“บิ๊กป้อม” ประเดิมงานแรก นั่งรักษาการ แทนนายกฯ ถก กภช.ยกระดับเตือนภัย ด้าน “บิ๊กตู่” ซุ่มอยู่บ้านประชุมสภากลาโหม ย้ำกับ ผบ.เหล่าทัพไม่ต้องกังวล ให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไป “บิ๊กบี้” เชิดชูแบบอย่างผู้นำสุภาพบุรุษชาติทหาร “ไพบูลย์” อวยแหลก “พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี” รองโฆษก รบ. สวน “ชลน่าน” นายกฯเถื่อนอยู่ดูไบ ส.ส.เพื่อไทย สุดเซ็ง หนี “ประยุทธ์” มาเจอ “ประวิตร” เหมือนหนีเสือปะจระเข้ “มงคลกิตติ์” ชงศาล รธน.แช่แข็ง ครม.ทั้งคณะ “ระวี” ยื่นรายชื่อ ส.ส.-ส.ว. 106 คนส่งศาล รธน.ตีความร่าง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. ภท.แห่ลงชื่อสกัดสูตรหาร 100
หลังจากศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องขอให้วินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้พิจารณา พร้อมมีคำสั่งให้นายกฯหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ล่าสุดในการประชุมสภากลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะ รมว.กลาโหม กล่าวย้ำกับ ผบ.เหล่าทัพ ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไป
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 25 ส.ค.ที่ห้องประชุมมูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ (กภช.) ครั้งที่ 1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ นับเป็นภารกิจแรกของ พล.อ.ประวิตรในการทำหน้าที่รักษาราชการแทนนายกฯ หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้พิจารณา และมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.จนกว่าจะมีคำวินิจฉัย ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบร่างแผนยุทธศาสตร์การบริหารระบบการเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ พ.ศ. 2566-2570 ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้านการบริหารการเตือนภัย ด้วยดิจิทัลแบบบูรณาการที่มีมาตรฐานสากล” และเห็นชอบการดำเนินการแจ้งเตือนภัยโดยใช้ระบบ Cell Broadcast ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์สื่อสารจำนวนมากในการส่งเพียงครั้งเดียว ขณะที่ พล.อ.ประวิตรกำชับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้บูรณาการทำงานร่วมกันอย่างมีเอกภาพ เพื่อยกระดับการแจ้งเตือนสู่ระดับที่สูงขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพและปฏิบัติงานได้จริง เพื่อลดความเสี่ยง ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
“บิ๊กตู่” ซุ่มที่บ้านถกสภากลาโหม
ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย แต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ รมว.กลาโหม ตามวาระงาน พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ประจำเดือน ส.ค. ที่กระทรวงกลาโหม ในเวลา 13.30 น. โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตรแก้วแท้ ผบ.ทบ. พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. และผู้แทน ผบ.ทร. มารอประชุม แต่พอถึงเวลา พล.อ.ประยุทธ์แจ้งว่าไม่เดินทางเข้ามาประชุม แต่ใช้วิธีการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์จากบ้านพักใน ร.1 ทม.รอ.แทน
ย้ำ ผบ.เหล่าทัพไม่ต้องกังวล
ขณะที่ พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงถึงจุดยืนของกระทรวงกลาโหม หาก พล.อ.ประยุทธ์ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกฯว่า กระทรวงกลาโหมพร้อมสนับสนุนการทำงานของทุกรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลไหนก็แล้วแต่ ในส่วนของตัวบุคคลที่เข้ามาถูกต้องตามกฎหมายเราพร้อมรับฟังนโยบาย และปฏิบัติตาม รมว.กลาโหมเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายบริหารผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภากลาโหมที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุมผ่านระบบวีทีซี ระหว่างประชุม พล.อ.ประยุทธ์ได้กล่าวกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมว่า “ไม่ต้องกังวล ผมก็ทำหน้าที่ของผม และขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองไป”
