โฆษกรัฐบาล ย้ำปลดล็อกกัญชา-กัญชง เพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ แต่ในหลายประเทศยังเป็นยาเสพติด บทลงโทษรุนแรง สูงสุดถึงประหารชีวิต เตือนคนไทยศึกษากฎหมายประเทศปลายทางก่อน
วันที่ 30 มิ.ย. 2565 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ย้ำว่า รัฐบาลปลดล็อกกัญชา กัญชง เพื่อประโยชน์ทางด้านการแพทย์และเศรษฐกิจ ซึ่งมีผลบังคับใช้เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น ขอเตือนผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์หรือยาที่มีส่วนผสมของกัญชา ตลอดจนมีส่วนต่างๆ ของกัญชา กัญชง ในครอบครอง ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ให้มีการตรวจสอบกฎหมายของประเทศปลายทางเกี่ยวกับข้อกำหนด การอนุญาต ข้อห้ามโดยละเอียด หากไม่แน่ใจ ไม่ควรนำทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสม หรือส่วนต่างๆ ของกัญชา กัญชง ติดตัวไปต่างประเทศ เนื่องจากหลายประเทศกัญชา กัญชง ยังเป็นยาเสพติด และมีบทลงโทษที่รุนแรงตั้งแต่ปรับ จำคุก และมีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
ขณะที่ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ออกประกาศเตือนคนไทยที่จะเดินทางมาหรือพำนักอยู่ในเกาหลีใต้ ห้ามนำเข้า กัญชา กัญชง หรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของพืชชนิดดังกล่าวเข้ามาในประเทศเกาหลีใต้ หากฝ่าฝืนจะมีโทษตามกฎหมายเกาหลีใต้ กรณีลักลอบนำเข้ามีโทษจำคุก 5 ปีขึ้นไป หรือตลอดชีวิต ปลูก หรือจำหน่าย มีโทษจำคุกอย่างน้อย 1 ปี มีไว้ครอบครอง หรือเสพ มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และถูกเนรเทศ และห้ามเดินทางเข้าเกาหลีใต้อีก
นายธนกร กล่าวในช่วงท้ายว่า “ขณะนี้มีหลายประเทศที่ออกประกาศห้ามนำกัญชาเข้าสู่ประเทศ เพราะยังคงผิดกฎหมายในประเทศปลายทางอยู่ อาทิ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ซึ่งล่าสุดคือเกาหลีใต้ ดังนั้นผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศและมีความจำเป็นต้องใช้กัญชาทางการแพทย์ จึงควรศึกษาข้อบังคับก่อนเดินทางออกนอกประเทศทุกครั้ง รวมทั้งตรวจสอบกฎหมายข้อกำหนดเกี่ยวกับกัญชาประเทศปลายทางโดยละเอียด หากต้องการเดินทางไปต่างประเทศต้องงดการใช้กัญชาหรือพกกัญชาไปด้วย ถ้าไม่แน่ใจไม่ควรนำติดตัวไปพร้อมการเดินทาง มิเช่นนั้นอาจจะมีความผิดตามกฎหมายได้ เนื่องจากในหลายประเทศยังผิดกฎหมาย”.