ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิ บุกรวบมือปืนจากพิจิตร ก่อนลงมือสังหาร เสี่ยนักธุรกิจในพื้นที่ ต.ท่าตูม ปราจีนบุรี คาห้องเช่าพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก และปืนพก 1 กระบอก หิ้วเค้นสอบเข้มหลายชั่วโมง ยอมรับสารภาพ-ปริปากชื่อคนจ้างวาน ตำรวจเตรียมขยายผลตามจับกุมตัว
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 11 ก.พ.65 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ โดยการสั่งการของ พ.ต.อ.วิวัฒน์ พิสิษฐ์ศักดิ์ ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ เข้าทำการจับกุม นายสิฐิโชค จันทร์นิล อายุ 44 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 7 ต.ท่าเสา อ.โพทะเล จ.พิจิตร หลังสืบทราบว่า นายสิฐิโชค กำลังจะก่อเหตุสังหาร นายรณภศ วิสุทธิเหม นักธุรกิจเจ้าของบริษัทใน พื้นที่ ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี โดยจับตัวได้ในห้องเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 4 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมของกลางเป็นอาวุธปืนลูกซองยาว พร้อมกระสุน 3 นัด ปืนพกรีวอลเว่อร์ ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 6 นัด รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า คลิก สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน จากนั้นจึงนำตัวมาสอบ ที่ สภ.ศรีมหาโพธิ
สืบเนื่องก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับการประสานขอความคุ้มครอง จากนายรณภศ วิสุทธิเหม ว่ามีคนปองร้าย เนื่องจากขัดแย้งเรื่องธุรกิจจากเพื่อนรุ่นน้อง ที่ตนเป็นคนสนับสนุนให้มาร่วมทำธุรกิจ ชื่อย่อ ป. แต่นาย ป. กลับโลภพยายามฮุบธุรกิจและบริษัท จนมีเรื่องฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล โดยที่วันที่ 11 ก.พ.65 ศาลนัดและทราบว่าจะเป็นวันที่ นายสิฐิโชค (มือปืน) จะลงมือแต่เกิดคลาดเคลื่อนผิดพลาดไม่สามารถสังหารได้ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ความเคลื่อนไหว จึงเข้าทำการจับกุมได้ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเหยื่อ
จากการสอบสวนเข้มหลายชั่วโมง นายสิฐิโชค (มือปืน) ให้การรับสารภาพว่า ได้รับการติดต่อให้มาทำงานนี้จาก นายน้อย และ นายมาตร ในราคา 100,000 บาท ซึ่งได้รับเป็นค่าล่วงหน้ามาแล้ว 20,000 บาท นำไปซื่อรถจักรยานยนต์ที่ถูกโจรกรรมมาในราคา คันละ 3,000 บาท จาก จ.พิจิตร มีคนนำมาส่งให้ที่ จ.ปราจีนบุรี แล้วนำไปจอดซุกไว้ ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่นิคม 304
นายสิฐิโชค ให้การต่อว่า ตนไม่รู้จัก นาย ป. แค่รับงานจาก นายมาตร กับ นายน้อย ที่เอารูปมาให้ดู โดยที่ความจริงตนไม่อยากทำงานนี้ แต่โดนบังคับจึงจำเป็นต้องรับ ทั้งที่พยายามปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. นายมาตร ซึ่งเป็นคนติดต่อได้โทรเข้ามาหาโดยไม่รู้ว่า นายสิฐิโชค โดนตำรวจจับกุมแล้ว เพื่อสอบถามว่างานที่ทำเป็นอย่างไรบ้าง โดย นายสิฐิโชค ตอบกลับไปว่า งานสำเร็จแล้ว ขอเบิกเงินที่เหลือ แต่ผ่านไปได้ไม่นานเหมือน นายมาตร จะรู้จึงวางสายแล้วไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัว นายสิฐิโชค มาสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการทั้งหมดว่ามีใครบ้าง พร้อมกับเตรียมติดตามตัว นายมาตร และ นายน้อย มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับ นายสิฐิโชค มือปืนรับจ้างรายนี้ เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาแล้ว 2 ราย และเคยติดคุกมาแล้ว 9 ปี มีความชำนาญในการใช้อาวุธปืนลูกโม่หรือรีวอลเวอร์ ในการสังหารเหยื่อ