ราชทัณฑ์คุมเข้ม นักโทษอยากมึนเมา คิดสูตรผสมเอง “ซดเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ” ดับ 1 ราย ป่วย 33 ราย
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายสิทธิ สุชีวงศ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ทำหนังสือ ขอความร่วมมือเฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนผู้ต้องขัง ห้ามรับประทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บัญชาการเรือนจำ และทัณฑสถาน
เนื่องจากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีผู้ลักลอบนำแอลกอฮอล์ที่เรือนจำใช้ทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคมาผสมเครื่องดื่มแล้วนำไปบริโภค ทางกรมควบคุมโรคจึงมีการสอบสวนโรค และรายงานมายังกรมราชทัณฑ์ ความว่า กรมควบคุมโรคได้รับแจ้งเหตุการณ์ระบาดของโรคอาหารเป็นพิษในเรือนจำ มีผู้ป่วยทั้งหมด 33 ราย เสียชีวิต 1 ราย
จากการสอบสวนโรคพบว่าผู้ป่วยทั้งหมดเป็นผู้ต้องขังชาย ดื่มเครื่องดื่ม ที่มีการคิดสูตรเอง โดยการนำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือผสมกับน้ำอัดลม เพื่อต้องการฉลองปีใหม่ และอยากมึนเมา ทำให้เกิดอาการเหนื่อยเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หายใจหอบ หมดสติ ไม่รู้สึกตัว ตามองไม่เห็น และตาบอด (1 ราย)
โดยทั่วไปเจลแอลกอฮอล์ล้างมือนิยมใช้เมทานอล หรือเมทิลแอลกอฮอล์ เป็นส่วนประกอบ พบว่าแอลกอฮอล์ชนิดนี้ มีพิษสามารถดูดซึมเข้าทางผิวหนังและลมหายใจ ห้ามใช้กับร่างกาย จะก่อให้เกิดการระคายเคืองจมูก ลำคอ ปวดศีรษะ ง่วงนอน ไอ ท้องร่วง ปวดท้อง ง่วงซึม สายตาพร่า ถ้าได้รับในปริมาณมากจะทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ จึงขอความร่วมมือในการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนผู้ต้องขังห้ามรับประทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ
กรมราชทัณฑ์ พิจารณาแล้วเห็นว่า เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของผู้ต้องขังก่อให้เกิดความเจ็บป่วยและอันตรายที่ร้ายแรงได้ จึงขอให้เรือนจำปฏิบัติตามมาตรการควบคุมดูแลและจัดเก็บสารเคมีที่นำเข้ามาใช้ในเรือนจำอย่างเคร่งครัด และแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกคนดำเนินการเฝ้าระวังเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่มีความต้องการเฉลิมฉลอง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ต้องขังทราบต่อไป.