เพลิงลุกพึ่บ-ควันดำพุ่ง ท่วมห้องเครื่องกระบะ จอดหน้า รพ.ตรัง หนุ่มน้อย 16 อยู่ในรถ ตั้งสติอุ้มหลาน 4 เดือน เปิดประตูฝ่าความร้อนหนีตายหวุดหวิด จนท.รุดดับใช้เวลากว่า 30 นาที เจ้าของรถเผยซื้อรถมือสองขับมา 7 ปี ไม่เคยตกแต่ง-ดัดแปลง-เช็กระยะตลอด งงสาเหตุไฟไหม้
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 9 มิ.ย.65 ศูนย์วิทยุสื่อสารและสั่งการนเรนทรตรัง รับแจ้งเหตุเพลิงลุกไหม้รถยนต์กระบะ ที่จอดติดเครื่องยนต์อยู่บริเวณริมถนนหน้า รพ.ตรัง ต.ทับเที่ยง ในเขตเทศบาลนครตรัง จ.ตรัง หลังรับแจ้งจึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง แผนกป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ และให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ห้องเครื่องรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีแมคซ์ สีบรอนซ์เงิน และมีกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมาก โดยมีชาวบ้านและพลเมืองดีช่วยกันนำน้ำมาดับ แต่ไฟก็ยังไม่สงบ สร้างความตื่นตกใจให้กับผู้คนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและกู้ภัยต้องเร่งช่วยกันฉีดน้ำสกัดด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝากระโปรงหน้ารถไม่สามารถเปิดออกมาได้ ก่อนตัดสินใช้ชะแลงและอุปกรณ์งัดฝากระโปรงจนเปิดสำเร็จ และใช้เวลาประมาณกว่า 30 นาที จนสามารถควบคุมเพลิงจนสงบ
จากการสอบถาม นายจรัญ หนูรอด อายุ 51 ปี เจ้าของรถ เล่าว่า ตนขับรถมากันทั้งหมด 5 คน พามาหลานมาโรงพยาบาล เนื่องจากถูกตะขาบกัด พอถึงหน้าโรงพยาบาลได้จอดรถติดเครื่องยนต์เอาไว้บริเวณจุดเกิดเหตุ โดยมีลูกชายวัย 16 ปี นั่งอุ้มหลานสาววัย 4 เดือนรออยู่ในรถ ส่วนตนและภรรยาพาหลานที่โดนตะขาบกัดเข้าไปในโรงพยาบาล จากนั้นมีคนมาบอกกับตนว่ามีควันลอยพุ่งออกมาจากห้องเครื่องรถยนต์ โชคดีที่ลูกชายมีสติเปิดประตูอุ้มหลานวัย 4 เดือนหนีออกมาได้ และไปขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านในละแวกจุดเกิดเหตุ
“รถคันดังกล่าวเป็นรถมือสอง ตนซื้อมาขับอยู่ประมาณ 7 ปี ไม่เคยไปตกแต่งหรือดัดแปลงอะไร ทุกอย่างในรถเป็นของเดิมทั้งหมด และไม่เคยมีปัญหาใดๆ มาก่อน เข้าเช็กระยะในอู่ซ่อมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตนก็งงกับเหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร รถมีเพียง พ.ร.บ.แต่ไม่มีประกันภัย ส่วนเรื่องทรัพย์สินที่เสียหายนั้นไม่เป็นไร โชคดีที่ลูกชายและหลานวัย 4 เดือน ปลอดภัยแค่นี้ก็ดีแล้ว” เจ้าของรถ ระบุ