“อุดรเซฟตี้โซน” เมืองอัจฉริยะแห่งความปลอดภัย ต้นแบบนำร่องหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

“จะทำอย่างไรให้ประชาชนต้องไม่เกิดความหวาดระแวงภัย อาชญากรรม หากสามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่ง สามารถเดินคนเดียวได้อย่างสบายใจบนถนนตอนกลางคืน”

เป็นนิยามที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้ให้นโยบายในการ บริหารงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมผลักดัน “SMART SAFETY ZONE 4.0” และนำไปใช้ในพื้นที่นำร่อง 15 สถานีตำรวจทั่วประเทศตั้งแต่กลางปี 2564

เพื่อยกระดับพัฒนารูปแบบวิธีป้องกันอาชญากรรมเชิงรุก โดยใช้นวัตกรรม และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางนำไปสู่แนวคิด “เมืองอัจฉริยะแห่งความปลอดภัย”

พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ปล่อยแถวตำรวจสายตรวจออกปฏิบัติการในพื้นที่ “อุดรเซฟตี้โซน” พร้อมรับแจ้งตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัย.

สภ.เมืองอุดรธานี เป็นหนึ่งในโรงพักที่ได้ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม มีการกำหนดพื้นที่เขตเศรษฐกิจเฝ้าระวังเหตุอาชญากรรมที่เรียกว่า “อุดรเซฟตี้โซน” จนได้รับคำชมจากผู้บังคับบัญชาว่า ที่นี่คือต้นแบบที่จะนำร่องไปยังหัวเมืองใหญ่ทั่วประเทศ

ด้วยสภาพเมืองและตำแหน่งที่ตั้งของเมืองอุดรธานี ถือว่าเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบนและยังเชื่อมโยงกับนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาวได้อย่างชัดเจนและมีนัยสำคัญ เพราะขณะนี้รถไฟความเร็วสูงจากจีนมีปลายทางไปสิ้นสุดอยู่ที่นครหลวงเวียงจันทน์แล้ว พร้อมเชื่อมต่อเส้นทางผ่านไปยัง จ.หนองคาย

แต่สิ่งที่หลายภาคส่วนจับตามองและรู้สึกกังวลเป็นอย่างมากก็คือเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย

พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี ปล่อยแถวตำรวจสายตรวจออกปฏิบัติการในพื้นที่ “อุดรเซฟตี้โซน” พร้อมรับแจ้งตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัย.

เนื่องจาก จ.อุดรธานี จะเป็นเจ้าภาพจัด “งานพืชสวนโลกในปี 2569” รวมไปถึงงานอีเวนต์ใหญ่มหกรรมการแข่งขันจักรยานระดับโลก “เลอแท็ฟ ทัวร์ เดอฟร้องส์” ที่จะจัดก่อนในปี 2568 โดยจะมีนักปั่นจากทุกมุมโลกมาจำนวนมาก

จุดนี้เองที่ สภ.เมืองอุดรธานี ได้เร่งพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ และสร้างความมั่นใจให้กับคนต่างถิ่นตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะหลั่งไหลเข้ามาในอนาคต

“อุดรเซฟตี้โซน” เป็นการผนึกกำลังหน่วยงานต่างๆอย่างเข้มข้น โดยมี สภ.เมืองอุดรธานี เป็นศูนย์กลางในการประสานการทำงานร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่

เริ่มขับเคลื่อนอย่างจริงจังตั้งแต่ยุค พ.ต.อ.อารี สินธุรา เป็นหัวหน้าโรงพักก่อนส่งผ่านมาถึง พ.ต.อ.จามร อันดี ผกก.คนปัจจุบัน โครงการยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

โดยมี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี เป็นผู้รับผิดชอบวางแผนเชื่อมโยง “อุดรเซฟตี้โซน” พื้นที่ 4.3 ตร.กม. เข้ากับศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการ สภ.เมืองอุดรธานี CCOC (Command And Control Operations Center) เพื่อเฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชม.

พ.ต.อ.จามร อินดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจความพร้อมของศูนย์ปฏิบัติการและควบคุมสั่งการ สภ.เมืองอุดรธานี CCOC (Command And Control Operations Center) เพื่อเฝ้าระวังเหตุตลอด 24 ชม.

มีการเพิ่มจุดขอความช่วยเหลือที่เรียกว่า SOS แจ้งเหตุฉุกเฉินนำร่องก่อน 1 จุด บริเวณ 4 แยกชิบูย่า สถานีรถไฟอุดรธานี ถนนประจักษ์ศิลปาคมตัดกับถนนทองใหญ่ จุดที่มีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ตั้งอยู่รอบบริเวณ และมีผู้คนทำมาค้าขายออกมาจับจ่ายเป็นจำนวนมาก

พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ กล่าวว่า ประชาชนที่เห็นหรือประสบเหตุอาชญากรรม ลักทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ คลั่ง อาละวาดทำร้ายประชาชน หรือวิกลจริต สามารถแจ้งเหตุได้ที่ตู้รับแจ้งเหตุ SOS

เพียงแค่กดปุ่ม 1 ครั้งแล้วรอเจ้าหน้าที่ศูนย์ CCOC พูดตอบรับ ตำรวจจะมองเห็นใบหน้าผู้แจ้งและสามารถประเมินได้ว่าเป็นการแจ้งเหตุจริงหรือเท็จ ส่วนผู้แจ้งจะไม่เห็นหน้าตำรวจ

แผนงานต่อไปจะติดตั้งจุด SOS อีก 20 จุดทั่วเขตเทศบาลนครอุดรธานีกระจายออกไปตามจุดธนาคาร ร้านทอง ตลาดสด หรือพื้นที่คนพลุกพล่าน คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

พ.ต.อ.จามร อินดี ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ไปตรวจดูแลตู้รับแจ้งความฉุกเฉิน SOS เพื่อความสะดวกให้ประชาชนแจ้งเหตุอาชญากรรมทุกรูปแบบ.

อนาคตจะขยายจุดแจ้งเหตุ SOS ออกไปให้ครอบคลุมในทุกอำเภอ โดยได้รับการสนับสนุนงบฯจากกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคมและ อปท.

เป้าหมายเพื่อทำให้อุดรธานีเป็นพื้นที่ปลอดภัยทั้งจังหวัด.