ปธน.ยูเครน ยอมรับ! กองกำลังของเขาเป็นรองทหารรัสเซีย ในสมรภูมิ “ซีวีโรโดเนตสก์”

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ยอมรับในวันจันทร์ 6พ.ค. ที่ผ่านมา ว่าทหารของเขามีจำนวนน้อยกว่ากองกำลังที่แข็งแกร่งกว่าของรัสเซีย ในขณะที่สองฝ่ายกำลังสู้รบดุเดือดแย่งชิงควบคุมเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ขณะเดียวกันมอสโกโวยวายบรรดาประเทศยุโรป ที่ไม่ยอมให้ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของพวกเขา บินผ่านน่านฟ้า

“เรากำลังต้านทานในเมืองสำคัญแห่งนี้ แต่พวกเขามีมากกว่าและแข็งแกร่งกว่า” เซเลนสกีบอกกับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงเคียฟ หนึ่งวันหลังจากแสดงความกล้าหาญด้วยการออกไปตรวจเยี่ยมทหารตามฐานที่มั่นต่างๆในแนวหน้าในเมืองลีซีแชนสก์ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเมืองซีวีโรโดเนตสก์ โดยมีแม่น้ำซิเวอร์สกีคั่นกลาง

ขณะเดียวกันมอสโกโวยวายบรรดาประเทศยุโรป ที่ปฏิเสธสิทธิในการบินผ่านเครื่องบินของ เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย

นอกจากนี้แล้ว รัสเซีย ยังได้เพิ่มเติมรายชื่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯหลายคนเข้าไปในบัญชีดำห้ามเดินทางเข้าประเทศ ส่วนทางวอชิงตันสั่งอายัดเครื่องบิน 2 ลำของ โรมัน อับราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย ยกระดับกดดันบรรดานักธุรกิจรัสเซียที่มีความใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน

เซเลนสกี พร้อมด้วย แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนเช่นกันในวันจันทร์(6มิ.ย.) ว่าภาวะอุปทานธัญพืชตึงตัวที่กำลังเกิดขึ้นกับตลาดโลก เป็นผลสืบเนื่องจากสิ่งที่พวกเขาเรียกว่ายุทธศาสตร์ “แบล็คเมล์” ของรัสเซีย

ท่ามกลางสงครามที่ยืดเยื้อในเดือนที่ 4 สหราชอาณาจักรเดินตามรอยสหรัฐฯ แถลงว่าจะจัดหาเครื่องยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่พิสัยไกลกว่าเดิมให้แก่กองกำลังยูเครน ซึ่งจะช่วยเพิ่มแสนยานุภาพการสู้รบของเคียฟ ตอบโต้พลังการโจมตีของรัสเซีย

กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุว่าพวกเขาจะสนับสนุนระบบยิงจรวดหลายลำกล้อง M270 แก่ยูเครน โดยมันสามารถโจมตีเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปสูงสุด 80 กิโลเมตร ด้วยจรวดนำวิถีที่มีความแม่นยำสูง เหนือกว่าระยะทำการของปืนใหญ่มาตรฐานทั่วไปราวๆ 2 เท่า

ถ้อยแถลงนี้มีขึ้นแม้ประธานาธิบดีปูติน เตือนว่ามอสโกจะเล็งเป้าหมายใหม่ๆในยูเครน หากตะวันตกส่งมอบอาวุธลักษณะดังกล่าวแก่เคียฟ แต่ไม่เจาะจงเป้าหมายเหล่านั้น

การสู้รบและโจมตีด้วยปืนใหญ่ยังคงดุเดือดในภูมิภาคดอนบาสและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในซีวีโรโดเนตสก์ เมืองใหญ่ที่สุดของแคว้นลูฮันสก์ ที่ยังไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซีย

กองกำลังรัสเซียยังได้เดินหน้าปฏิบัติการจู่โจมแนวหน้าอื่นๆอีกหลายแห่ง แต่ทางเคียฟระบุว่าพวกเขาสามารถปัดเป่าขับไล่การโจมตี 7 จุดรอบๆโดเนตสก์และลูฮันสก์

กระทรวงกลาโหมรัสเซียเผยว่าเครื่องบินของพวกเขาโจมตีคลังอาวุธ 3 แห่งและโรงเก็บน้ำมันใกล้หมู่บ้านโคเดมา ในแคว้นโดเนตสก์

ทั้ง 2 ฝ่ายผลัดกันรุกคืบและล่าถอยในซีวีโรโดเนตสก์ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์ชี้ว่าการที่กองกำลังยูเครน ยังคงสามารถปักหลักในพื้นที่สำคัญๆของเมือง พร้อมกับโจมตีในพื้นที่อื่นๆของแนวหน้า ตอกย้ำให้เห็นถึงความอ่อนแอในศักยภาพการรุกคืบของรัสเซีย

ในวันจันทร์(6มิ.ย.) ลาฟรอฟ ตำหนิหลายประเทศของยุโรป ที่ขัดขวางเครื่องบินของเขาที่กำลังบินผ่านน่านฟ้าของประเทศเหล่านั้น ส่งผลให้เขาต้องยกเลิกกำหนดการเดินทางเยือนกรุงเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย ชาติพันธมิตรของรัสเซีย

หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเซอร์เบีย รายงานว่าบัลแกเรีย สมาชิกนาโต้ กับนอร์ทมาซิโดเนียและมอสเตเนโกร ไม่ยอมให้เครื่องบินของลาฟรอฟ บินเข้าสู่น่านฟ้าของพวกเขา “สิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น นี่คือการกีดกันรัฐอธิปไตยหนึ่งๆ จากสิทธิ์ดำเนินการด้านนโยบายต่างประเทศ” ลาฟรอฟกล่าวกับผู้สื่อข่าวในมอสโก

ทั่วโลกมีความกังวลมากขึ้นเกียวกับปัญหาขาดแคลนอุปทานอาหาร ในขณะที่รัสเซียยังคงปิดล้อมโอเดสซา เมืองท่าของยูเครน “ตอนนี้เรามีราวๆ 20 ถึง 25 ล้านคนที่ถูกขัดขวาง ในฤดูใบไม้ร่วงอาจเพิ่มเป็น 70 ถึง 75 ล้านตัน” เซเลนสกีกล่าว ในขณะที่ประเทศของเขาเป็นชาติผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดอันดับ 4 ของโลก ก่อนสงคราม

ในวอชิงตัน บลินเคน บอกว่ารัสเซียซ้ำเติมวิกฤตธัญพืชด้วยการ “กักตุน” ธัญพืชของพวกเขาเอง ขัดขวางไม่ให้มีการส่งออก ในขณะเดียวกัน บลินเคน ยืนยันว่าข่าวคราวเกี่ยวกับกรณีรัสเซียขโมยธัญพืชที่กำลังส่งออกจากยูเครนนั้นมีความน่าเชื่อถือ “ง่ายๆเลย มันคือการแบล็คเมล์” บลินเคนกล่าว

(ที่มา:เอเอฟพี)