ชัยวัฒน์ กับพวก คดีอุ้มฆ่า ‘บิลลี่ พอละจี’ เข้ารับทราบข้อหาเพิ่มเติมกับ ดีเอสไอ เจ้าตัวยืนยันบริสุทธิ์ พร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม อ้างโดนคุกคาม
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ส.ค.2565 ที่กองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร พร้อมผู้ต้องหารวม 4 รายในคดีฆาตกรรม นายพอละจี หรือ บิลลี่ รักจงเจริญ แกนนำชุมชนกะเหรี่ยงบ้านโป่งลึก-บางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ประกอบด้วย นายบุญแทน บุษราคำ, นายธนเสฏฐ์ หรือ ไพฑูรย์ แช่มเทศ และ นายกฤษณพงษ์ จิตต์เทศ เข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อรับทราบข้อหาเพิ่มเติม ภายหลังพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษ ส่งหนังสือแจ้งข้อหาเพิ่มเติม
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การแจ้งข้อหาเพิ่มเติมนี้ถือว่าครบถ้วน เพราะก่อนหน้านี้ที่แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าอำพรางนั้น ในฐานะที่ตนทำงานราชการสืบสวนสอบสวน หากไม่แจ้งข้อหาใช้อาวุธข่มขืนใจผู้อื่นตาม ป.อาญา ม.309 ก็ถือว่าขาด จึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องแจ้งเพิ่ม ก็ไม่รู้สึกหนักใจ ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอที่มาต้อนรับตนด้วยตัวเอง ยืนยันถึงความบริสุทธิ์ใจและพร้อมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
“ได้เปิดใจคุยกับอธิบดีและรองอธิบดีดีเอสไอแล้ว เรื่องนี้พูดกันทุกปีทุกเทศกาล เรื่องนี้ต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์ด้วย ก็เชื่อมั่นว่าเราไม่ได้ทำ พร้อมเข้าสู่ชั้นศาล ต่อไปจะได้ไม่ต้องถามว่าบิลลี่อยู่ไหน ส่วนเรื่องการต่อสู้คดีนั้นต้องรอวันยื่นฟ้องก่อนจึงจะได้เห็นหลักฐานต่าง ๆ เพื่อสู้คดีต่อ ยอมรับไม่ทราบว่าเกิดเหตุเมื่อไหร่ พร้อมขอบคุณคนที่ให้กำลังใจ ตัวเองปกป้องป่า สัตว์ และแผ่นดินมาทั้งชีวิต ยึดที่ดินนับแสนไร่ ไม่มีรางวัลนำจับ ตัวเองไม่ได้ประโยชน์อะไร อยากถามกลับว่าที่ผ่านมาตัวเองทำไปเพื่ออะไร” นายชัยวัฒน์ กล่าว
นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งได้รับบรรจุราชการใหม่ในกรมอุทยานแห่งชาติ โดยต้องรอพิจารณาความเหมาะสมกับงานและตำแหน่งว่างอีกครั้ง ขออย่ากังวลว่า การกลับมารับราชการจะไปยุ่งเกี่ยวกับคดีหรือไปคุกคามใคร แต่ตนน้อยใจที่ถูกคุกคามจากองค์กรหนึ่ง ยืนยันว่าตัวเองไม่มีอิทธิพล ถ้าไม่มารุกป่าล่าสัตว์ก็ไม่ต้องมากลัว อายุราชการจากนี้อีก 2 ปี พร้อมถวายชีวิตกับการอนุรักษ์ป่า ซึ่งเร็ว ๆ นี้ จะมีกฎหมายใหม่ของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ มาตรา 64 ที่ให้สิทธิ์ทำกินกับราษฎรทุกฝ่าย
ด้าน นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า วันนี้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้เรียก นายชัยวัฒน์ กับพวก รวม 4 คน มารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม ตามกฎหมายอาญา มาตรา 83, 309 ข้อหา “ร่วมกันโดยมีอาวุธข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง”
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวต่อว่า ยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และไม่หนักใจเพราะทำตามพยานหลักฐานอย่างตรงไปตรงมา โดยวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะนัดส่งสำนวนพร้อมผู้ต้องหาให้อัยการสั่งฟ้องศาลและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามขั้นตอน
นายไตรยฤทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนการที่ นายชัยวัฒน์ กับพวก กลับมารับราชการอีกครั้งนั้นจะไม่มีผลต่อการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวนคดีพิเศษให้กดดัน เพราะในชั้นสอบสวนดำเนินการเรียบร้อยแล้ว และจะส่งให้ชั้นอัยการพิจารณาต่อไป สำหรับการที่นายชัยวัฒน์อ้างว่าถูกคุกคามนั้น ยังไม่มีรายละเอียด