การสู้รบในจังหวัดลอยก่อว์ รัฐกะเหรี่ยง ยังหนักหน่วง ทหารเมียนมายังคงใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดต่อเนื่อง ขณะที่พื้นราบยิงปะทะกัน ชาวเมืองอพยพเข้ารัฐฉานที่อยู่ติดกัน
การสู้รบในพื้นที่ เมืองลอยก่อว์ รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ยังคงเป็นไปอย่างรุนแรงและต่อเนื่อง โดยวานนี้ (11) ตั้งแต่เวลา 06.45 – 19.20 น. กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF ได้เข้าโจมตีทหารเมียนมา สังกัดกองพลทหารราบเบาที่ 66 ( พล.ร.เบา 66 ) ที่ถูกส่งเข้ามาในพื้นที่ เมืองลอยก่อว์ โดยพื้นที่การปะทะอยู่บริเวณ ป๊อกไมลอง ด้านทิศเหนือของเมืองลอยก่อว์ กองกำลังทั้งสองฝ่ายได้สู้รบกันอย่างหนักตลอดทั้งวัน
ช่วงค่ำวันเดียวกัน เวลาประมาณ 18.15 น. กองทัพอากาศของทหารเมียนมา ได้ใช้เครื่องบินขับไล่ แบบ YAK-130 จำนวน 3 ลำ บินโจมตีกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาล จำนวน 9 เที่ยวบิน จนเวลา 18.30 น.จึงยุติการโจมตีทางอากาศ การปะทะส่งผลให้มีทหารเมียนมาเสียชีวิต 21 นายและบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
ด้าน กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 5 นาย และกองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF สามารถยึดอาวุธปืนเล็กกลประจำกายทหารเมียนมาได้ 3 กระบอก , ปืนกลเบา 1 กระบอก , ปืน ค.60 จำนวน 1 กระบอก และ เครื่องกระสุนปืน เวชภัณฑ์ทางทหาร อีกจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองกำลังติดอาวุธกลุ่ม KNDF / KA / PDF ระบุว่า ปัจจุบันมีราษฎรในเมืองลอยก่อว์ ประมาณ 2,000 คน ได้อพยพหนีภัยสงครามไปอาศัยอยู่ในพื้นเมืองสี่แส่ง รัฐฉาน เขตพื้นที่ยึดครองของ กองกำลังติดอาวุธ PNLO ชนเผ่าปาโอ โดยได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายปาโอในการให้ที่พักพิงให้กับราษฎรชาวเมืองลอยก่อว์
ส่วนราษฎรที่เหลือในตัวเมืองอีกประมาณ 12,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในบ้านเรือน และมีการขุดหลุมหลบภัยไว้ในบริเวณบ้าน ซึ่งประชาชนในเมืองลอยก่อว์ วิงวอนให้ทหารเมียนมายุติการโจมตีทางอากาศ เนื่องจากกระต่อประชาชนและบ้านเรือนของประชาชนที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ชาวเมียนมาที่บ้านผาลู จังหวัดเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ด้านตรงข้าม อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 500 คน ได้ลี้ภัยมาอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเมย ด้านประเทศเมียนมา ซึ่งติดกับชายแดนไทย – เมียนมา โดยมีการนำรถยนต์ ทรัพย์สินต่าง ๆ ออกมา เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเข้ามาเขตไทย ที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน ขณะที่ทางฝั่งเมียนมายังคงมีการสู้รบระหว่างทหารเมียนมากับทหารสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง บริเวณบ้านผาลูน้อย ตรงข้ามบ้านมหาวัน ต.มหาวัน อ.แม่สอด
สำหรับผู้ลี้ภัยที่อยู่ในความควบคุมของทางการไทย มีจำนวนกว่า 1,900 คน ที่บริเวณเมยโค้ง บ้านมหาวัน ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งบางกลุ่มเริ่มทนกับสภาพอากาศหนาวไม่ไหว และมีอาการป่วยหลายคน แม้จะมีคนไทยใจบุญเอาอาหารไปส่ง แต่ก็มากด้วยขั้นตอนการเข้มงวดของฝ่ายทหาร ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเข้มงวดเกินไป
ขณะที่ ศูนย์สั่งการชายแดน ไทย – เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ปัจจุบันยังมีผู้ลี้ภัยชาวกะเหรี่ยง ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ช่องทางทะนาควาย บ้านในสอย ตำบลปางหมู อำเภอเมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 729 คน และมีผู้ลี้ภัยเดินทางเข้ามาเพิ่มเติมอีก 15 คน สำหรับผู้ลี้ภัยในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ช่องทาเนิน น้ำเพียงดิน ผู้ลี้ภัยได้เดินทางไปยังบ้านห้วยโปงเลาในเมียนมาหมดแล้ว
โดยศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ขอความร่วมมือ ประชาชนในพื้นที่ งดการเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ดังกล่าว เพื่อให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนและทุกภาคส่วน ในการตรวจสอบข่าวสารข้อเท็จจริงก่อนเผยแพร่สู่ประชาชน