ไม่เคยบอกใคร! “น้ำ-รพีภัทร” เปิดใจครั้งแรก แจงปมไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี!

อดีตดาราดัง “น้ำ รพีภัทร” เปิดใจครั้งแรก ทำไมไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี ทั้งที่อยู่มานานกว่า 20 ปี งานนี้ไม่มีใครรู้มาก่อนเลย

ถูกพูดถึงหนักมากสำหรับอดีตพระเอกหนุ่ม น้ำ รพีภัทร ที่ล่าสุดออกมาเปิดใจหลังตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับช่องมากสี พร้อมเคลียร์ชัดๆ กับฉายาที่ชาวเน็ตตั้งให้ว่าเป็นพระเอกขี้เมา อีกทั้งยังเปิดชีวิตคู่กว่า 10 ปีกับปัญหาที่อาจทำให้บ้านแตกผ่านรายการคุยแซ่บ Show แบบจัดเต็ม

น้ำ เผยว่า “เรื่องหมดสัญญากับช่องมากสี หมดแล้วครับ หมดเมื่อปี 65 ที่ผ่านมาครับ ตอนนี้เป็นนักแสดงอิสระเต็มตัวแล้ว ผมอยู่ในสัญญามา 20 ปีแล้วนะ ตอนนี้พอหมดสัญญาแล้วอยากจะได้ลองอะไรใหม่ๆ ทำงานกับทีมใหม่ๆ ไปเจอกลุ่มนักแสดงใหม่ๆ บ้าง เพื่อที่เราจะได้เรียนรู้ ได้ทำงาน ได้ศึกษาอะไรใหม่ๆ ด้วย ส่วนคนที่บอกว่าเนรคุณต้องให้เขาดูจากงานที่ผ่านมามากกว่า เพราะว่าตลอดระยะสัญญาที่ผ่านมา เราก็ทำหน้าที่ของเราแบบเต็มความสามารถ แล้วก็รับผิดชอบทุกอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ช่องอื่นๆ มีบ้างครับที่ติดต่อมา ก่อนหน้านี้เขาถามว่าเป็นยังไงบ้าง ก็ถามเรื่องสัญญาแหละครับ ก็บอกว่าหมดปลายปี 65 หลังจากนี้จะมีเริ่มคุยจริงจังในเรื่องของการวางแผนงาน อยากบอกผู้ใหญ่ว่า ตอนนี้อิสระแล้วนะครับ สามารถเรียกใช้ได้ เพราะว่าว่าง ตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมา แล้วเริ่มต้นปีใหม่ยังไม่มีเรื่องไหนติดต่อมา ตอนนี้ว่างครับ”

