อัปเดต! 9 แหล่งท่องเที่ยวปี 2022 ติดท็อปลิสต์ฮิตตลอดกาล ใครมา “ชลบุรี” ห้ามพลาด! จะมีที่ไหนบ้าง?

ชลบุรีแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนไทย สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งแม้จะเปิดมาหลายปีก็ยังติดท็อปลิสต์อยู่เสมอ เพราะมีครบทั้งทะเล วัด แหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และกิจกรรมสนุกๆ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกเจนฯ ไปอัปเดต 9 แหล่งท่องเที่ยวปี 2022 ที่ติดท็อปลิสต์ ฮิตตลอดกาล ใครมาชลบุรี ต้องห้ามพลาด จะมีที่ไหนบ้าง เลื่อนลงไปดูกันได้เลย

สวนนงนุช

แหล่งท่องเที่ยวที่ถูกยกให้เป็นศูนย์กลางของสวนพฤกษศาสตร์ระดับโลก เพราะภายในพื้นที่กว่า 1,700 ไร่ ได้รวบรวมไม้ดอกไม้ประดับ และสวนต้นไม้นานาพันธุ์มารวมไว้ในที่เดียวกว่า 20 โซน มีพันธุ์ไม้มากกว่า 18,000 ชนิด ยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ เช่าเรือพายในสระ การแสดงต่างๆ และพิพิธภัณฑ์หัวโขน ที่สำคัญ สวนนงนุช ยังถูกยกให้เป็น 1 ใน 25 UNSEEN New Series หลังเปิดตัวโซนหุบเขาไดโนเสาร์ (Dinosaur Valley) ที่รวบรวมเอาไดโนเสาร์มากกว่า 900 ตัว 320 ชนิดไว้ที่นี่ ราวกับได้นั่งไทม์แมชชีนกลับไปยุคจูราสิคกันเลยทีเดียว  ส่วนเรื่องความปลอดภัยหายห่วง สวนนงนุช ปฎิบัติตามนโยบายของภาครัฐ เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดและได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน SHA Plus เป็นที่เรียบร้อย  

เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 150 บาท 
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 500 บาท เด็ก 500 บาท
โทร : 0-3823-8061

หาดทรายแก้ว

หลบหลีกความวุ่นวายของแหล่งท่องเที่ยวหลักแล้วมาแวะพัก ณ หาดทรายแก้ว หาดใสสะอาดตาที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ บริเวณอ่าวน้อย ตำบลบางเสร่ อำเภอสัตหีบ เป็นสถานที่พักผ่อนของกำลังพลกองทัพเรือและบุคคลภายนอก โดยมีแนวทางการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ มองไปสุดสายตาความยาวหาดทรายแก้วประมาณ 1,700 เมตร เม็ดทรายละเอียดขาวที่มีปะการังปะปนอยู่ เพราะเกิดจากการทับถมของทรายและปะการัง จึงเหมาะแก่การท่องเที่ยว นั่งชิลล์ หรือเดินเล่นริมหาด และยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำมากมาย อาทิ เรือพาย บานาน่าโบ๊ท หรือเจ็ตสกี ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องกังวล เพราะเป็นหาดที่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิดและอยู่ภายใต้มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดและได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน SHA Plus เช่นกัน

เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – ศุกร์ เวลา 08.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-18.00 น.
ค่าบำรุงสิ่งแวดล้อม : คนไทย ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 10 บาท 
ต่างชาติ ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
โทร : 0
3843 – 6187 ต่อ 2070

