จับแล้ว ลูกเขยโหด บุกบ้านฆ่า แม่ยาย-หลานสาว เสียชีวิตคาห้องนอนในพื้นที่ จ.มหาสารคาม หลังตำรวจเค้นสอบข้ามคืน เผย ปมลงมือเหี้ยม แค้นกว่า30ปี
จากกรณีพบศพ นางทองคูณ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 75 ปี และ น.ส.ทรรศนีย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ถูกฆาตกรรมภายในบ้านแห่งหนึ่งพื้นที่ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาข่า ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 ราย ไปสอบปากคำตลอดคืนวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่ง 1 ในผู้ต้องสงสัยรับสารภาพ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย.2565 รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวน นายทองสัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นลูกเขยของนางทองคูณ ได้รับสารภาพอ้างว่า ก่อเหตุเพราะมีความโกธรแค้นส่วนตัวกับนางทองคูณซึ่งเป็นแม่ยาย เพราะถูกแม่ยายด่าว่ามาตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่อยู่กินกับภรรยาที่เสียชีวิตไป หาว่าตนไม่ทำงาน และเล่นการพนันไก่ชน กลายเป็นความแค้นสะสม จนลงมือก่อเหตุในที่สุด
นายทองสัน ให้การต่อว่า โดยเข้าไปที่บ้านหลังเกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ก่อนจะใช้ไม้คมแฝกตีที่ศีรษะของนางทองคูณไปหลายครั้ง จนน.ส.ทรรศนีย์ตื่นขึ้นมา จึงใช้ไม้ตีเข้าที่คางของน.ส.ทรรศนีย์ จากนั้น เมื่อทั้งสองแน่นิ่งไป จึงใช้เชือกที่เตรียมไปรัดคอทั้งสองจนเสียชีวิต ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์มือถือของนางทองคูณและน.ส.ทรรศนีย์ไปทิ้งลงที่หนองน้ำสาธารณะหลังบ้าน ส่วนเชือกและไม้คมแฝกเอาไปทิ้งที่ในป่าดอนปู่ตาประจำหมู่บ้าน
เจ้าหน้าที่ได้ประสานเจ้าหน้าที่ชมรมกู้ภัยวาปีปทุมลงหาโทรศัพท์มือถือทั้งสองเครื่อง ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจึงพบโทรศัพท์ และให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอีกชุดปูพรมหาไม้คมแฝก และเชือกที่ใช้ก่อเหตุซึ่งพบแต่เชือก แต่ไม้คมแฝกยังหาไม่พบ
ด้าน นายประมวล (ขอสงวนนามสกุล) พ่อของน.ส.ทรรศนีย์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือนายทองสันซึ่งเป็นพี่เขย ตนคิดไว้แล้วว่าต้องใช่ ส่วนตัวไม่ค่อยได้สุงสิงกัน เพราะต่างคนก็ต่างใช้ชีวิต แต่ส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบหน้า เพราะนายทองสันไม่ค่อยทำงาน ชอบเล่นตีไก่ และเชื่อว่าเป็นเพราะเงินฌาปนกิจศพของภรรยาที่เสียชีวิต ที่นายทองสันไม่ได้ส่วนแบ่ง จึงอาจเป็นสาเหตุให้ก่อเหตุ
นายประมวล กล่าวต่อว่า อีกทั้งเมื่อ 3 วันก่อนเกิดเหตุ หมาที่เลี้ยงไว้ที่บ้านถูกยาเบื่อตาย คาดว่านายทองสันจะเป็นคนทำ ตอนนี้ไม่อยากบอกอะไรกับนายทองสัน คนแบบนี้ เงินแค่ 2 แสนทำไมต้องทำกับลูกตนแบบนี้ มันแลกกับชีวิตลูกไม่ได้ ส่วนลูกสาวที่เสียชีวิตนั้นถือว่าโชคร้าย ไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะถูกฆ่าอย่างทารุณแบบนี้
นายประมวล กล่าวอีกว่า ทุกครั้งที่ตนหลับตาก็จะนึกถึงหน้าลูก ซึ่งลูกสาวเป็นคนดี เป็นคนขยัน และกำลังจะมีอนาคตไกล เป็นคนสวย เป็นดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน ตนไม่ขออภัยในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ต้องมาขอขมา และอยากให้นายทองสันรับผลกรรมอย่างถึงที่สุด
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. ที่สภ.นาข่า พล.ต.ต.ดิเรก จิตอร่าม ผบก.ภ.จว.มหาสารคาม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณัฐนนท์ ประชุม ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.นุติ ศักดิ์สุภาพ ผกก.สส.ภ.จว.มหาสารคาม, พ.ต.ท.สมภพ ปาปะใน สารวัตรใหญ่ สภ.นาข่า และชุดสืบสวน สภ.นาข่า ภ.จว.มหาสารคาม และสืบภาค 4 ร่วมแถลงจับกุมนายทองสัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 59 ปี โดยแจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
พล.ต.ต.ดิเรก กล่าวว่า เหตุจูงใจของเรื่องนี้อยู่ที่ผู้ต้องหากับผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นแม่ยายกับลูกเขย เกิดจากความแค้นสะสมมานานกว่า 30 ปี แม่ยายชอบดุด่า หาว่าไม่ทำงาน ชอบเล่นการพนันตีไก่ ก่อนหน้านี้เคยมาดูลาดเลาแล้ว 2 ครั้ง แต่ไม่สบโอกาส แต่ตั้งใจลงมือฆ่าแน่ จึงไปหาไม้หน้าสามมาลับคม ทำเป็นไม้คมแฝกเตรียมการณ์ไว้
พล.ต.ต.ดิเรก กล่าวต่อว่า ในวันเกิดเหตุประมาณ 03.00 น. ได้เข้าไปในบ้านแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสอง แก้เชือกไนล่อนสีเขียวที่ผูกประตูไว้ ถือติดมือมา จากนั้นใช้ไม้คมแฝกตียาย 2 ที หลานผงกหัวขึ้นมา จึงใช้ไม้ตีเข้าที่คางของหลาน ก่อนใช้เชือกไนล่อนสีเขียวรัดคอยายจนเสียชีวิต และใช้เชือกที่เตรียมมาอีกเส้นรัดคอหลานจนเสียชีวิตเช่นกัน
พล.ต.ต.ดิเรก กล่าวอีกว่า จากนั้น ก็หยิบโทรศัพท์ไป 2 เครื่องไปโยนทิ้งลงหนองน้ำ และเชือกกับไม้คมแฝกเอาไปทิ้งในดอนปู่ตา ส่วนกรณีวางยาเบื่อหมา ทางผู้ต้องหาอ้างว่าไม่ได้ทำ และไม่เกี่ยวกับเงินประกันแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน