อดีตพระกาโตะหอบเงินสด 6 แสน คืนวัด ตำรวจยันเป็นการยืมไม่ใช่ยักยอก ไม่เข้าข่ายฐานความผิด ส่วนพระคนกลางหลบหนี
ความคืบหน้าของกรณี อดีตพระกาโตะ หรือนายพงศกร จันทร์แก้ว ยังคงมีความเคลื่อนไหวอย่างร้อนแรง หลายฝ่ายได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลด้านมืดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรณีการเปิดเผยหมายจับ “พระคนกลาง”ที่รับหน้าที่ในการเคลียร์ ประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกรณีอดีตพระกาโตะ ที่ออกมาระบุว่าได้จ่ายเงินผ่านคนกลางในการต่างๆ รวมทั้งเคลียร์ผู้สื่อข่าววงเงิน 3 แสนบาท จนถูกให้ความสนใจมากขึ้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา พันตำรวจเอกนัษฐวุฒ ทองทิพย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมด้วย พันตำรวจโทธีรพล พุ่มชัย รอง ผกก.ป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่สายตรวจอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมหมายจับกุม พระสุวิจักษณ์ ชุ่มโชติ หรือพระครูวินัยธรสุวิจักขณ์ ปญญังวโร ตามหมายจับศาลแขวงนครศรีธรรมราช เข้าไปยังกุฏิที่พักภายในวัดวังตะวันออก ตำบลคลัง อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อติดตามจับกุมตัวหลังจากวานนี้ได้มีการเผยแพร่หมายจับผ่านสื่อหลายแขนง พร้อมทั้งถูกตั้งข้อสังเกตคตวามล่าช้าของการจับกุมทั้งที่หมายจับมีอายุความใกล้ครบ 5 ปี แต่ยังไม่มีการจับกุม
โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตามบริเวณกุฏิที่พักของพระครูวินัยธรสุวิจักขณ์ ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดวังตะวันออก ไม่ปรากฎว่ามีใครอาศัยอยู่ภายใน และมีข้อมูลว่าพระครูรายนี้ได้เดินทางหายออกไปจากวัดมากกว่า 2 วันแล้วหลังจากที่มีการเปิดเผยว่ามี “พระคนกลาง” เป็นผู้รับวิ่งเต้นเคลียร์ปัญหาในเรื่องนี้ และล่าสุดนั้นมีการตรวจสอบคดีติดตัวพระครูวินัยธรสุวิจักขณ์ หรือพระสุวิจักขณ์ พบว่ามีหมายจับติดตัว 3 หมาย 1 หมายได้เข้าสู่กระบวนการไกลเกลี่ยเพิกถอนแล้วคือหมายจับที่ 97/2561 แต่อีก 2 หมายคือ 25/2561 และอีก 1 หมายที่เกี่ยวเนื่อง ยังมีผลบังคับใช้ ผู้ต้องหาอยู่ในสถานะหลบหนี โดยหมายแรกมีมูลหนี้จำนวน 2 แสนบาท จากค่าเช่าพระเนื้อทองคำ 2 องค์ อีกหมายมีมูลหนี้ 4 หมื่นบาทจากการไม่ชำระค่าเฟอร์นิเจอร์ภายในกุฏิ
อย่างไรก็ตาม ช่วงเย็นวานนี้ นายพงศกร จันทร์แก้ว ได้นำเงินมาคืนที่วัดมังคลาราม มีพยานรับทราบคือ 1.พระครูอรรถธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง วัดวังม่วง 2.พระครูบุญการ โกศล เจ้าคณะตำบลพิปูน วัดมังคลารามและผู้เกี่ยวข้องทั้งกรรมการวัด ไวยาวัจกร และผู้นำท้องถิ่น ลงนามรับทราบการรับเงินคืน เพื่อนำเข้าธนาคารบัญชีของวัดเพ็ญญาติในวันนี้ (5 พ.ค.65) โดยมอบให้นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด เป็นผู้นำฝากเข้าบัญชี
พระครูอรรถธรรมโกวิท เจ้าคณะอำเภอฉวาง วัดวังม่วง ได้กล่าวในระหว่างรับคืนเงินว่า ตามที่กาโตะได้นำเงินของวัดไป 6 แสนบาทในครั้งนี้ ได้นำเงินมาคืนโดยมีพยานรับทราบซึ่งมีเจ้าคณะอำเภอฉวาง , นายก อบต.กะเปียด , ผู้ใหญ่บ้าน โดยสักขีพยานทุกคนได้เซ็นรับทราบซึ่งถือว่ากาโตะเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบที่นำเงินมาคืนเพื่อให้สถานการณ์เบาบางลงไปบ้าง
ในขณะที่นายสันติ จงรวย เป็น 1 ในคณะกรรมการวัดเพ็ญญาติ กล่าวว่า ตอนนั้นเรารับทราบว่ามีการถอนเงินจากธนาคารไปจริง แต่ไม่ทราบว่าจะเอาไปใช้อะไรเราไม่รู้ แต่มีการทำยืมไปจำนวน 6 แสนบาท โดยกรรมการวัดรับทราบในการยืมเงินไปของทิดกาโตะ แต่ไม่ทราบว่าเอาไปใช้ทำอะไร กระทั่งมีการนำเงินมาคืน
เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (5พ.ค.65) นายบำรุง ยอดมณี นายก อบต.กะเปียด อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปเข้าบัญชีวัดเพ็ญญาติซึ่งเป็นบัญชีธนาคารกรุงไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ทิดกาโตะนั้นไม่ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากพระผู้ใหญ่บอกให้หยุดพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้แล้ว ส่วนการตรวจสอบนั้นทางผู้เกี่ยวข้องกับการเงินของวัด บัญชีวัด ให้ข้อมูลว่ายินดีให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเข้าตรวจสแบและยืนยันว่าทรัพย์สินภายในวัดบัญชีเงินสดของวัดมีครบ การเบิกจ่ายที่เกิดขึ้น 6 แสนบาทนั้น ไม่ได้มีการยักยอก ไม่เข้าข่ายองค์ประกอบความผิด เนื่องจากมีการแจ้งให้กรรมการวัด ผู้เกี่ยวข้องไวยาวัจกรทราบว่าจะมีการยืมเงินจากอดีตพระกาโตะ มีการทำบันทึกเป็นหลักฐานครบถ้วนเรียบร้อย เงินในบัญชีวัดเป็นเงินที่กาโตะหาเข้าวัดเมื่อมีการยืมออกไปไม่น่าจะเป็นเรื่องแปลก ส่วนที่จะไปใช้จ่ายอะไรนั้น ไม่ทราบได้ แต่เมื่อได้เอามาคืนแล้วครบตามคำมั่นที่ยืมไปถือว่าครบถ้วน และไม่ปรากฎองค์ประกอบใดของฐานความผิดใดเลย