ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกให้ประชาชน หลังแห่ใช้บริการ “แจ้งความออนไลน์” แล้ว 3,752 เรื่อง โดยมีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อยๆ
วันที่ 19 มี.ค. 2565 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรพล เปรมบุตร ปฏิบัติราชการ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน ผบก.ตอท. ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและรับฟังปัญหาในการการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ (ศูนย์ฯ) บช.สทอ. อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. สั่งการให้มาติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ฯ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ 1 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้พบว่ามีผู้เสียหายมาใช้บริการแจ้งความออนไลน์มากถึงวันละ 300 ราย และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากทำได้ง่าย สะดวก สามารถแจ้งที่ไหนก็ได้ มีเจ้าหน้าที่เป็นแอดมินให้บริการ และเชื่อมโยงข้อมูลทางคดีที่เกี่ยวข้องกันได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งผู้เสียหายยังสามารถติดตามความคืบหน้าคดีผ่านระบบ หรือสอบถามปัญหากับเจ้าหน้าที่ได้ตลอดเวลาอีกด้วย
จากสถิติการรับแจ้งตั้งแต่วันที่ 1-18 มี.ค. 2565 มีการแจ้งความออนไลน์มากถึง 3,752 คดี สูงสุดคือคดีหลอกลวงด้านการเงิน 2,512 เรื่อง รองลงมาเป็นการหลอกจำหน่ายสินค้าออนไลน์ 731 เรื่อง ข่าวปลอม Fake News 82 เรื่อง พนันออนไลน์ 9 เรื่อง ล่วงละเมิดทางเพศ 3 เรื่อง และคดีอาญาอื่นๆ หรือคดีแพ่งที่ยังไม่เข้าข่ายความผิด อีก 415 เรื่อง
ขณะที่ ศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ ได้ทำการส่งเรื่องให้สถานีตำรวจที่มีอำนาจสอบสวนแล้ว 3,741 เรื่อง ที่เหลืออีก 11 เรื่องอยู่ระหว่างติดต่อผู้เสียหายเพื่อขอรายละเอียดเพิ่มเติม ตรวจสอบจากระบบพบกว่า พนักงานสอบสวนมีการนัดหมายผู้แจ้งแล้ว 3,661 เรื่อง และคดีมีความเชื่อมโยงกันถึง 210 เรื่อง โดยแบ่งเป็นคดี 5 ประเภท
1. หลอกลวงขายสินค้า มี 16 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 116 ราย
2. หลอกลวงขาย ATK มี 5 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 21 ราย
3. หลอกลวงทางด้านการเงิน 10 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 47 ราย
4. หลอกลงทุนน้ำมัน “ออสซี่ออยล์” มี 5 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 13 ราย
5. หลอกลงทุนธุรกิจเพชร มี 3 กลุ่มผู้กระทำผิด ผู้เสียหาย 13 ราย
ทั้งนี้ ที่น่าสนใจคือ เจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัญชีคนร้ายทั้งหมด 337 บัญชี จำนวนเงิน 129,948,940 บาท โดยสามารถอายัดได้แล้วกว่า 32 ล้านบาท หลังจากนั้น รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ สภ.ปากเกร็ด และ สภ.บางเขน ตามลำดับ จากการได้พูดคุยกับหัวหน้าสถานี พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่แอดมิน และผู้บริหารคดี พบว่าเริ่มมีประชาชนแจ้งความเข้ามาจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นคดีหลักของโรงพัก
แต่เมื่อได้รับการสนับสนุนข้อมูลจากศูนย์ฯ ทำให้พนักงานสอบสวนทำงานง่ายขึ้น สามารถอายัดบัญชีคนร้าย และออกหมายจับผู้กระทำผิดได้รวดเร็วขึ้น จากแต่ก่อนต้องใช้เวลาเป็นเดือนๆ ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาขีดความสามารถของระบบการรับแจ้งความออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับปริมาณคดีที่มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ
อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ ตร.เร่งตรวจสอบความผิดทางออนไลน์ หากพบหลักฐานการกระทำความผิดให้ดำเนินการไปตามกฎหมายสูงสุด เพราะถือว่าเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หากินบนความเดือดร้อนของประชาชน และให้นำเทคโนโลยีมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน จึงเป็นที่มาของโครงการระบบการรับแจ้งความทางออนไลน์นี้ ทั้งนี้หากมีปัญหาสงสัย สามารถติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วน สอท.1441 หรือศูนย์ PCT 08-1866-3000 ตลอด 24 ชม. หรือ https://pct.police.go.th