สภาล่มซ้ำซาก ส.ส. มาแสดงตนในองค์ประชุมเพียง 234 คน ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง หลังจาก ประธานในที่ประชุม ขอมติสมาชิก ส่งร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตร ฉบับที่ … พ.ศ…. ไปให้ ครม. พิจารณา
วันที่ 2 ก.พ. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงาน ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เข้าสู่การการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิตร ฉบับที่ … พ.ศ…. ตามที่ นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้เสนอ ก่อนหน้านั้นทั้ง ส.ส.ฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาลผลัดกันอภิปรายอย่างกว้างขว้างถึงข้อดีและข้อเสีย ในการช่วยเหลือเกษตรกรในการแปรรูปผลผลิต และข้อโต้แย้งถึงการผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของท้องถิ่น ที่อาจจะก่อให้เกิดโรคร้ายแรงตามมาและการเกิดอุบัติเหตุทางถนนเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นการอภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวนั้น
อย่างไรก็ตาม เมื่อสมาชิกอภิปรายครบทุกคนแล้ว นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอนำร่างกฎหมายดังกล่าวส่งไปให้คณะรับมนตรี (ครม.) พิจารณาตรวจสอบเนื้อหาก่อนภายใน 60 วัน เพื่อความรอบคอบ เพราะร่างฉบับนี้ยังไม่ผ่านการพิจารณากลั่นกรองจาก ครม.
โดย นายเท่าพิภพ กล่าวว่า ขอรัฐบาลอย่าขวางร่าง พ.ร.บ.นี้เพราะเนื้อหาเป็นการเปิดช่องให้วิสาหกิจชุมชน ประชาชน และเกษตรกร มีช่องทางที่จะสร้างรายได้จากการแปรรูปพืชผลทางการเกษตรที่ปัจจุบันราคาตกต่ำ การแก้ไข พ.ร.บ.สรรพสามิตเป็นตัวช่วยของรัฐบาลต่อการสร้างรายได้จากการจัดเก็บภาษีที่มากขึ้น การขอยื้อเวลาอีก 60 วัน ยังไม่รู้ว่าในที่สุดแล้วสภาฯจะลงมติรับหลักการให้หรือไม่ เพราะอาจแอบคุยหรือตกลงกับกลุ่มทุน
จากนั้น นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุม ขอมติจากที่ประชุมจะให้ส่งร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวไปให้ ครม.พิจารณาก่อนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบองค์ประชุม ก่อนลงมติปรากฏว่า มี ส.ส.แสดงตนเป็นองค์ประชุมเพียง 234 คนเท่านั้น ไม่ถึงกึ่งหนึ่งหรือ 238 คน จากจำนวน ส.ส.ที่ปฏิบัติหน้าได้ทั้งหมด 475 คน ทำให้ต้องสั่งปิดประชุม ในเวลา 18.35 น. เป็นเหตุการณ์สภาล่มที่เกิดขึ้นซ้ำซากอีกครั้ง นับจากช่วงปีใหม่