วัดหนองจับเต่า

ชวนสายบุญไปเดินลอดท้องพญาเต่าเพิ่มความสิริมงคลให้กับชีวิตที่ “วัดหนองจับเต่า” วัดที่ใครๆ ก็ร่ำลือว่ามีอุโบสถสีขาวสวยงดงามด้วยศิลปะปูนปั้นที่มีลวดลายอ่อนช้อยรอบโบสถ์ ตัดช่องบานหน้าต่างด้วยพญานาคสีแดงเรียงสลับกัน มีใบเสมาวางอยู่บนฐานบัวคว่ำบัวหงายซ้อนกัน ภายในโบสถ์มีองค์พระประธานหลวงพ่อมงคลโชค ให้ชาวบ้านและผู้มีจิตศรัทธามาสักการะขอพร ส่วนด้านนอกมีรูปปั้นพญานาค ประติมากรรมขนาดใหญ่ที่โอบล้อมกำแพงโบสถ์ อีกหนึ่งสัญลักษณ์ของวันหนองจับเต่าที่งดงามจนเป็นที่กล่าวขวัญ ส่วนไฮไลท์ที่สายบุญไม่ควรพลาดคือ การเดินลอดท้องพญาเต่าองค์ใหญ่ด้านข้างโบสถ์ เชื่อว่า หากใครได้ลอดใต้ท้องพญาเต่าจะทำให้มีอายุยืนเหมือนเต่า สุขภาพร่างกายแข็งแรง หายจากโรคภัยไข้เจ็บ

เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.
โทร.08-7612-2744


เกาะแสมสาร

เกาะแสมสาร เป็น 1 ใน 9 เกาะ ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ และยังใช้เป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตามแนวทางของสมเด็จพระเทพฯ จึงจำกัดให้คนข้ามไปเยือนเกาะได้แค่วันละ 300 คนเท่านั้น บนเกาะแสมสารมีชายหาดทั้ง 5 หาด ได้แก่ หาดเทียน หาดแหลมฝรั่ง หาดเตย หาดกรวด และหาดลูกลม แต่นิยมเที่ยวและทำกิจกรรมได้ 2 หาด คือ หาดเทียนและหาดลูกลม ซึ่งบนหาดลูกลมนั้น จะมีกิจกรรมสนุกๆ มากมาย อาทิ นั่งเรือท้องกระจกทักทายฝูงปลา พายเรือคายัครอบเกาะ ดำน้ำตื้น ดูประการังต่างๆ หรือจะเดินชมตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และห้ามพลาดขึ้นไปดูวิวมุมสูง ณ จุดชมวิวหาดลูกลม


เปิดบริการทุกวัน เรือข้ามเกาะขาไป ตั้งแต่ 09.00 – 13.00 น. และขากลับ 13.30 – 16.30 น.
ค่าตั๋ว : ผู้ใหญ่ 
300 เด็ก 220 บาท (อายุต่ำกว่า 3 ขวบ ฟรี) ชาวต่างชาติ 600 บาท
ที่ตั้งจุดจำหน่ายตั๋ว :  ท่าเรือเขาหมาจอ ตั้งอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

โทร : 
038 432 475

แกรนด์แคนยอนคีรี

หรือ เหมืองหินคีรีนคร อดีตบ่อดินลูกรังเก่าที่ปัจจุบันกลายเป็นจุดเช็คอินสุดฮิปของนักท่องเที่ยวไปเสียแล้ว พื้นที่กว่า 100 ไร่ มีความลึกประมาณ 30 เมตร  ภายในบ่อมีน้ำสีเขียวมรกตท่ามกลางหินสีขาวเป็นโทนสีตัดกันที่ทำให้มันกลายเป็นงานศิลปะจากธรรมชาติที่งดงามจนมิอาจละสายตา เหมาะแก่การไปถ่ายรูปมากๆ โดยเฉพาะบริเวณ เนินหินขนาดใหญ่รูปร่างแปลกตาที่ถูกเซาะด้วยน้ำฝนตามธรรมชาติ แต่แนะนำสำหรับคนที่ไม่ชินทาง สังเกตป้ายเตือนและตามจุดต่างๆ ให้ดี เพราะมีบางจุดที่ไม่อนุญาตให้เข้าไป อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้

