โฆษกพรรคเพื่อชาติ เผย ตรวจ ATK พบผลติดโควิด-19 โวยคิวตรวจ RT-PCR รพ.เอกชน ต้องรอยาว ซ้ำ Hospitel ต้องรออีก 4-5 วัน โอดมีโรคประจำตัว หวั่นเชื้อลงปอด ชี้ เรื่องความเป็นความตาย รัฐต้องดูแล
วันที่ 16 ม.ค. 2565 ที่ผ่านมา น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ (พช.) เปิดเผยถึงกรณีที่ตนเองติดเชื้อโควิด-19 โดยช่วงเช้ามีการตรวจด้วยวิธี Antigen Test Kit (ATK) ที่บ้านผลเป็นบวก และขณะนี้ประสานกับโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งเพื่อเข้าทำการรักษาตัว แต่ประสบปัญหาการจัดสรรคิวเข้ารับการตรวจด้วยวิธี RT-PCR (Real-Time PCR) ของโรงพยาบาลแต่ละแห่งใช้เวลานานมาก บางแห่งบอกว่าจะได้คิวอีกทีก็คือปลายสัปดาห์หน้า ทั้งที่แจ้งกับทางโรงพยาบาลไปแล้วว่าตรวจ ATK หลายครั้งพบเชื้อแต่ไม่แน่ใจ จึงอยากขอเข้ารับการตรวจอย่างละเอียด
น.ส.เกศปรียา ระบุต่อไปว่า ขนาดโรงพยาบาลเอกชนให้บริการกับผู้ป่วยได้เพียงแค่นี้ แล้วผู้ที่ขอรับการรักษาจากโรงพยาบาลรัฐจะเป็นเช่นไร จึงอยากฝากไปถึงรัฐบาลให้เข้ามาดูแลในเรื่องเหล่านี้ด้วย เพราะนี่คือเรื่องของชีวิต เรื่องความเป็นความตาย หากไม่เจอกับตัวไม่มีทางรู้ และส่วนตัวรับวัคซีนแอสตราเซเนกาแล้ว 2 เข็ม
ทั้งนี้ แม้จะเป็นประชาชนที่พอมีศักยภาพดูแลตนเองระดับหนึ่ง เพียงแค่ต้องการตรวจคอนเฟิร์มอย่างละเอียดจะได้ทราบว่าต้องเตรียมตัวหรือต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เนื่องจากส่วนตัวมีโรคประจำตัวคือ โรคแพ้ภูมิตัวเอง (SLE) ดังนั้นการที่จะรับประทานยาเองที่บ้านค่อนข้างเสี่ยงอันตราย เมื่อตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 จึงรีบโทรปรึกษาโรงพยาบาลหลายแห่งสอบถามข้อมูลในการปฏิบัติตัวเบื้องต้น แต่กลับได้รับคำตอบที่น่าเศร้า ทำให้นึกถึงคนอื่นๆ ที่ไม่ได้มีโอกาสและศักยภาพในการรักษาเท่าเรา เขาจะอยู่กันได้อย่างไร พยายามจะเข้าใจว่าสถานการณ์ขณะนี้ถือว่ารับมือได้ยากมาก เนื่องจากผู้ติดเชื้อรายวันมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกๆ วัน แต่โรงพยาบาลควรมีวิธีบริหารจัดการที่ดีกว่านี้
พร้อมกันนี้ ได้ย้อนถามกลับไปว่าระหว่างรอคิวเพื่อรับการตรวจอย่างละเอียดในปลายสัปดาห์หน้าต้องปฏิบัติตัวอย่างไร หากเชื้อลงปอดแล้วทำอย่างไรต่อ แต่กลับได้รับคำตอบจากโรงพยาบาลว่าให้ดื่มน้ำเยอะๆ พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาตามอาการ เพราะตอนนี้มีคิวค่อนข้างมาก อีกทั้ง Hospitel ที่อยู่ในเครือของโรงพยาบาลก็คิวยาว ต้องรอ 4-5 วันเช่นกัน หากจะเดินทางไปตรวจแบบไดร์ฟทรู (Drive-Thru) จะต้องเป็นคนที่ไม่มีความเสี่ยงถึงจะมาตรวจได้ อยากสอบถามกลับไปยังโรงพยาบาลว่าถ้าไม่เสี่ยง คนจะอยากมาตรวจเพื่อสาเหตุอะไร.