“บิ๊กบี้” ชู “ตู่” สุภาพบุรุษชาติทหาร
ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมสภากลาโหมว่า คาดว่าจะมีการนัดประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลเร็วๆนี้ เมื่อถามถึงกระแสข่าวลือเรื่องเปลี่ยนตัว ผบ.ทบ. พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่า “อ๋อ ไม่ๆๆ บอกแล้วว่าอย่าไปคาดการณ์ถึงข่าวลือ อยากฝากนักข่าวให้คิดในสิ่งที่ดี ช่วยทำให้สังคมมองและคิดในสิ่งที่ดีๆ นำพาประเทศชาติไปในทางที่ดี “ยกตัวอย่างเรื่อง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ทุกคนควรชื่นชมยกย่อง นี่คือระบอบประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ ชื่นชมว่าท่านคือสุภาพบุรุษ ท่านคือผู้นำ คือแบบอย่างของชายชาติทหารสุภาพบุรุษ ที่ฝ่ายตุลาการมีคำสั่งอย่างไรก็ปฏิบัติตาม ไม่ใช่ว่าพอตุลาการพูดมาก็ไปคิดแทนไปคาดการณ์กันเอาเองเหมือนฝ่ายอื่น มันไม่ใช่ นี่คือสิ่งดีๆ”
อวย “พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี”
นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่ว่าคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร พรรคพลังประชารัฐยังขับเคลื่อนในฐานะพรรคแกนนำรัฐบาล บริหารราชการแผ่นดินต่อได้จนครบวาระสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ รักษาราชการแทนนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ยังคงห่วงใยประชาชน ไม่ว่าจะทำงานฐานะใดขอให้ความมั่นใจว่าจะเป็นไปด้วยความสงบ ไม่มีปัญหาเหมือนที่หลายคนปลุกปั่น การดำเนินการทุกอย่างอยู่ภายใต้กฎหมาย มีทางออกไม่ว่าจะเกิดกรณีใด การที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ทักท้วงว่า ครม.ชุดนี้ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วยนั้น เป็นการพูดโดยไม่มีข้อกฎหมายบัญญัติ หากฝ่ายค้านจะยื่นตีความก็แล้ว พรรคเพื่อไทยมีนักกฎหมายหลายคน คงไม่ไปทำอะไรแบบนั้น หลังแถลงข่าวเสร็จ นายไพบูลย์นำหนังสือ “พี่ป้อม พี่ใหญ่ พี่ชายที่แสนดี” ที่จัดพิมพ์ขึ้นมอบให้ผู้สื่อข่าว เนื้อหาเป็นประวัติส่วนตัว ประสบการณ์ทำงาน นายไพบูลย์กล่าวว่า พล.อ.ประวิตรเคยรักษาการแทนนายกฯหลายครั้ง มีความสามารถ ประสบการณ์สูงสุดในประเทศแล้ว
สวน “ชลน่าน” นายกฯเถื่อนอยู่ดูไบ
น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ไม่มีผลกระทบใดๆต่อการบริหารประเทศ ต่อการปฏิบัติงานของข้าราชการ การดำเนินนโยบายรัฐบาลทำต่อเนื่องไป ตามปกติ ส่วนที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกโดยไม่ต้องรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญนั้น เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมอย่างแท้จริง สิ่งที่ควรทำคือเรียกร้องให้นายทักษิณ ชินวัตร และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ กลับมายอมรับกระบวนยุติธรรม ไม่หนีคดีทุจริต เป็นตัวอย่างที่ดีของผู้นำแบบ พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้ นพ.ชลน่านทำความเข้าใจใหม่ว่านายกฯเถื่อนนั้นหนีไปอยู่ดูไบ ส่วนนายกฯไทยยอมรับกระบวนการศาล คือ พล.อ.ประยุทธ์
“วิษณุ” ประธานบรรจุอัฐิ “ป๋าเปรม”
นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.สงขลา ปฏิบัติภารกิจในวันที่ 26 ส.ค. เป็นประธานพิธีบรรจุอัฐิ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ณ สวนประวัติศาสตร์ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อ.สงขลา จ.สงขลา เชิญอัฐิ พล.อ.เปรมบรรจุใต้ฐานอนุสาวรีย์ฯ จากนั้นเป็นประธานในพิธีบวงสรวงวางศิลาฤกษ์อาคาร “เกิดมาต้องตอบแทน บุญคุณแผ่นดิน” และพิธีเปิด “ศูนย์ผ่าตัดหัวใจ 99 ปี รัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์” ณ อาคารศรีเวชวัฒน์ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อม มอบอาหารและเครื่องอุปโภคบริโภคสำหรับผู้ป่วยและญาติ ให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ที่อาคารเย็นศิระ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
“ชญาภา” ย้ำหนีเสือปะจระเข้
ด้าน น.ส.ชญาภา สินธุไพร รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว แล้วได้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ มารักษาราชการแทนนายกฯ เสมือนประเทศ ไทยตกอยู่ในสภาวะ “หนีเสือปะจระเข้” ไม่หลุดพ้นจากการครอบงำของกลุ่มอำนาจ 3 ป. การมี พล.อ. ประวิตรรักษาการนายกฯ ไม่ต่างจากพาประเทศเดินถอยหลังเข้าคลอง การประชุมเอเปกที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย. พล.อ.ประวิตรไม่ได้อยู่ในสภาพหรือมีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ เชื่อว่าคนไทยคงไม่ต้องการเห็นผู้นำอยู่ในสภาพที่ต้องมีคนประคองหรือพยุงมารับแขกบ้านแขกเมืองบนเวทีระดับโลก ประเทศ ชาติเสียเวลามามากพอแล้ว ประเทศไทยต้องไปต่อ แต่ 3 ป.ต้องพอแค่นี้ การได้ พล.อ.ประวิตรมารักษาการแทน ยิ่งตอกย้ำซ้ำเติมวิกฤติชาติ ไม่สามารถก้าวพ้นจากกับดักเผด็จการสืบทอดอำนาจไปได้
“เต้” ชงศาล รธน.แช่แข็ง ครม.
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวว่า หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราวจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ในทางปฏิบัติของกฎหมาย ทำให้รัฐมนตรีทั้งคณะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ หรือการลงนามในคำสั่งใดได้ ต้องให้ปลัดกระทรวงทำหน้าที่แทนรัฐมนตรีแต่ละกระทรวง จึงเตรียมเสนอต่อพรรคร่วมฝ่ายค้านให้ร่วมกัน เข้าชื่อ ส.ส.จำนวน 1 ใน 10 หรือให้ได้ 49 คน เพื่อยื่นคำร้องถึงประธานสภาฯ ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในประเด็นนี้ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นการแต่งตั้งโยกย้ายทหารด้วย และขอย้ำว่าคำสั่งให้ พล.อ.ประยุทธ์หยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องมีผลผูกพันถึงตำแหน่ง รมว.กลาโหมด้วย พล.อ.ประยุทธ์ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลได้
“พีระพันธุ์” ชี้ไม่กระทบรวมไทยฯ
นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า ประเด็นวาระดำรงตำแหน่งนายกฯ 8 ปี ที่มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าอาจมีผลต่อพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสว่าจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคว่า คิดไปเอง ยังไม่เคยพูด เมื่อถามถึงทิศทางการดำเนินการของพรรครวมไทยสร้างชาติ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ พล.อ.ประยุทธ์พ้นตำแหน่งนายกฯ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ไม่เกี่ยว เป็นการวิจารณ์กันไปเอง ไม่เคยพูด เมื่อถามว่าพรรคจะเน้นไปที่ ส.ส.เขตมากกว่า ส.ส.บัญชีรายชื่อใช่หรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า ยังไม่ถึงเวลาไปพูดตรงนั้น แต่ยืนยันไม่เกี่ยวกับกรณี พล.อ.ประยุทธ์ และไม่ว่าคำวินิจฉัยจะออกมาแบบไหนจะไม่กระทบกับพรรค จะเดินหน้าต่อไป
“ระวี” ยื่น 106 ชื่อตีความ ก.ม.ลูก
