ประเทศ “จอร์เจีย” ทำไวน์ด้วยหรือ…หนึ่งในร้อยคำถามที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินชื่อ “ไวน์จอร์เจีย” ไม่ใช่เรื่องแปลก หลายคนไม่เคยชิมไวน์จอร์เจียเพราะอยู่ภายใต้เงื้อมเงาของสหภาพโซเวียต
องุ่นใน Kartli
ใครจะเชื่อว่า จอร์เจีย (Georgia) เป็นชาติที่ผลิตไวน์เก่าแก่ที่สุดในยุโรป และได้ชื่อว่าเป็น The Birth Place of Wine หรือ The Cradle of Wine Making จากหลักฐานที่พบเชื่อกันว่ามีการผลิตไวน์บริเวณพื้นที่แห่งนี้เมื่อประมาณ 7,000 – 5,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช หลังจากชาวคอเคซัส พบว่าน้ำองุ่นป่าที่บีบคั้นเอาไว้ได้กลายเป็นแอลกอฮอล์ หลังจากนั้นจึงใช้ประสบการณ์พัฒนาความรู้มาเรื่อย ๆ
ถังโอ๊คบ่มไวน์ในไวเนอรี่แห่งหนึ่งของจอร์เจีย
กระทั่งประมาณ 4,000 ปีก่อนคริสต์ศักราช ชาวจอร์เจียจึงคิดค้นภาชนะใส่ไวน์เพื่อเก็บไว้ดื่มนาน ๆ เป็นภาชนะดินเผาคล้ายไห เรียกว่า Kvevri แล้วปิดฝาด้วยแผ่นไม้ที่ทำไว้ขนาดพอดีกัน และสามารถเก็บไว้ได้ถึง 50 ปี และยังเชื่อกันว่าคำว่า Wine มาจากคำว่า Gvino ในภาษาจอร์เจีย
ฉลากไวน์จอร์เจียรุ่นใหม่ออกแบบสวยงามขึ้นแต่ยังคงมีภาษารัสเซีย
ที่ผ่านมา จอร์เจีย ผลิตไวน์ได้มากเป็นอันดับ 4 ของชาติที่เคยอยู่ในเครือสหภาพโซเวียต ตามหลังรัสเซีย (Russia) ยูเครน (Ukraine) และมอลโดวา (Moldova) จะเห็นว่าชื่อที่กล่าวมาสามารถทำไวน์ได้ แต่เราไม่เคยได้ชิมเท่านั้นเอง เพราะถูกเมฆหมอกสีดำปกคลุมเอาไว้ ทำให้ไวน์จอร์เจียประมาณ 90 % ต้องส่งไปตลาดรัสเซีย ในฐานะหัวเมืองใหญ่ของสหภาพโซเวียต
เขตผลิตไวน์ในจอร์เจีย
หลังจากที่สหภาพโซเวียตล่มสลายในช่วงปี พ.ศ.2531-2534 จอร์เจียได้เอกราชในปี พ.ศ.2533 ไวน์จอร์เจีย จึงเริ่มเป็นที่รู้จักของโลกภายนอกมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ไวน์หวานและกึ่งหวาน ของจอร์เจียมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ปริมาณไวน์ที่ผลิตในเขตต่าง ๆ ของจอร์เจีย
ปัจจุบันจอร์เจียมีหน่วยงานชื่อ “Georgian Wines & Spirits = GWS” ทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุน ไวน์จอเจียร์ ให้ทั่วโลกรู้จัก ผมได้ชิมไวน์จอร์เจียครั้งแรกเมื่อครั้งจอร์เจียยังเป็น 1 ใน 15 ดินแดนของสหภาพโซเวียต ตอนนั้นไปตุรกีที่มีพรมแดนติดกัน โดยจอร์เจียอยู่ทางเหนือค่อนไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของตุรกี เพื่อนชาวตุรกีที่ทำไวน์แนะนำให้ชิมกว่า 10 ยี่ห้อ ไม่มีข้อมูลใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะเป็นภาษารัสเซียทั้งหมด แต่ชิมแล้วต้องร้องเฮ้ย ! ไม่ธรรมดา
ทิวทัศน์ที่งดงามของประเทศจอร์เจีย
ครั้งล่าสุดที่ผมได้ชิมคือเมื่อ 2-3 เดือนก่อนที่ โควิด-19 รอบแรกจะมาเยือนไทย ตอนนอนนั้นมีผู้จะนำเข้าและตัวแทนไวน์จากจอร์เจีย ชวนผมไปชิมและขอคำวิจารณ์พร้อมคำแนะนำ ผมได้ชิมไวน์ขาวและแดงประเภทต่าง ๆ 19 รุ่น จากผู้ผลิต 6 ราย ล้วนดี ๆ ทั้งนั้น เสียดายที่โควิด-19 มาคั่นจังหวะเสียก่อน
