เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก “อดีตพระกาโตะ” ออกมายอมรับสารภาพว่า เคยมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาตองในรถยนต์เก๋งบริเวณสันเขื่อน “อ่างเก็บน้ำกะทูน” อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช จนกลายเป็นกระแส “สันเขื่อนกาโตะ” ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างกว้างขวาง ส่งผลให้ผู้คนจำนวนมาก แห่ไปเที่ยวบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำกะทูนกันอย่างคึกคัก ตลอดช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา โดยสมีกาโตะ ได้เดินทางไปเยี่ยมสันเขื่อนกะทูน หลังจากตัดสินใจลาสิขาบทอีกด้วย และหลังเกิดเรื่องใหม่ ๆ คำว่า “เขื่อนกะทูน” มีการเข้าไปค้นหาในกูเกิลเป็นลำดับ 1 เลยทีเดียว
โดยสันเขื่อนแห่งนี้ได้รับฉายา “สวิตเซอร์แลนด์แดนใต้” อยู่แล้ว และเป็นแหล่งน้ำที่สะอาดที่สุดในประเทศไทย เป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำตาปีและมีจุดชมวิวที่สวยงามที่สามารถมองได้รอบ 360 องศา ซึ่งชาวบ้านอยากให้ทางไฟฟ้า มาติดตั้งบริเวณสันเขื่อนก็จะดีมาก เพราะจะมีความปลอดภัยด้วย ซึ่งในช่วงวันหยุดยาว 3 วันนี้ บรรดานักท่องเที่ยวพากันไปถ่ายรูปเซลฟี่ บริเวณสันเขื่อนกันอย่างคักคัก ทำให้การจราจรติดขัด และร้านอาหารร้านค้า และที่พักบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำกะทูน มีนักท่องเที่ยวแห่เข้าไปใช้บริการจำนวนมากจนแน่นทุกร้าน
นางเรวดีลู อายุ 44 ปี เจ้าของร้านอาหาร “อิ่มละไม” เปิดเผยว่า หลังจากเจอวิกฤติโควิด-19 ลูกค้า และนักท่องเที่ยวหายไปจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าหลังจากช่วงหลังเกิดเรื่องอดีตพระกาโตะ เสพเมถุนสีกาตองบนสันเขื่อนกะทูน อ.พิปูน ทำให้กระแสสันเขื่อนของอดีตพระกาโตฟีเวอร์ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างแห่แหน หลั่งไหลเข้ามาเที่ยวชมบรรยากาศสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำกะทูน จนแน่นตลอดทั้งเดือน โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวหรือเสาร์-อาทิตย์ ส่งผลให้ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมาก บริเวณอ่างเก็บน้ำกะทูนมีนักท่องเที่ยวลูกค้าเข้ามาใช้บริการ จนแน่นร้านทุกร้าน และที่พักเต็มหมดทุกแห่ง โดยเฉพาะช่วงเย็นคนแน่นมากที่สุด
สำหรับ “เขื่อนกะทูน” หรือ “อ่างเก็บน้ำกะทูน” ตั้งอยู่ที่ ต.กะทูน อ.พิปูน จ.นครศรีธรรมราช สร้างขึ้นหลังเหตุการณ์สูญเสียครั้งใหญ่ไปกับอุทกภัยเมื่อปี พ.ศ. 2531 มีผู้คนถูกทะเลโคลนถล่มทับหายไปจำนวนมาก ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระราชดำริ ให้ช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่และประชาชนขึ้นมา โดยกรมชลประทานสร้างอ่างเก็บน้ำเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาพิบัติภัยจากธรรมชาติมีพื้นที่กว่า 12,500 ไร่ นอกจากจะมีประโยชน์หลากหลาย อาทิ บรรเทาอุทกภัย เป็นพื้นที่เพาะปลูก เป็นแหล่งทำประมงพื้นบ้านแล้ว เขื่อนแห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นของจังหวัดนครศรีธรรมราชอีกด้วย