ผลการวิจัยเผย การติดเชื้อโรคโควิด-19 กับความผิดปกติของตับในเด็กเล็ก เชื่อมโยงภาวะตับอักเสบรุนแรงในเด็กเล็ก พร้อมแนะวิธีสังเกตอาการ
วันที่ 17 พ.ค. 2565 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เผยผลการวิจัยจาก ทีมวิจัยโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat เรื่อง การติดเชื้อโรคโควิด-19 กับความผิดปกติของตับในเด็กเล็ก
โดยระบุว่า ทีมวิจัยจากโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา ศึกษาในเด็กอายุ 1-10 ปี จำนวนถึง 796,369 คน โดยมีเด็ก 245,675 คนที่ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ตั้งแต่มีนาคม 2020 ถึงมีนาคม 2022 เปรียบเทียบกับเด็ก 550,694 คนที่ติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจชนิดอื่นๆ ที่ไม่ใช่โรคโควิด-19 ในช่วงระยะเวลาเดียวกัน
ผลการศึกษาพบว่า แม้จะผ่านไปแล้วนานถึง 6 เดือน เด็กที่ติดเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 นั้นจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาค่าเอนไซม์ตับสูง มากกว่ากลุ่มเด็กที่ติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจชนิดอื่นๆ ถึง 2.52 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่นตั้งแต่ 2.03 เท่า-3.12 เท่า) จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาค่า total bilirubin สูง มากกว่ากลุ่มเด็กที่ติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจชนิดอื่นๆ ถึง 3.35 เท่า (ช่วงความเชื่อมั่นตั้งแต่ 2.16 เท่า-5.18 เท่า)
งานวิจัยนี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการติดเชื้อโรคโควิด-19 ในเด็กว่า จะเกิดผลกระทบตามมาระยะยาวหลังการติดเชื้อ
ทั้งนี้ ผลการศึกษาดังกล่าวจะเชื่อมโยงไปถึงความสัมพันธ์ของการติดเชื้อโรคโควิด-19 กับปัญหาภาวะตับอักเสบรุนแรงในเด็กเล็กที่พบทั่วโลกขณะนี้หรือไม่ คงต้องติดตามดูกันต่อไป อย่างไรก็ตาม การป้องกันไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
ขณะที่ พญ.พรนิภา ศรีประเสริฐ กุมารแพทย์ เจ้าของเพจ เรื่องเด็กๆ by หมอแอม โพสต์ข้อความว่า พบ ตับอักเสบปริศนา
1. ช่วงเดือนเมษายน 2565 องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า พบเด็กนับร้อยราย จู่ๆ ก็เป็นตับอักเสบเฉียบพลัน “แบบรุนแรง” มีเด็กต้องเปลี่ยนตับและบางรายเสียชีวิตในหลายประเทศแถบตะวันตก
2. ช่วงเดือนพฤษภาคม เริ่มมีรายงานเคสในแถบเอเชีย ล่าสุดพบเด็ก (อายุ < 16 ปี) เป็นตับอักเสบปริศนา มากกว่า 450 ราย เสียชีวิต 11 ราย
3. ซึ่งเป็นที่ งง-งวย ของทั่วโลก เพราะปกติแล้ว ตับอักเสบจากการติดเชื้อ มักเกิดจากเชื้อตับอักเสบ hepatitis virus (เช่นที่เราฉีดวัคซีนกัน = hepatitis A,B) แต่ครั้งนี้ เคสไหนๆ ก็ตรวจไม่เจอเจ้าเชื้อตับอักเสบเจ้าเก่าของเราเลย
4. แต่กลับพบเชื้อ adenovirus ที่ปกติเจ้าตัวนี้ ไม่ทำอันตรายกับตับเรา และ/หรือพบหลักฐานการติดเชื้อโอมิครอนในเด็กๆ เหล่านี้แทน
ล่าสุดยังไม่รู้สาเหตุ แต่สันนิษฐานว่า อาจเกิดจากเชื้อ adenovirus กลายพันธุ์ หรือโอมิครอนทำให้เชื้อรุนแรงขึ้นแล้วมีผลที่ตับ หรือจากภาวะลองโควิด (ยังเป็นแค่สันนิษฐาน ทั่วโลกกำลังเร่งหาสาเหตุ) ทำให้ตอนนี้ยังไม่สามารถหาวิธีป้องกันได้ เพราะยังไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด
สำหรับอาการที่ต้องสังเกต มีดังนี้
- ปวดท้อง
- คลื่นไส้อาเจียน
- ถ่ายเหลว
- ตรวจพบเอนไซม์ตับสูงขึ้น
- ตาเหลืองตัวเหลือง
อย่างไรก็ตาม วัคซีนตับอักเสบที่เราฉีดกัน และฉีดให้ลูก เป็นวัคซีนตับอับเสบจากเชื้อ hepatitis virus ซึ่งภาวะตับอักเสบนี้ ไม่ได้เกิดจากเชื้อในวัคซีน แปลง่ายๆ คือ วัคซีนตัวนั้นไม่ช่วยตับอักเสบกรณีนี้ เพราะคนละเชื้อ คนละสาเหตุกัน
ข้อมูลจาก แฟนเพจ Thira Woratanarat, เรื่องเด็กๆ by หมอแอม