จอร์เจีย ผลิตไวน์จากเขตผลิตหลัก ๆ 7 เขต ที่สำคัญคือ คาเคติ (Kakheti) ซึ่งผลิตไวน์ประมาณ 70 % ของประเทศ อยู่ทางตะวันออกของประเทศ พรมแดนทางตะวันออกและใต้ติดกับอาเซอร์ไบจัน ล้อมรอบด้วยภูเขาคอเคซัสมีแม่น้ำอลาซานี (Alazani) เป็นเส้นเลือดสำคัญ เป็นสาเหตุให้เกิดพื้นที่ไมโครไคลเมทคือ Telavi และ Kvareli
ไวน์ขาว-ดราย Tsinandali
นอกนั้นก็มี Kartli, Imereti, Racha-Lechkhumi และ Kvemo เป็นต้น โดย จอร์เจียผลิตไวน์ขาว 75 % ที่เหลือเป็นไวน์แดง และโรเซ่เล็กน้อย ที่สำคัญ ไวน์จอร์เจีย นิยมเบลนด์จากองุ่น 2 พันธุ์ขึ้นไปเหมือน ไวน์บอร์กโดซ์ จนมีคนเปรียบเทียบว่า ไวน์จอร์เจียคือ ลิตเติ้ล บอร์กโดซ์ เช่น ไวน์ขาวที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศชื่อ Tsinandali ใช้องุ่น 2 พันธุ์คือ Rkatsiteli และ Mtsvane
องุ่นรัทซิเทลี
ที่ผ่านมาองุ่นพื้นเมืองของจอร์เจีย ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในโลกตะวันตก คล้าย ๆ กับองุ่นจากชาติในยุโรปตะวันออกและยุโรปตอนกลางทั่ว ๆ ไป ปัจจุบันตลาดนานาชาติเริ่มให้ความสนใจมากขึ้น จอร์เจียมีองุ่นพื้นเมืองกว่า 400 พันธุ์ แต่ที่สามารถผลิตไวน์ได้ดี ตลาดเป็นที่ยอมรับมีประมาณ 30 กว่าสายตลาดเป็นที่ยอมรับมีประมาณ พันธุ์ที่สำคัญ เช่น
รัทซิเทลี (Rkatsiteli) เป็นองุ่นเขียวที่ปลูกมากในยุโรปตะวันออกและยุโรปตอนกลาง และมากเป็นอันดับ 3 ในโลกเมื่อคิดเป็นเฮกตาร์ เป็นองุ่นหลักในการทำไวน์ขาวของจอร์เจีย แอสิดสูง และคุณภาพดี
องุ่นซาปีราวี
ซาปีราวี (Saperavi) องุ่นแดงพันธุ์หลักในการทำไวน์แดงของจอร์เจีย ให้สีแดงเข้ม ทำไวน์แล้วสามารถเก็บไว้ได้หลายสิบปี ให้แอลกอฮอล์สูง และใช้ผสมกับพันธุ์อื่นทำไวน์แดงคุณภาพพรีเมียม
มึนสวานี (Mtsvani หรือ Mtsvane) ในภาษาจอร์เจียหมายถึง “เขียว” เป็นองุ่นทำไวน์ขาวที่สำคัญอีกพันธุ์หนึ่งของจอร์เจีย นิยมผสมกับ Rkatsiteli เพื่อให้ฟรุตตี้และกลิ่นหอม
ไวน์ขาวจากองุ่น Rkatsiteli
ส่วนการแบ่งเกรดคุณภาพแบ่งเป็น Sweet, Semi-Sweet, Semi-Dry, dry, Fortified และ Sparkling โดย Semi-Sweet เป็นประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ที่สำคัญอาจจะจำค่อนข้างยาก เนื่องจากต้องจำสไตล์ของไวน์แต่ละตัว ทั้งไวน์ขาวและแดง
ไวน์จอร์เจีย เป็นอีกหนึ่งในไวน์โลกเก่าที่น่าศึกษาอย่างยิ่ง เสียดายที่ไม่มีผู้นำเข้ามาบ้านเรา ประกอบกับสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้การเดินทางไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน
องุ่นในจอร์เจีย
อย่างไรก็ตามเมื่อฟ้าเปิดจากเชื้อไวรัสร้าย เหมือน ไวน์จอร์เจีย หลุดพ้นจากเงื้อมเงาของสังคมนิยม เราได้แต่หวังว่าน่าจะได้ชิม ได้ศึกษากันมากขึ้น..!