพนธ์” ย้ำเป็นเรื่องส่วนตัว
นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณี ส.ส.พรรค ปชป. เรียกร้องให้ กก.บห.พรรคแสดงความรับผิดชอบลาออกทั้งคณะ ที่มีมติแต่งตั้งนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ว่า นายปริญญ์ลาออกจากสมาชิกพรรค ถือว่าจบจากพรรคไปแล้ว ที่เหลือเป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมือง ไม่จำเป็นต้องตั้งกรรมการสอบ เป็นเรื่องส่วนบุคคล ความเห็นต่างในพรรคถือเป็นเรื่องปกติไม่ควรใช้มาเป็นเกณฑ์เปลี่ยน กก.บห. หลังจากนี้ทุกฝ่ายในพรรคควรร่วมมือกันทำงาน หากเลือกตั้งสมัยหน้าได้ ส.ส.น้อยกว่าเดิม กก.บห.พรรคพร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว ใครผิดว่ากันไปตามผิด พรรคไม่ได้เข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของใคร ถ้าคนทำผิดแล้วเปลี่ยน กก.บห. คงต้องเปลี่ยนกันทุก 3-4 เดือน ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย
กาหัวคนปูดข้อมูลไร้วุฒิภาวะ
เมื่อถามย้ำว่า กรณีที่มีภาพความขัดแย้งในกลุ่มไลน์ผู้บริหารพรรค นายนิพนธ์ตอบว่า สิ่งที่ออกไปสู่ภายนอก เกิดจากคนในพรรคนำเรื่องภายในที่มีความเห็นต่างออกมาเผยแพร่ ดังนั้น คนที่ทำเรื่องนี้ถือว่ามีความผิด และควรถูกตำหนิ รวมถึงเวลาที่มีการพิจารณาตำแหน่งทางการเมือง ต้องถือว่าบุคคลนี้ไม่มีวุฒิภาวะ และไม่ควรให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในวันข้างหน้า ซึ่งขณะนี้ก็พอทราบว่าเป็นใคร
“วิโรจน์” งง กก.ถูกโยงคลิปปริศนา
นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีการเผยแพร่คลิปเสียงบทสนทนาของผู้หญิงกับผู้ชาย มีบางช่วงพาดพิงพรรค ก้าวไกลว่า คนจะดีมันอยู่ที่เนื้อในตัวเอง ไม่มีใครไปสร้างหรือทำอะไรได้ ถ้าทุกอย่างถูกต้อง แทนที่จะมานั่งโทษใคร ควรออกมาพูดความจริงให้สังคมพิจารณา เมื่อเป็นบุคคลสาธารณะต้องกล้าเปิดเผยให้ประชาชนหายสงสัย ย้ำว่าไม่มีมูลเหตุอะไรที่พรรคก้าวไกลจะไปกลั่นแกล้งใช้เกมการเมืองตามที่กล่าวหา เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน แม้จะลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ไม่ใช่การดิสเครดิตให้อีกฝั่งเสียหายเพื่อให้ใครเทคะแนนมาให้ รู้สึกงงว่าพรรคก้าวไกลเคยไปมีเรื่องอะไรกับนาย ป. จึงมากล่าวพาดพิง ยังนึกการเชื่อมโยงไม่ออก
กลุ่มองค์กรสตรีลุกฮือบี้ ปชป.