“ฉายาพระเอกไม่ถือตัว ถ้าเป็นยุคสมัยก่อน ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ที่แล้ว ตอนที่โซเชียลไม่เป็นแบบนี้นะ มันจะต้องออกมาอีกรูปแบบหนึ่งแน่เลย แต่เดี๋ยวนี้กลายเป็นว่าเวลาที่เราสนุก เขาสนุกไปกับเราด้วย แต่ไม่ใช่ว่า 365 วัน ผมเป็นอย่างนั้นทุกวัน ส่วนคนบอกพระเอกขี้เมา จริงๆแล้วจะบอกว่าคนเรามันมีทั้งช่วงที่ตึง แล้วช่วงที่หย่อน มันก็ต้องมีช่วงที่เราต้องรับผิดชอบหน้าที่การงาน แต่เมื่อเวลารีแลกซ์ผมเต็มที่ เมื่อตึงแล้วก็ต้องมีหย่อน หย่อนของผมก็หย่อนจนย้วย ผมกลัวอย่างเดียวคือคนที่เขาสนใจชีวิตส่วนตัว จนเมื่อวันหนึ่งเราไปรับบทนักแสดงในบทต่างๆ ที่ไม่ใกล้เคียงกับตัวจริงเรา บางทีมันจะไม่ส่งเสริมความเชื่อ ซึ่งตอนนี้พยายามบอกเพื่อนๆ เพลาๆ การถ่ายหน่อย เรื่องดื่มไม่ทุกวันหรอกครับ ถ้ามีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก็จะมีนั่งกินข้าว ทำอาหารทานกัน แล้วมีนั่งดื่มสังสรรค์กันบ้าง วีรกรรมเด็ดๆตอนเมา ตกบ้าน แต่เป็นบ้านเพื่อนนะ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง ผมนอนอยู่ด้านบน ตอนนั้นไม่รู้จะเข้าห้องน้ำหรืออะไรสักอย่าง ผมอ่ะในหัวคิดว่าจะออกไปหาเพื่อน หรือว่าจะไปหาประตูห้องน้ำก็ไม่รู้ แต่ผมเดินออกหน้าต่างจะเป็นยาวๆ แล้วมีขอบมาหน่อยเดียว ผมดันหน้าต่างออกไปแล้วเดิน ตกบ้านลงไปเลย แต่โชคดีหลังบ้านที่ตกเป็นบ่อให้ควายลง เป็นขี้โคลน คือตอนลงไปขี้โคลนเป็นรูปตัวคนเลย แล้วผมก็ต้องเดินขึ้นมาเป็นมนุษย์โคลนตัวเลอะๆ ไปในวงที่เขากำลังนั่งกินกันอยู่ เขาบอกน้ำไปทำอะไรมา ตกบ้าน เมียผมถ่ายรูปตรงหน้าต่างสไลด์ลงมาจากชั้น 2 เลย”

น้ำ เล่าต่อว่า “เรื่องรักกับภรรยาอยู่ด้วยกันมา 10 ปีจะเข้า 11 ปีแล้วครับ เขาเป็นรุ่นน้องดัชชี่ แต่ห่างกันหลายปี แต่พออยู่บริษัทเดียวกันก็มีโอกาสได้เจอ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน คนอื่นอาจจะเห็นเขาเป็นคนนิ่งๆ แต่เขาเป็นคนที่เฮฮาสนุกสนาน เป็นตัวของตัวเองมาก ช่วงหนึ่งเขาไปเรียนชกมวย แล้วเจอกันเขาบอกพี่หนูขอเตะทีได้ป่ะ เราก็บอกว่าได้ แต่คิดว่าผู้หญิงเตะยังไงไม่น่าถึงหัวไหล่ เตะถึงก้านคอผมเลย แต่ดีผมยังมือไวยกบังไว้ ผมว่ามีมุมหวานน่ารักบ้าง มีมุมสนุกบ้าง ซึ่งมันเป็นธรรมชาติของเขาดี คุยกันได้สักระยะแล้ว ก็บอกว่าสมมติเราแต่งงานกัน แล้ววันหนึ่งพี่ต้องไปใช้ชีวิตอยู่ที่ต่างจังหวัด ถามว่าหนูจะสามารถไปอยู่ด้วยได้ไหม ซึ่งได้คำตอบทำให้เรารู้สึกดีมาก เขาบอกว่าพี่อยู่ที่ไหน หนูก็อยู่ที่นั่นแหละ ก็ใจๆ กับเราดี ผมก็เดินหน้าเต็มที่เลย แต่เรื่องปัญหาชีวิตคู่ คือจริงๆ สนุกสนานได้เต็มที่ พวกมาหาที่บ้านได้เต็มที่ แต่เรื่องหนึ่งที่ภรรยาผมไม่ชอบก็คือ มีเด็กมาเดินชง มาอยู่ใกล้ชิด คุยเล่นกับทุกคนได้ แต่สำหรับผมไม่สามารถ เขาจะมียังไงก็แล้วแต่ แต่ผมห้ามอยู่ใกล้รัศมีของเด็กเอ็นเตอร์เทน ห้ามใกล้เกิน 3 เมตร”