วันเดียวกัน เวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ยื่นคำร้องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ นพ.ระวีกล่าวว่า มี ส.ส. 80 คน และ ส.ว. 26 คน ร่วมลงชื่อในคำร้องดังกล่าว เพราะมีความตั้งใจไปให้สุดเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 2 ประเด็น ก่อนที่ประธานรัฐสภาจะนำร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ส่งให้นายกฯ นำขึ้นทูลเกล้าฯ คือ 1.วิธีการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อสูตรหาร 100 ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ 2.กระบวน การร่างกฎหมายชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่ต้องนำร่างที่กรรมาธิการพิจารณาแล้วเสร็จมาพิจารณาให้ความเห็นชอบภายใน 180 วัน แต่พรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ถ่วงเวลาทำให้องค์ประชุมรัฐสภาล่มถึง 4 ครั้ง
ภท.แห่ร่วมลงชื่อสกัดหาร 100
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ ส.ส.และ ส.ว.รวม 106 คนที่ร่วมลงชื่อดังกล่าว มาจากหลายพรรค โดยเฉพาะ ส.ส.พรรคภูมิใจไทยจำนวนมากร่วมลงชื่อ อีกส่วนมาจาก ส.ส.พรรคต่างๆ อาทิ นายนิโรธ สุนทรเลขา ประธานวิปรัฐบาล นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ น.ส.ศิลัมภา เลิศนุวัฒน์ ส.ส.พรรคพลเมืองไทย นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อชาติ นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังท้องถิ่นไท นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ นายธีระ วงศ์สมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลัง ส่วน ส.ว. อาทิ พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ นายถวิล เปลี่ยนศรี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร นายภาณุ อุทัยรัตน์ พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม
บช.น.แจ้งป่วนดินแดงมีเจ็บ 1
ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษก บช.น.กล่าวว่า จากการชุมนุมกลุ่มมวลชนเมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่หน้าโรงเรียนราชวินิตใกล้ทำเนียบรัฐบาล ผู้ชุมนุมยุติชุมนุมเมื่อเวลา 20.00 น. จากนั้นมีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 60 คนไปก่อความวุ่นวายที่ใต้ทางด่วนดินแดงปาประทัดยักษ์ ทำให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวได้รับบาดเจ็บบริเวณมือ 1 ราย แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ ผู้เสียหายยังไม่ได้มาแจ้งความ ตำรวจ สน.ดินแดงอยู่ระหว่างติดตามผู้เสียหายมาสอบปากคำ เพื่อดำเนินคดีผู้กระทำความผิดต่อไป รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ยังคงต้องเฝ้าระวังผู้ชุมนุมที่จะมาก่อความไม่สงบที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง บช.น.รับนโยบายจาก ผบ.ตร.สั่งการให้เตรียมพร้อมทั้งกำลังพล และยุทโธ ปกรณ์ รวมทั้งให้ติดตามข่าวและข้อมูลข่าวสารต่อเนื่อง
“จตุพร” ลุยล้างสืบทอดอำนาจ
ที่สถานีโทรทัศน์ออนไลน์พีซทีวี รามอินทรา 40 นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน แถลงว่า ยืนยันการนัดชุมนุมวันที่ 28 ส.ค. ที่ลานคนเมือง ศาลาว่าการ กทม.ยังคงเหมือนเดิม เพราะการสืบทอดอำนาจยังดำรงอยู่ จริงๆ พล.อ.ประยุทธ์ควรลาออกเพื่อให้ประเทศเดินหน้า และให้เกิดความสง่างาม แต่การที่มี พล.อ.ประวิตรมารับหน้าที่แทน แสดงให้เห็นว่ายังไม่ปล่อยวาง และโครงสร้างอำนาจยังอยู่ที่ 3 ป. ที่ปกครองประเทศแบบห้างหุ้นส่วนจำกัด ยิ่งถ้ามีปาฏิหาริย์ทางกฎหมาย ประเทศจะยิ่งวิกฤติ อย่างไรก็ตาม แม้หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่าการออกมาเคลื่อนไหวของประชาชนจะนำไปสู่การรัฐประหาร แต่อำนาจควรตกเป็นของประชาชนสักครั้ง ทางกลุ่มพร้อมเปิดประตูทุกบาน เชิญประชาชนทุกภาคส่วนมาร่วม