ประชาชนในสวีเดนออกมาประท้วงรุนแรงอีกครั้งในวันอาทิตย์ เพื่อต่อต้านกลุ่มขวาจัด ผู้อพยพมุสลิม ซึ่งก่อเหตุเผาคัมภีร์อัลกุรอาน และประกาศกร้าวว่าจะเผาเพิ่มอีก
สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เกิดการประท้วงรุนแรงในประเทศสวีเดนนับตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (14 เม.ย.) หลังจากกลุ่มขวาจัดฝ่ายต่อต้านผู้อพยพชื่อว่า ‘สตราม คูร์ส’ (Stram Kurs) ของนายรามุส พาลูดาน นักการเมืองสวีเดนเชื้อสายเดนมาร์ก อ้างว่า พวกเขาเผาคัมภีร์อัลกุรอาน ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดของชาวมุสลิม และประกาศว่จะกระทำอีกครั้ง
คำพูดของนายพาลูดาน ทำให้เกิดการประท้วงรุนแรงในวันพฤหัสบดี, วันศุกร์ และวันเสาร์ ตามสถานที่ต่างๆ ที่กลุ่มสตราม คูร์ส วางแผนจะไปจัดงานรวมตัว เช่นพื้นที่ชานกรุงสตอกโฮล์มและที่เมืองลินเชอร์ปิงกับเมืองนอร์เชอปิง มีการเผาทำลายยานพานหะหลายคันรวมถึงรถตำรวจ เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บอย่างน้อย 16 นาย มีผู้ถูกจับกุม 17 คน
ล่าสุดในวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 150 คน ออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้งที่เมืองนอร์เชอร์ปิง และเกิดการกระทบกระทั่งกับตำรวจ โดยผู้ชุมนุมขว้างปาก้อนหินเข้าใส่และจุดไฟตามที่ต่างๆ ขณะที่ตำรวจยิงปืนขู่หลายนัด มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 3 คน ซึ่งตำรวจท้องถิ่นยอมรับว่าอาจมาจากกระสุนที่ยิงออกไปกระดอนมาโดน แต่ไม่มีใครเป็นอันตรายถึงชีวิต และขณะนี้กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลของประเทศอิหร่านและอิรัก เชิญตัวทูตสวีเดนเข้าพบ เพื่อแสดงการประท้วงต่อเหตุเผาพระคัมภีร์ที่เกิดขึ้นแล้ว
ด้าน นายคิม ฮิลด์ โฆษกตำรวจในภาคใต้ของสวีเดน ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่จะไม่เพิกถอนสิทธิ์ในการจัดการชุมนุมที่มอบให้แก่กลุ่มสตราม คูร์ส โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาไม่ได้มีข้อบังคับถึงขั้นที่จะต้องปฏิเสธเสรีภาพในการพูดของพวกเขา