วันนี้ (2 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ กองบัญชาการคำรวจนครบาล หรือ บชน. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ เดินเข้ามาในกองบัญชาการตำรวจนครบาล เป็นช่วงเวลาเดียวกับที่นายสันธนะ ประยูรัตน์ เพิ่งลงจากรถ แต่ก็มีทีมงานที่ติดตามนายสันธนะใส่เสื้อสีชมพูเดินเข้าไป ก่อนที่นายชูวิทย์จะถึงตัวนายสันธนะ ชายเสื้อชมพูได้ล็อคคอนายชูวิทย์ จนเกิดการชุลมุนกัน ตำรวจควบคุมฝูงชนต้องเข้ามาห้ามให้แยกออกจากกัน จากนั้น นายชูวิทย์ ก็ได้ตะโกนท้าทายนายสันธนะตลอดเวลา มีกำลังตำรวจควบคุมฝูงชนจำนวน 2 หมู่ เกือบ 30 นาย คอยกันไม่ให้ทั้งคู่เข้าใกล้กัน
โดยนายชูวิทย์ได้ถอดเสื้อเชิ้ตออกเหลือเพียงเสื้อกล้ามพร้อมกับใส่นวม และตะโกนให้นายสันธนะมาต่อยกันตามประสาลูกผู้ชาย และโยนนวมชกมวยให้นายสันธนะ ให้รับคำท้ามาชกกับตนเอง ส่วนนายสันธนะก็ไม่ได้ตอบโต้และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน และยื่นหนังสือร้องเรียนให้ พลตำรวจตรีอัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 ระหว่างนั้น นายชูวิทย์ก็ได้ตะโกนท้าทายอยู่ตลอดเวลา
นายสันธนะ ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเองมาทวงถามความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ จำนวน 9 ข้อหา ที่แจ้งไว้ที่สน.ทองหล่อ และนายนอท พันธวัช นาควิสุทธิ์ แต่ก็มาถูกนายชูวิทย์ก่อกวนและท้าทาย ยืนยันว่า จะไม่ตอบโต้ เนื่องจากว่ากองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเป็นสถานที่ทำงานเก่าของตนเอง เมื่อครั้งยังเป็นตำรวจ
อย่างไรก็ตามระหว่างที่นายสันธนะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายชูวิทย์ได้ตะโกนด่าท้าทายตลอดเวลา ซึ่งนายชูวิทย์กล่าวหาว่า นายสันธนะเป็นตำรวจชั้นเลวที่ถูกไล่ออกจากราชการ ไม่มีลูกน้อง ไม่มีความน่าเชื่อถือ ถ้าจะฟ้องร้องคดีนายสันธนะมีเงินจ้างทนายความหรือเปล่า
ส่วนนายสันธนะ หลังจากที่ถูกต่อว่าหนักๆท่ามกลางสื่อมวลชนและตำรวจ ก็เริ่มหมดความอดทนและตะโกนด่านายชูวิทย์ว่า จะไม่ยอมให้นายชูวิทย์ต่อว่าอย่างเสียศักดิ์ศรี และจะดำเนินคดีข้อหาหมิ่นประมาท นายชูวิทย์ก็ท้าทายอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ขอให้นายสันธนะเดินทางกลับไปก่อน
หลังจากนายสันธนะเดินทางกลับ นายชูวิทย์ก็ได้มาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า ตนเองไม่กลัวนายสันธนะ เพราะนายสันธนะเป็นตำรวจเลวจนถูกไล่ออก ส่วนที่นายสันธนะมาร้องเรียนตนเองที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล อย่าคิดว่ายังมีลูกน้องนายสันธนะหลงเหลืออยู่ จากนี้จะไปตามนายสันธนะไปทุกที่ถ้าคิดจะไปร้องเรียนเรื่องอะไร
นายชูวิทย์ยังบอกอีกว่า ในวันพรุ่งนี้(3มีม.ค.)ตนเองจะแถลงข่าวเปิดโปงความชั่วร้ายของพรรคการเมืองและสื่อมวลชนอาวุโสรายหนึ่งอีกด้วย ขอให้ติดตาม