พ่อตาปืนดุ ก่อเหตุใช้ 9 มม. กระหน่ำยิงอดีตลูกเขย เป็นศพจมกองเลือดคาบ้านพัก ที่ จ.ตรัง เหตุโกรธแค้นแทนลูกสาว ด้านเมียผู้ตายเผยแยกกันอยู่มา 6 ปีแล้ว แต่ผู้ตายยังวนเวียนมาหา ส่วนสาเหตุเลิกรานั้น เพราะผู้ตายเป็นคนขี้หึง-ทะเลาะกันบ่อย ก่อนเกิดเหตุผู้ตายมาขอคืนดี พร้อมพูดขู่ “ถ้าไม่ให้กูอยู่ ไม่กูตาย-ก็มึงตาย”
เมื่อเวลา 00.10 น. คืนวันที่ 4 ก.ค. 65 ร.ต.อ.ทรงวุฒิ ทองสม รอง สว.(สอบสวน) สภ.รัษฎา รับแจ้งเหตุพ่อตาใช้อาวุธปืนยิงลูกเขยเสียชีวิต เหตุเกิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกำลังชุดสืบสวนกองกำกับการภูธร จ.ตรัง ฝ่ายปกครอง แพทย์เวร รพ.รัษฎา และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างภักดีตรัง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณหน้าบ้านและภายในบ้านพบปลอกกระสุนปืนตกเกลื่อนกว่า 20 ปลอก และหัวกระสุนอีกจำนวนหลายหัว เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ภายในบ้านพบศพ นายประพันธ์ น้ำแก้ว อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ตามบัตรประชาชน 157 หมู่ 4 ต.เขาไพร อ.รัษฎา อาชีพรับจ้างทั่วไป นอนเสียชีวิตจมกองเลือด จากการตรวจสอบสภาพศพ พบถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่บริเวณด้านหน้าและลำตัวจำนวน 10-15 นัด จนเป็นแผลฉกรรจ์
ต่อมา นายนิคม คงจันทร์ อายุ 64 ปี ชาวจังหวัดตรัง ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุและเป็นอาสาสมัครตำรวจบ้าน (อส.ตร.) ต.เขาไพร มีศักดิ์เป็นพ่อตาของผู้ตาย ได้เดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัษฎา พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุจำนวน 1 กระบอก จากการสอบสวนยอมรับว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุเนื่องจากความโกธรแค้นที่ลูกสาวถูกผู้ตายหาเรื่องชวนทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง ก่อนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืน”
จากการสอบถาม น.ส.สุนารี คงจันทร์ อายุ 43 ปี อดีตภรรยาผู้ตายและเป็นลูกสาวของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนกับผู้ตายมีลูกด้วยกัน 4 คน ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ซึ่งแยกกันอยู่มาได้ประมาณ 6 ปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาผู้ตายเข้าออกบ้านหลังนี้มาโดยตลอด จนวันนี้ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้มาพูดคุยกับตน ขอกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน พร้อมกับพูดว่า “ถ้าไม่ให้กูอยู่ ไม่กูตาย มึงก็ตาย” ตนได้ยินทันใดนั้นเกิดความกลัวจึงรีบขับรถจักรยานยนต์ไปบ้านพี่สาวผู้ตาย ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 100 เมตร พร้อมโทรให้ลูกสาวมาช่วยคุยกับผู้ตาย เพื่อให้กลับไปนอนที่บ้าน แต่กลับถูกปิดประตูใส่ไม่ยอมคุยด้วย ตนจึงไม่กล้ากลับบ้าน ต่อมาตนได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้งใกล้ๆ บ้านพี่สาวผู้ตาย แต่ไม่กล้าออกมาดู ก่อนมาทราบจากลูกสาวภายหลังว่าอดีตสามีถูกพ่อตนยิงเสียชีวิตแล้ว
ด้าน น.ส.สุนารี เล่าต่อว่า ที่ผ่านมาตลอดเวลาที่คบหากับผู้ตาย มีปัญหาทะเลาะกันบ่อยครั้งเรื่องหึงหวง โดยถูกผู้ตายสั่งไม่ให้คุยกับใคร ไปนอกบ้านหรือทำงานก็ไม่ได้ ขณะเดียวกันผู้ตายมักเสพยาเสพติด ตนทนไม่ไหวจึงได้เลิกรากัน พ่อตนเคยสอบถามอยู่บ่อยครั้ง แต่ตนก็ไม่เคยเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง และไม่รู้สาเหตุว่าทำไมพ่อต้องใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจนเสียชีวิตดังกล่าว
ขณะที่ นางปรียานันท์ น้ำแก้ว อายุ 49 ปี พี่สาวผู้ตาย เล่าว่า น้องชายเลิกรากับภรรยานานแล้ว เท่าที่เห็นทะเลาะกันบ่อยครั้งเรื่องหึงหวง โดยน้องชายมักมาเฝ้า น.ส.สุนารี ไม่ให้ออกไปไหนจนเลิกรากันไป หลังจากนั้นผู้ตายก็จะมาที่บ้านแฟนเก่าบ่อยครั้ง โดยมักนำของกินของใช้มาและพูดคุยกับลูกที่พิการ ส่วนสาเหตุที่ถูก นายนิคม (ผู้ก่อเหตุ) ใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตนั้น ตนไม่ทราบสาเหตุว่ามีปัญหาอะไรกัน ที่ผ่านมาน้องชายตนมีปัญหาเสพยาเสพติด ถูกจับอยู่บ่อยครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการตรวจสอบประวัติผู้ตาย พบว่าเพิ่งพ้นโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติดเมื่อช่วง ธ.ค. 2564 และเคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาหลายคดี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นพ่อตา เคยต้องคดีและพัวพันคดียิง 2 สามีภรรยาเมื่อหลายปีก่อน แต่ได้ประกันตัวสู้คดี ไม่ได้ต้องรับโทษคุมขังแต่อย่างใด.