“อุ๊งอิ๊ง” เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่? ชี้! จุดดี-จุดด้อย บวกมากกว่าลบ

  • ถึงตอนนี้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยแล้วหรือไม่ ชี้ จุดดี-จุดด้อย พรรคเพื่อไทย บวกมากกว่าลบ แต่ยังหนีไม่พ้นข้อครหา “ชินวัตร แฟมิลี่” ที่มี “โทนี่” ทักษิณ อยู่เบื้องหลัง   
  • ชี้ “ทักษิณ” ยังมีตัวเลือก “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” คนอื่น นอกจากลูกสาว “อุ๊งอิ๊ง” งานนี้เป้าหมายจึงอยู่ที่”เช็กกระแส” แต่ก็ต้องยอมรับว่าถึง 70 % แล้ว โอกาสสูงมาก จะได้รับเลือก   
  • “พลังประชารัฐ” หาแคนดิเดตนายกฯคนใหม่ แต่คงยาก ชี้โจทย์ใหญ่ไม่ใช่หาคนแทนบิ๊กตู่ แต่อยู่ที่ทำอย่างไรให้พรรคอยู่รอด ประคับประคอง ไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้ามากกว่า

งาน “ครอบครัวเพื่อไทย” จัดใหญ่ที่ จ.อุดรธานี เปิดธีม “บ้านหลังใหญ่ หัวใจเดิม” ขณะ อุ๊งอิ๊ง “แพทองธาร ชินวัตร” ขึ้นเวทีปาฐกถาพิเศษ ที่ผ่านพ้นไป เมื่อวานที่ผ่านมา (20 มี.ค.) 

เหล่าคอการเมือง มองให้ลึกลงไป ปฏิเสธไม่ได้ เกมในครั้งนี้ของพรรคเพื่อไทย คือหมากกลยุทธ์ เปิดตัว “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวคนเล็กสุดที่รักของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ยังอยู่แดนไกล ให้เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ใช่หรือไม่ 

ยิ่ง “อุ๊งอิ๊ง” กล่าวบนเวที “เราต้องเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ระบอบเผด็จการต้องหมดไป โดยการเตรียมความพร้อมเอาไว้ หากไม่สามารถสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นโยบายจะดีแค่ไหน จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ อำนาจรัฐเท่านั้นที่จะเป็นทางออกในเวลานี้ และเป็นจุดที่พรรคเพื่อไทยต้องไปให้ถึง”

ยิ่งกลายเป็นที่จดจ้องของพี่น้องประชาชน ว่า ตกลงเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทย แล้วใช่หรือไม่ ถึงแม้จะมีคำให้สัมภาษณ์ของ น.ส.แพทองธาร ออกมาในภายหลัง ยังแทงกั๊ก พร้อมยืนยัน แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย ยุบสภาเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน ก็ตาม 

ขณะหันกลับมาดูคู่แข่ง ของพรรคเพื่อไทย อย่างพรรคพลังประชารัฐ จนถึงขณะนี้ สภาพภายในพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เอาเข้าจริง ยังจะสามารถต่อกรกับเพื่อไทยได้อีกหรือไม่ 

เห็นได้ชัด พปชร.ตอนนี้ แตกออกไป ทั้งพรรคเศรษฐกิจไทย ที่มี พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา คนสนิท พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ (บิ๊กป้อม) และร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า หัวหน้าและเลขาธิการพรรค หรือจะเป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายเสกสกล อัตถาวงศ์  แม้แต่ พรรคสร้างอนาคตไทยกับ กลุ่ม 4 กุมาร ซึ่งบางพรรคก็ถูกมองเป็น “พลังประชารัฐ” สาขา 2  

เกมการเมือง ถึงตอนนี้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ถือเป็นแคนดิเดตนายกฯ ชัดแล้วหรือไม่?

ดร.ยุทธพร อิสรชัย อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กล่าวในการสัมภาษณ์พิเศษกับทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ ว่า ส่วนตัวคิดว่า ประมาณ 70% แล้ว ที่คุณทักษิณจะตัดสินใจให้ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร เป็นแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย แต่การเดินเกมการเมืองครั้งนี้ ที่สำคัญ คือ คุณทักษิณ ต้องการเช็กกระแสว่า เสียงตอบรับจากประชาชนเป็นเช่นไรก่อน และยังจะดูบริบททางการเมืองอื่นประกอบด้วย เชื่อว่า คุณทักษิณ ยังไม่ได้ตัดสินใจเด็ดขาดอะไรหรอก แต่จะขอดูจุดอ่อน-จุดแข็ง ว่า จะนำในพรรคเพื่อไทย ให้กลับมาเกิดความสมัครสมานสามัคคีได้หรือไม่ คนที่เคยเดินออกไปจากพรรคเพื่อไทย จะตัดสินใจกลับมาหรือไม่ ซึ่งแน่นอน เมื่อมีการเดินเกมการเมืองรูปแบบนี้ ก็ชัดเจน ภาพข้างหลัง “คุณอุ๊งอิ๊ง” ก็คือ คุณทักษิณ ชินวัตร ข้อดี ก็คือมีภาพเป็นบวกต่อพรรคเพื่อไทย

จุดแข็ง-จุดด้อย “ชินวัตร แฟมิลี่” หาก “อุ๊งอิ๊ง” ลงเป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จริง  

อย่างที่บอก อีกด้านหนึ่งที่ต้องรู้ คือ ก็จะสลัดภาพ “ชินวัตร แฟมิลี่” ออกจากพรรคเพื่อไทยไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมา ก็เป็นบุคคลในครอบครัวชินวัตร ไม่ว่า คุณสมชาย วงศ์สวัสดิ์ หรือคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร 2 อดีตนายกรัฐมนตรี อันนี้ก็จะสนับสนุนลูกสาวตัวเอง แต่คุณทักษิณก็คงมีความมั่นใจอยู่