เปิดบริการทุกวัน

Legend Siam

สวนสนุกเชิงวัฒนธรรม (Thai Cultural Theme Park) ภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ตำนานแห่งสยาม’ที่ตอบโจทย์คนทุกเจน เปิดประสบการณ์ตื่นตาตื่นใจไปกับโซนต่างๆ ที่ต่างกันไปด้วยยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นโซนสยามวิไลซ์ โซนไทยอารยะ  และโซนภูมิแผ่นดิน ให้คุณมาสนุกกันได้ทั้งวัน มหัศจรรย์ทั้งเมืองตามคอนเซปต์ของ Legend Siam เพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นงานวัดนานาชนิด เตรียมใจปะทะความหลอนที่ บ้านแม่นาค ในรูปแบบบ้านผีสิง ลัดเลาะตลาดน้ำ เยือนตลาดบก และชมหมู่บ้านทรงไทย 4 ภาค พร้อมช้อปสินค้าพื้นเมือง อย่าลืมเช็คอินที่  ”สะพานนวรัฐ” จำลองสะพานเก่าแก่มาจากสะพานนวรัฐที่เชียงใหม่ แนะนำให้แปลงกายเป็นเจ้าขุนมูลนายสมัยโบราณ แต่งกายให้เข้ากับบรรยากาศแล้วมาถ่ายรูปตามจุดต่างๆ ภายในโครงการได้ฟรี ยกเว้นโซนรักดอก The Portrait จะมีค่าบริการท่านละ 180 บาท

เปิดบริการทุกวัน เวลา 10:00 – 18:00 น. 
โทร 033 073 333 

Frost Magical Ice of Siam 

สัมผัสสยามมุมใหม่ภายใต้อุณหภูมิ -15 องศา บนพื้นที่กว่า 30,000 ตารางเมตร ที่ถูกตกแต่งด้วยประติมากรรมน้ำแข็งขนาดใหญ่และประติมากรรมทรายขาว กลายเป็นดินแดนประติมากรรมน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และโดมน้ำแข็งแห่งแรกในพัทยา โดยประติมากรรมที่ถูกจัดแสดงที่นี่จะบอกเล่าศิลปะและวัฒนธรรมของประเทศไทย ผ่านแนวคิดและการสร้างสรรค์อย่างวิจิตรตระการตา แบ่งเป็นโซนต่างๆ ได้แก่  Zone The Himmapan ประติมากรรมทรายขาว ที่บอกเล่าเรื่องราวของป่าหิมพานต์ สัมผัสความงามของเหล่าสรรพสัตว์และพรรณพืชนานาชนิด, Zone Siam Heaven เพลิดเพลินไปกับเรื่องเล่าของสยามประเทศ วรรณคดีไทย สถานที่สำคัญ และวิถีชีวิตของไทย ยิ่งไปกว่านั้น โซนนี้ยังมีความสนุกรอต้อนรับนักท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สไลเดอร์น้ำแข็ง บ้านเอสกิโม และบาร์น้ำแข็งที่เสิร์ฟเครื่องดื่มด้วยแก้วน้ำแข็งแกะสลัก

เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 19:00 น.
ค่าตั๋ว ผู้ใหญ่ 350 บาท  เด็ก  250 บาท
โทร. 063-669-4559

ปราสาทสัจธรรม

ปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างขึ้นจากความศรัทธาตามแนวคิดและจินตนาการของ คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ผู้ริเริ่มสร้างเมืองโบราณและพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัน ตัวปราสาทสร้างด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต  มีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย  หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ  ตัวปราสาทเป็นทรงจตุรมุข  สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร  แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร ว่ากันว่าที่นี่ เป็นดังตัวแทนที่บอกเล่าเรื่องราวของศาสนา ปรัชญา อารยธรรม วัฒนธรรมดีงามของชาวเอเชียตะวันออก ผ่านสถาปัตยกรรมที่ซ่อนความหมายในทุกมิติ อาทิ ยอดหลังคาพรหมสี่หน้า สื่อถึงคุณธรรมอันยิ่งใหญ่ของผู้ปกครอง ทั้ง พ่อ แม่ ครู อาจารย์ ผู้บริหาร ผู้นำประเทศ และพระเจ้าแผ่นดินที่ตั้งอยู่บนพรหมวิหารธรรม 4 หรือแม้แต่ยอดปราสาทแต่ละยอด ไม่ได้เป็นรูปสัตว์ในวรรณคดีหรือพญานาค แต่เป็นรูปแกะสลักองค์เทพและเทวดา หรือใจกลางปราสาทประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ มีบุษบงสถูปไม้สง่างามสื่อถึงสัญลักษณ์แห่งการหลุดพ้น นักท่องเที่ยวสามารถซื้อตั๋วนั่งช้างชมปราสาท หรือนั่งเรือขุดโบราณ ชมบรรยากาศสวยๆ รอบองค์ปราสาทได้เช่นกัน ที่สำคัญนักท่องเที่ยวยังมาได้เที่ยวที่นี่ได้อย่างอุ่นใจ เพราะเป็นอีกหนึ่งแห่งที่ปฏิบัติตามนโยบายของภาครัฐ เรื่องมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัดจนได้รับเครื่องหมายมาตรฐาน SHA Plus

เปิดบริการทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. 
ค่าเข้าชม :  ผู้ใหญ่ 500 บาท  เด็ก  250 บาท
ติดต่อ : โทร. 0-3836-7815
0-3836-72290-3822-5407

วัดแสนสุขวิสุทธิวราราม

วัดเก่าแก่กว่า 30 ปี อยู่ใกล้กับหาดบางแสน เดิมที่วัดแห่งนี้ถือเป็นแหล่งการเรียนรู้รวบรวมความเชื่อตามแบบพุทธศาสนา ประติมากรรมปูนปั้น สวนพุทธ เมืองสวรรค์ แดนนรก เพื่อเป็นเครื่องเตือนสติให้ละเว้นความชั่ว ปัจจุบันวัดแสนสุขได้รับการบูรณะใหม่ โดยมีไฮไลท์อยู่ที่ “มหาเจดีย์เกตุแก้วจุฬามณีอาสนสุขมหาวิหาร” จัดสร้างแบบคล้ายเจดีย์วัดอัษฎางคนิมิต บนเกาะสีชัง รอบด้านทั้ง 4 ทิศของมหาเจดีย์ฯ ถูกล้อมรอบด้วยพญานาค 7 เศียร ซึ่งมีสีแตกต่างกันไป ลำตัวของพญานาคทั้ง 4 ทิศเป็นเหมือนสะพานที่ทอดยาวข้ามน้ำ เพื่อเข้าสู่บันไดทางขึ้นไปยังมหาเจดีย์ฯ ภายในมีพระประธานสีทองอร่ามองค์ใหญ่ ล้อมรอบด้วยเสา 8 ต้นช่วยเสริมความเด่นขององค์พระประธาน เพดานสูงและหน้าต่างรอบด้านตกแต่งด้วยจิตรกรรมที่สวยงาม ภายนอก ยังมีประติมากรรมปูนปั้นเมืองสวรรค์-แดนนรก รวมถึงมีศาลาจตุรมุขที่ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ ๕ ให้เดินชมและสักการะอีกด้วย 

เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 06.00-18.00 น.
โทร. 02 540 7194


How to 
เที่ยวให้ปลอดภัยห่างไกลโควิด-19

และเพื่อให้ทุกคนเดินทางท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยในยุคที่โควิด-19 ยังอยู่รอบตัว เรามีข้อปฏิบัติและไอเท็มสำคัญที่จำเป็นต้องพกติดตัวมาบอก
1. มองหาสัญลักษณ์ SHA หรือ SHA Plus เพื่อความอุ่นใจในการท่องเที่ยว เพราะ SHA เปรียบเสมือนตราสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านสินค้าและบริการ รวมทั้งด้านสุขอนามัย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 โดยมีมาตรการทางสาธารณสุขเป็นหัวใจหลัก
2. หน้ากากอนามัยที่ได้มาตรฐาน ควรพกสำรองไปเผื่อทำตกหล่นหรือถอดแล้ววางลืมไว้
3. สเปรย์แอลกอฮอลล์หรือเจลล้างมือ พกไว้ให้อุ่นใจและหยิบมาใช้ทุกครั้งที่สัมผัสกับจุดเสี่ยง อาทิ ประตู ราวบันได หรือทุกครั้งที่มีการจับหรือสัมผัสสิ่งของ
4. ปรอทวัดไข้ แม้ว่าสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารจะมีเครื่องวัดอุณหภูมิ แต่เราก็ควรพกไว้เพื่อเช็คร่างกายตัวเองเช่นกัน

หากเตรียมข้อมูลและอุปกรณ์ทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่แหล่งท่องเที่ยวทั้ง จุดหมายกันได้เลย ที่สำคัญ อย่าลืมดูแลตัวเองให้ดี หมั่นล้างมือบ่อยๆ จะได้เที่ยวทั่วไทยอย่างปลอดภัยไร้กังวล


[Advertorial]