ยูเครนพร้อมหารือยอมรับสถานะเป็นกลาง ส่วนหนึ่งในข้อตกลงสันติภาพกับรัสเซีย แต่ข้อตกลงใดๆ นั้นจำเป็นต้องได้คำรับประกันจากฝ่ายที่ 3 และเข้าสู่การทำประชามติ จากคำพูดของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนรัสเซีย และออกอากาศในวันอาทิตย์ (27 มี.ค.)
เซเลนสกี พูดกับสื่อมวลชนรัสเซียในวิดีโอคอลความยาว 90 นาที ในการสัมภาษณ์ที่เจ้าหน้าที่มอสโกเคยเตือนสื่อมวลชนล่วงหน้าว่าให้ระงับรายงานข่าว ทั้งนี้ เซเลนสกี ให้สัมภาษณ์เป็นภาษารัสเซียตั้งแต่ต้นจนจบ แบบที่เขาเคยพูดที่ผ่านมา ยามที่ต้องการเล็งเป้าหมายส่งสารไปถึงผู้ฟังชาวรัสเซีย
ประธานาธิบดีเซเลนสกี กล่าวว่า การรุกรานของรัสเซียทำลายล้างเมืองต่างๆ ที่พูดภาษารัสเซียในยูเครน และบอกว่าความเสียหายนั้นเลวร้ายกว่าสงครามของรัสเซียในเชเชน
“รับประกันความปลอดภัยและความเป็นกลาง ด้วยสถานะปลอดนิวเคลียร์ของประเทศของเรา เราพร้อมเดินหน้าสำหรับเรื่อง นี่คือประเด็นที่สำคัญที่สุด” เซเลนสกี กล่าว
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกี บอกว่ายูเครนปฏิเสธหารือข้อเรียกร้องอื่นๆ ของรัสเซียในบางประเด็น อย่างเช่นการปลดอาวุธ (demilitarisation) ของประเทศ
ในการให้สัมภาษณ์ที่เกิดขึ้นกว่า 1 เดือน หลังรัสเซียเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เซเลนสกีบอกว่าข้อตกลงสันติภาพใดๆ คงเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้หากปราศจากการหยุดยิงและถอนทหาร
เขาปฏิเสธความพยายามใช้กำลังทวงคืนทุกดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย โดยบอกว่ามันจะนำไปสู่สงครามโลก ครั้งที่ 3 พร้อมระบุเขาต้องการบรรลุข้อตกลงประนีประนอมเกี่ยวกับภูมิภาคดอนบาสส์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งอยู่ภายใต้การยึดครองของกบฏแบ่งแยกดินแดนฝักใฝ่รัสเซียมาตั้งแต่ปี 2014
รัสเซียระบุว่า พวกเขากำลังปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารในยูเครน โดยมีเป้าหมายปลดอาวุธประเทศเพื่อนบ้านแห่งนี้ แต่ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกเรียกมันว่าเป็นข้ออ้างสำหรับการรุกรานที่ปราศจากการยั่วยุใดๆ
เซเลนสกี มุ่งเน้นไปที่ชะตากรรมของมาริอูโปล เมืองท่าทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งถูกปิดล้อมมานานหลายสัปดาห์ ครั้งหนึ่งเคยเป็นถิ่นฐานของประชาชนมากกว่า 400,000 คน แต่ถูกรัสเซียโจมตีและทิ้งบอมบ์ถล่มทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
“ทุกการเข้าและออกจากเมืองมาริอูโปลถูกขัดขวาง” เซเลนสกี กล่าว “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า หายนะทางมนุษยธรรมกำลังเกิดขึ้นภายในเมือง เพราะว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปที่นั่นพร้อมอาหาร ยาและน้ำ” เขากล่าว “ผมไม่รู้ว่าทหารรัสเซียเคยทำแบบนี้มาก่อนหรือไม่” เซเลนสกี ระบุ เปรียบเทียบกับสงครามของรัสเซียในเชเชน ซึ่งปริมาณความเสียหายนั้นเทียบกันไม่ได้เลย
Xรัสเซียปฏิเสธเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือนในยูเครน ในขณะที่รัสเซียและยูเครนกล่าวโทษกันไปมาว่าล้มเหลวในการเปิดแนวกันชนด้านมนุษยธรรม
เซเลนสกี ตอบโต้คำกล่าวหาจากมอสโกที่ว่า ยูเครน จำกัดสิทธิเสรีภาพพลเรือนที่พูดภาษารัสเซีย โดยบอกว่าการรุกรานของรัสเซียได้กวาดล้างเมืองต่างๆ ที่พูดภาษารัสเซียออกจากพื้นผิวโลก
รัสเซียกล่าวหายูเครนมีอาวุธนิวเคลียร์หรืออาวุธเคมี ในเรื่องนี้ เซเลนสกี ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงและตอกกลับว่าคำกล่าวหานี้เป็นเรื่องตลก
(ที่มา : รอยเตอร์)