ขณะที่องค์กรภาคประชาสังคม ประกอบด้วย มูลนิธิผู้หญิง, มูลนิธิเพื่อนหญิง, มูลนิธิหญิงชายก้าวไกล, มูลนิธิส่งเสริมความเสมอภาคทางสังคม, มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ, มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ, มูลนิธิเด็ก เยาวชนและครอบครัว, มูลนิธิเพื่อสิทธิและความเป็นธรรมทางเพศ, มูลนิธิธีรนาถ กาญจนอักษร, มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน, มูลนิธิเพื่อนพนักงานบริการ, มูลนิธิเอ็มพลัส, มูลนิธิซิสเตอร์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องต่อกรณีนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ ได้แก่ 1.เรียกร้องให้นายกฯปลดนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ ออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการระดับชาติส่งเสริมสถานภาพสตรี และงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศ เพราะไม่ได้จัดการตอบสนองต่อปัญหาที่เกิดขึ้นในพรรคอย่างเหมาะสม 2.เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมรับผิดชอบแม้ผู้ถูกกล่าวหาจะลาออกไปแล้ว โดยตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายในพรรค คู่ขนานกับกระบวนการยุติธรรมที่กำลังดำเนินการอยู่ ตลอดจนควรตรวจสอบว่ามีปัญหาในกระบวนการคัดสรรบุคคลเข้ามาดำรงตำแหน่งในพรรค และ 3.เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปกลไกระดับชาติ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความยุติธรรมแก่ผู้หญิงและเด็กจากความรุนแรงในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะการคุกคามและล่วงละเมิดทางเพศ
“ศรีฯ” กดดัน ปชป.ขับ “ปริญญ์”
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องขอ กกต.แจ้งไปยังพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อให้ กก.บห.พรรคมีมติเด็ดขาดตามข้อบังคับพรรค ขับผู้กระทำการฝ่าฝืนออกจากสมาชิกพรรค แม้นายปริญญ์ประกาศลาออกทุกตำแหน่งภายในพรรคแต่ความเป็นสมาชิกพรรคยังไม่ปรากฏว่าลาออกแล้วหรือไม่ จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเลขาธิการ กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมืองต้องดำเนินการ หากละเลย หรือไม่เรียกประชุม ไม่มีมติ ไม่กำหนดมาตรการ หรือวิธีการที่จำเป็น เพื่อมิให้สมาชิกพรรคกระทำการอันมีลักษณะดังกล่าวอีก ต้องแจ้งให้ กกต.พิจารณามีคำสั่งให้ กก.บห.พรรค ปชป.พ้นจากตำแหน่งทั้งคณะได้ และห้ามกลับมาดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองอีก จนกว่าจะพ้น 20 ปีไปแล้ว
“ราเมศ” แจงพ้นสมาชิกไปแล้ว
ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ขอย้ำว่าพรรคไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มีการหารือเป็นการภายในอย่างใกล้ชิด พรรคตระหนักดีในเรื่องนี้ว่าเป็นเรื่องคุณธรรม จริยธรรม และให้ความสำคัญมาตลอด ยืนยันว่าไม่ได้ปล่อยปละละเลยต่อเรื่องนี้ ที่นายศรีสุวรรณตั้งข้อสงสัยว่านายปริญญ์ยังไม่ได้ลาออกจากสมาชิกนั้น ความจริงนายปริญญ์ได้ลาออกจากสมาชิกพรรคแล้วตั้งแต่วันที่ 14 เม.ย. ยืนยันว่าพรรคปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง และข้อบังคับโดยเคร่งครัด เมื่อมีการไปร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมือง ก็ให้เป็นดุลพินิจ ไม่ขอไปก้าวล่วง ให้ว่ากันไปตามกระบวนการ
“ฟลุ๊ค” โต้ “ศิธา” มารยาทมีมั้ย
นายพชร ธรรมมล หรือฟลุ๊ค เดอะสตาร์ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดถึงชื่อพรรคไหน แต่พรรคไทยสร้างไทยกลับออกมายอมรับเอง แปลกใจว่าในเมื่อ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคไทยสร้างไทย ออกจากเพื่อไทยไปนานแล้ว ด้วยมารยาทน่าจะต้องออกจากไลน์กลุ่มเพื่อไทยหรือไม่ การที่พรรคเพื่อไทยจะสื่อสารกันเองคงไม่เกี่ยวกับคนนอก การที่ น.ต.ศิธาไม่ออกจากไลน์กลุ่ม คอยรับข้อมูลของพรรคอื่น แถมยังไปคอมเมนต์ในไลน์กลุ่มของพรรคอื่น ถือเป็นการเสียมารยาทอย่างร้ายแรงหรือไม่ มารยาทแค่นี้ยังไม่รู้แล้วจะเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ได้อย่างไร แทนที่จะไปตำหนินายภูมิธรรม เวชยชัย ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ควรต้องพิจารณามารยาทของตัวเองก่อนไหม และอยากให้ น.ต.ศิธาไปศึกษาคำพูดนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พูดหลายครั้งถึงพฤติกรรมเลวร้ายของใครบางคนที่ให้ร้ายพรรค คิดบ่อนทำลายพรรค หวังตกปลาในบ่อพรรค ถ้าไม่ได้ทำก็ไม่ต้องเดือดร้อน การอ้างเป็นฝั่งประชาธิปไตย ต้องมีจุดยืนที่แท้จริง ไม่ใช่ปากบอกประชาธิปไตยแต่กลับไปนั่งเฝ้าขอพบบิ๊กทหารตามร้านอาหาร มีคนพบเห็นหลายครั้ง ดังนั้น อย่ามาโหนแม้กระทั่งเรื่องประชาธิปไตยเลย ถ้าคนไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้หน้าไหว้ หลังหลอก ปากอย่างใจอย่าง ไม่เห็นต้องเดือดร้อน
“วิเชียร” ไขก๊อก ส.ส.ทิ้ง พปชร.
