กองทัพสหรัฐปฏิบัติการใหญ่ในซีเรีย บุกสังหาร “หัวหน้าไอเอส” ท่ามกลางรายงานการเสียชีวิตรวม 13 ศพ เป็นเด็ก 6 ราย
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ออกแถลงการณ์สั้น ๆ เมื่อค่ำวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ยืนยันว่า กองกำลังสหรัฐประสบความสำเร็จในปฏิบัติการต่อต้านก่อการร้าย ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ตามคำสั่งของเขาเมื่อคืน เพื่อปกป้องชาวอเมริกันและพันธมิตร ทำให้โลกเป็นสถานที่ปลอดภัยขึ้น ทหารอเมริกันทุกคนกลับจากปฏิบัติการโดยปลอดภัย หลังจากกำจัด อาบู อิบรอฮีม อัล-ฮาชิมี อัล กูไรชี ผู้นำไอเอส ที่ขึ้นมารับตำแหน่งแทน อาบู บากัร อัลบักห์ดาดี ผู้นำคนก่อนที่ถูกสหรัฐสังหารเช่นกัน
ปฏิบัติการครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดอิดลิบ จังหวัดทางตะวันตกเฉียงเหนือที่กบฎซีเรียยึดครอง และเป็นแหล่งกบดานของระดับแกนนำกลุ่มอัลกออิดะห์หลายคน
จากคำบอกเล่าของชาวบ้านและนักเคลื่อนไหวในพื้นที่ระบุว่า พวกเขาเห็นปฏิบัติการโจมตีภาคพื้นที่ขนาดใหญ่ กองกำลังสหรัฐใช้เครื่องขยายเสียงขอให้ผู้หญิงและเด็กออกจากพื้นที่ และได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นอย่างน้อย 3 ครั้ง
กลุ่มป้องกันพลเรือนซีเรียของฝ่ายต่อต้าน หรือที่รู้จักในชื่อ กลุ่ม หมวกนิรภัยสีขาว ระบุว่า ปฏิบัติการปลิดชีพผู้นำไอเอสครั้งนี้ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 13 ราย จำนวนนี้เป็นเด็ก 6 ราย ผู้หญิง 4 ราย ขณะทางการสหรัฐยังไม่ได้เอ่ยถึงความสูญเสียเลือดเนื้อของพลเรือน นอกจากแถลงความสำเร็จทางทหาร แต่ล่าสุด มีรายงานว่า ผู้นำไอเอสจุดระเบิด คร่าชีวิตตนเองและทำให้ลูกเมียเสียชีวิตไปด้วยโดยเขาเป็น 1 ใน 13 ศพที่่พบในบ้านที่ถูกจู่โจม
เฮลิคอปเตอร์สหรัฐหลายลำ ลงจอดใกล้ตึกหลังหนึ่ง ชานเมือง Atmeh ที่ฝ่ายต่อต้านยึดครอง ทางเหนือของจังหวัดอิดหลิบ ใกล้กับชายแดนตุรกี เมื่อเวลาเที่ยงคืนวันที่ 3 ก.พ. ตามเวลาท้องถิ่น
แหล่งข่าวเผยว่า ทหารสหรัฐเจอการต่อต้านอย่างหนักหน่วงจากภาคพื้นดิน และถูกปืนต่อต้านอากาศยานยิงจากรถระดมโจมตี เสียงยิงปะทะดังยืดเยื้อร่วม 2 ชม. ก่อนเฮลิคอปเตอร์บินออกจากพื้นที่ แต่มีลำหนึ่งต้องทิ้งไว้ เพราะประสบปัญหาเทคนิก ะต่อมา สหรัฐต้องโจมตีทางอากาศเพื่อระเบิดทำลาย ภาพซากเฮลิคอปเตอร์ถูกแชร์บนสื่อสังคมออนไลน์