แสดงว่า “ทักษิณ” ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้วใช่ไหม จึงต้องส่ง “อุ๊งอิ๊ง”

ดร.ยุทธพร กล่าวต่อว่า ตัวเลือกคนอื่น เชื่อว่า “คุณทักษิณ” มีอยู่แล้ว แต่ที่สนับสนุนลูกสาวตัวเอง นั่นเพราะ “อุ๊งอิ๊ง” ก็ถือเป็นตัวเชื่อมที่ดีที่สุด หากเป้าหมาย คือ ต้องการชนะเลือกตั้งแบบ“แลนด์สไลด์” และให้พาคุณทักษิณกลับบ้านประเทศไทย คราวนี้สิ่งที่น่าจับตาจากนี้ไป ก็ต้องมาดูว่า ปรากฏการณ์อย่างกรณี คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2554 (ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ภายใน 49 วัน) จะสามารถกลับมาอีกครั้งได้หรือไม่ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

“พลังประชารัฐ” กำลังหาแคนดิเดตนายกฯ คนใหม่ นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์ จริงหรือ?

หันกลับมามอง สถานการณ์ภายใน พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ดร.ยุทธพร กล่าวว่า ตอนนี้มองว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อาจมีความพยายามหานายกฯ คนใหม่แทน “บิ๊กตู่” แต่มันก็หาไม่ได้ง่ายๆ เพราะตอนนี้รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์มากมาย ทั้งการบริหารประเทศ การบริหารเศรษฐกิจ “โจทย์ใหญ่ของ พปชร.จึงไม่ใช่การหานายกฯ คนใหม่ แต่อยู่ที่ทำอย่างไรให้พรรคอยู่รอด และประคับประคอง ไปสู่การเลือกตั้งใหญ่ครั้งหน้ามากกว่า” อย่างที่ พล.อ.ประวิตร ประกาศเอาไว้ พรรคพลังประชารัฐ จะได้ ส.ส. 150 เสียง ในการเลือกตั้งครั้งหน้า

ฟันธง! พปชร.หาคนแทน “บิ๊กตู่” ยาก ใครก็ตามที่จะเข้ามา “ได้ไม่คุ้มเสีย”

“การหาคนใหม่มาแทน พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้ หาไม่ได้ง่ายๆ แต่จะยากแน่นอน เพราะคนที่จะเข้ามา จะได้ไม่คุ้มเสีย จึงเห็น ส.ส.หลายคนในพรรค ได้อยู่ พรรคสร้างอนาคตไทย กับ 4 กุมาร หรือ ส.ส.กลุ่มหนึ่งก็แยกตัว ไปตั้งพรรคเศรษฐกิจไทยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย” อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มสธ. กล่าว…

ชี้ “ธรรมนัส” ไม่ลงรอยกับ “บิ๊กตู่” งานนี้ไม่ได้ต่อรองเก้าอี้ แต่จะล้มนายกฯ ให้ได้

อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มสธ.กล่าวอีกว่า ผมเคยให้ความเห็น การแยกตัวของ ร.อ.ธรรมนัส ในครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีกับพรรคพลังประชารัฐ แต่ต้องการเดินเกมล้มนายกฯ ให้ได้ ซึ่งมีความพยายามดึงพรรคเล็กออกมาร่วม หรือแม้แต่อาจมีการดึงคนหรือ ส.ส.ในพรรคพลังประชารัฐออกมาอีกก็เป็นได้

มีโอกาส ตั้งรัฐบาลแห่งชาติ หรือ 2 พรรคใหญ่ จะไปรวมกันตั้งรัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่

ดร.ยุทธพร กล่าวว่า บอกได้เลยว่า “ยาก” นั่นเพราะเงื่อนไขที่จะทำได้ คุณทักษิณก็จะมองว่า ต้องไม่มีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี หรือทางฝั่งพลังประชารัฐเอง ก็มองเช่นกันว่า จะต้องไม่มีชื่อคนของ “ชินวัตร แฟมิลี่” เป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยเช่นกัน (อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร) เงื่อนไขนั้นทำให้เห็นว่าคงเป็นไปได้ยาก และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดการตั้งรัฐบาลจาก 2 พรรคใหญ่รวมกัน พลังประชารัฐ กับเพื่อไทย

ชี้ชัดๆ ยากจะเกิด “คนกลาง” เชื่อม 2 พรรคร่วมมือตั้ง “รัฐบาลแห่งชาติ” 

ส่วนถามว่า ถ้างั้นหาชื่อ “คนกลาง” ที่พอจะเชื่อม 2 พรรคให้รวมกันตั้งรัฐบาลได้หรือไม่ ดร.ยุทธพร กล่าวว่า มองถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ทราบว่า จะเป็นใครที่มีคุณสมบัติแบบนั้น คนที่ทั้งฝั่งคุณทักษิณ และฝั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะยอมรับ ให้มาเป็นตัวเชื่อมในการจัดตั้งรัฐบาล 2 พรรคการเมืองใหญ่ หรือแม้แต่รัฐบาลแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าแค่ได้ยินข้อเสนอ แต่ไม่เคยเกิดขึ้นได้จริงเลยสักครั้ง จริงไหม?

แต่ก็อย่าลืม “สัจธรรม” อะไรที่ว่าแน่ๆ ก็อาจมีพลิกล็อกกันได้ตลอดเวลา เพราะการเมืองก็คือการแบ่งปันผลประโยชน์ ไม่งั้นเราจะได้ยินกันบ่อยๆ หรือ ขึ้นชื่อว่า “การเมืองไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร” ยิ่งถ้าผลประโยชน์ลงตัว 

ผู้เขียน: เดชจิวยี่