ช่วงเที่ยงที่รัฐสภา นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ แถลงหลังยื่นใบลาออกจากการเป็น ส.ส. ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า ตลอด 3 ปี ทำหน้าที่ในสภาฯด้วยความคาดหวังให้สมบูรณ์ แต่เมื่อเวลาหนึ่งมีการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่าง จึงคิดว่าต้องลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ ได้แจ้งต่อพรรคและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว หลายคนคิดว่าการลาออกไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหา แต่ยืนยันว่า 3 ปีมานี้ทำเต็มที่แล้ว สิ่งที่อยากทำมีอีกมากมาย ถึงเวลาแล้วต้องพิจารณาตัวเอง ขอเลือกทางเดิน กำลังพิจารณาจะไปทำงานต่อที่ใดให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนและบ้านเมืองต่อไป เมื่อถามว่าหลังจากลาออกจะไปร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ นายวิเชียรตอบว่ากำลังคิดอยู่ คงไปอยู่ ในที่ที่มีโอกาส เปิดโอกาสให้คนได้ทำงานเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ส่วนนายพรชัย ตระกูลวรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรค พปชร. จะตามไปด้วยหรือไม่ คงตอบแทนไม่ได้ แต่คิดว่าคงไม่
ตบเท้าซบสร้างอนาคตไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิเชียรเพิ่งได้รับการแต่งตั้งเป็น กก.บห.พปชร.ในการประชุมใหญ่เมื่อวันที่ 3 เม.ย. ที่ จ.นครราชสีมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ นายวิเชียปฏิเสธไม่รับตำแหน่งไปแล้ว แต่ยังถูกใส่ชื่อกลับมาเป็น กก.บห.พรรค ส่วนลำดับรายชื่อที่จะเลื่อนขึ้นมาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อแทนนายวิเชียร คือนายภาคิน สมมิตรธนกุล ทั้งนี้ ในการแถลงลาออกของนายวิเชียร มีนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย มาฟังและให้กำลังใจด้วย แม้นายวิเชียรยังไม่ระบุชัดจะไปอยู่ไหน แต่พบว่ามีชื่อนายวิเชียรไปปรากฏในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี พรรคสร้างอนาคตไทย ครั้งที่ 1/2565 วันที่ 20 เม.ย. ที่อาคารอิมแพ็ค ฟอรัม เมืองทองธานี โดยคาดว่าจะไปรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค และ ผอ.พรรคสร้างอนาคตไทย
“เอ๋” จี้สอบจริยธรรม “เสรีพิศุทธ์”
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กรณีสร้างสิ่งปลูกสร้างรุกลำน้ำสาธารณะ น.ส.ปารีณากล่าวว่า มายื่นร้องรวม 4 กรณีคือ 1.ให้ตรวจสอบคณะอนุกรรมการ ป.ป.ช. กรณีตรวจสอบ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์รุกล้ำลำน้ำแควน้อย จ.กาญจนบุรี ขณะนี้ยังไม่มีการชี้มูลความผิด ทั้งที่มีคำสั่งศาลปกครอง และคำสั่งกรมเจ้าท่า ให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกล้ำลำน้ำ 3 ไร่ แต่ปัจจุบันไม่มีการรื้อถอน และยังถมเพิ่มเป็น 4 ไร่กว่า แม้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์จะอ้างในชั้นตำรวจและอัยการไม่สั่งฟ้องคดีดังกล่าว เพราะมีใบอนุญาตถมที่ เรื่องนี้มีทั้งความผิดต่อเนื่องและความผิดใหม่ ไม่รู้ว่าอนุกรรมการ ป.ป.ช.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ เทียบกับคดีตนที่ชี้มูลความผิดรวดเร็ว 2.เอาผิด ผบ.ตร. และตำรวจที่เกี่ยวข้องว่าทำหน้าที่ล่าช้าหรือเพิกเฉยการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ที่ไม่ดำเนินการให้เป็นไปตามคำสั่งศาลปกครอง
ไล่เช็กบิล “ยุทธพงศ์–ประเสริฐ”
น.ส.ปารีณากล่าวว่า 3.ให้เร่งเอาผิดทางจริยธรรม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ กรณีสร้างท่าเทียบเรือรุกแม่น้ำเจ้าพระยา และเร่งดำเนินคดีนี้โดยเร็ว 4.ให้ตรวจสอบจริยธรรมนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กรณีใช้อำนาจหน้าที่ ส.ส. และ กมธ.งบประมาณฯ แถลงข่าวบิดเบือนกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ทำให้รัฐเกิดความเสียหาย และถูกกองทัพเรือแจ้งความเอาผิด รวมถึงกรณีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรายอื่นที่ครอบครองที่ดินรัฐโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมาย เชื่อว่าหลังจาก ป.ป.ช.เห็นคำพิพากษาศาลในคดีของตน คงไม่ใช่เรื่องยากในการตรวจสอบ และใช้เวลาไม่นานไปกว่าคดีของตน
“พิชัย” สอน “ลุง” ชะลอเงินเฟ้อ
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ตามที่ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ประกาศว่าตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. จะเลิกอุ้มราคาน้ำมันดีเซลต่ำกว่า 30 บาท โดยจะออกให้บางส่วนแทน อ้างว่าเป็น 1 ใน 10 มาตรการช่วยเหลือ แต่ที่จริงเป็นการเพิ่มภาระค่าครองชีพของประชาชนมากกว่าลดภาระ การปล่อยราคาน้ำมันดีเซลให้ทะลุเกิน 30 บาท/ลิตร ทำให้เงินเฟ้อของไทยที่สูงอยู่แล้วยิ่งสูงมากขึ้น หากเงินเฟ้อของไทยยังคงพุ่งสูงมาก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ยตามทิศทางดอกเบี้ยโลก คนไทยส่วนใหญ่อาจยังไม่ทราบว่าการที่รัฐบาลกู้เงินจำนวนมากจนหนี้สาธารณะจะพุ่งเกิน 10 ล้านล้านบาทแล้วนั้น ต้องมีภาระการจ่ายดอกเบี้ยอย่างมาก ยังไม่รวมการชำระเงินต้น ปัจจุบันรัฐบาลต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึงปีละกว่า 240,000-300,000 ล้านบาท จากหนี้สาธารณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ก่อขึ้น จึงควรชะลอการปล่อยราคาดีเซลเกิน 30 บาท ออกไปก่อน ประคองราคาดีเซลให้นานเท่าที่จะทำได้ เพื่อชะลอเงินเฟ้อ
“เบียร์” ชูตลาดปลานาเกลือ
ที่ตลาดลานโพธิ์ นาเกลือ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ “เบียร์” ผู้สมัครนายกเมืองพัทยา เบอร์ 1 ทีมเรารักพัทยา พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภาเมืองพัทยาเขต 1 เบอร์ 1-6 ประกอบด้วย นางจิดาภา สุวัตถาภรณ์ นายภาสกร อยู่สมบูรณ์ นายธนภัทร อุดมรัตนกูลชัย นายศุภกฤษ์ ชมภูนุช นายอนุพงษ์ พุทธนวรัตน์ นายบรรลือ กุลละวณิชย์ ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชน พ่อค้า แม่ค้า นายปรเมศวร์กล่าวว่า จากนโยบายต่อยอด ต่อเนื่อง เพื่อเมืองพัทยาที่ดีขึ้น มีแผนพัฒนาตลาดนาเกลือภายใต้แนวคิด “ตลาดนาเกลือโฉมใหม่ พื้นที่ค้าขาย รายได้ชุมชน” ยกระดับมาตรฐานและความน่าสนใจ เช่นเดียวกับตลาดปลาที่ญี่ปุ่น ด้วยนาเกลือเป็นชุมชนเก่าแก่ มีอัตลักษณ์เฉพาะ โดยเฉพาะเรื่องอาหารทะเล ประมงพื้นบ้าน ดังนั้นนาเกลือต้องเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของเมืองพัทยา “ทีมเรารักพัทยา” ตั้งเป้าหมายปรับปรุงตลาดสด ทั้งในส่วนของอาหารทะเล ที่ต้องสะอาดไม่แออัด การสร้างสะพานเชื่อมต่อ สะพานลานโพธิ์กับสะพานยาว ปรับปรุงพื้นที่สวนหย่อม รวมถึงจัดสร้างที่จอดรถยนต์เพิ่มเติม ให้รองรับได้ถึง 239 คัน ทั้งหมดนี้ เป็นการสร้างประโยชน์ให้กับเมืองพัทยา นำมาซึ่งการมีพื้นที่ค้าขายและสร้างรายได้ให้กับชุมชน
เคาะวันเลือกซ่อมราชบุรี 21 พ.ค.
อีกเรื่อง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้พิจารณากำหนดวันเลือกตั้ง และวันรับสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ราชบุรี เขต 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยกำหนดให้วันที่ 21 พ.ค. เป็นวันเลือกตั้ง ส่วนวันรับสมัครเลือกตั้งคือวันที่ 21-25 เม.ย. เวลา 08.30-16.30 น. (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) ณ สถานที่ที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งกำหนด การเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดการเลือกตั้งดังกล่าว สำนักงาน กกต. มีมาตรการเพิ่มเติมภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุข