“บิ๊กตู่” โผกอด “ลุงป้อม” ย้ำ “ไม่ไปไหนหรอก มีเรื่องให้ง้อได้ทุกวัน” “ประวิตร” ยืนยัน พปชร. เหนียวแน่นไม่มีใครออก “สมศักดิ์-สุริยะ” ประสานเสียงสามมิตรไม่ไปไหน ขอเข็น “ลุงตู่” เป็นนายกฯอีกรอบ “เสี่ยหนู” แซะกลับเบาๆ “อาเหลิม” ต้องอยู่กับร่องกับรอย “ประเสริฐ” ไม่ปฏิเสธก๊วน “ผู้กอง” ซบ พท. “อิ๊ง” เลี่ยงตอบชื่อ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ พท. ขอคนที่พร้อม “พิธา” เป็นปลื้มก้าวไกลครองแชมป์บริจาคภาษี โวเรตติ้งกระฉูด “บิ๊กแก้ว” พยักหน้าไม่ปฏิวัติ ยันเอเปกไร้วี่แววเกิดเหตุร้าย แต่การข่าวจับตากลุ่มโจรใต้
ท่ามกลางความเคลื่อนไหวที่คึกคักของพรรคการเมืองต่างๆ ในการรับศึกเลือกตั้งใหญ่ แต่พรรคพลังประชารัฐกลับมีกระแสข่าว ส.ส.เตรียมย้ายออก จนแกนนำกลุ่มสามมิตรอย่างนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รีบออกมาสยบข่าว ยืนยันยังอยู่กับพลังประชารัฐต่อไป
“บิ๊กตู่” ถก ครม.งดสัมภาษณ์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนประชุมนายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปก (APEC Business Advisory Council: ABAC) พร้อมคณะเข้าเยี่ยมคารวะนายกฯเพื่อนำส่งรายงานประจำปี 2565 ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ระบุว่า รายงานดังกล่าวจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประเทศไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปกปี 2565 ต่อมาเวลา 11.17 น. หลังประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ไม่ให้สัมภาษณ์เพียงแต่รับไหว้ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
โผกอด “ลุงป้อม” ยันไม่ไปไหน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์เชิญผู้เข้าร่วมประชุมยืนไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู พร้อมแจ้งกับรัฐมนตรีเวลาลงไปตรวจน้ำท่วมให้รับเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนมา แต่อย่าเพิ่งรับปากให้มาดูงบประมาณก่อน อย่างตอนลงพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ มีเกษตรกรยาสูบมาของบประมาณ 50 ล้านบาท พอไปตรวจสอบพบว่ามีการเบิกจ่ายไปแล้ว แต่เงินตรงนั้นไปไม่ถึงชาวบ้าน จึงขอให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ไปตรวจสอบว่าเงินหายไปไหน นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ยังกำชับรัฐมนตรีให้ช่วยเปิดไลน์ดูข้อมูลที่หน่วยงานรายงานสถานการณ์น้ำของแต่ละวันเข้ามาด้วย จะได้รู้สถานการณ์น้ำแต่ละวัน หลังเลิกประชุม ระหว่าง พล.อ.ประวิตรกำลังยืนพูดคุยกับรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ปรากฏว่า พล.อ.ประยุทธ์เดินเข้ามาทางด้านหลังพร้อมกับสวมกอด พล.อ.ประวิตรและพูดว่า “ไม่ไปไหนหรอกแหม มีเรื่องให้ง้อได้ทุกวัน” ท่ามกลางกระแสข่าวว่าจะไปร่วมงานกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ
พปชร.เหนียวแน่นไม่มีใครออก
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกระแสข่าว ส.ส.พปชร.เตรียมย้ายออกหลายคนว่า “ไม่มี ไม่มีใครออกสักคน” เมื่อถามว่ามีการสอบถาม ส.ส.กทม. ที่มีกระแสข่าวจะย้ายออกจากพรรคหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่มีข่าว มีแต่ข่าวที่สื่อมวลชนเขียนกันไปเอง เมื่อถามย้ำว่าพลังประชารัฐไม่เหนียวแน่นอีกแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรถึงกับร้อง “โอ๊ย เหนียวแน่นอยู่แล้ว” และปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะย้ายกลับไปอยู่พรรคเพื่อไทย
“สันติ” ยังมั่นใจไม่มี ส.ส.ตีจาก
นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า กระแสข่าว ส.ส.พลังประชารัฐเตรียมย้ายพรรค มีแต่สื่อเขียนไปเอง พรรคยังสามัคคีแน่นหนากันอยู่ เมื่อถามว่ามีการสอบถามผู้ที่มีรายชื่อหรือไม่ นายสันติตอบว่า ไม่เห็นมีใครบอก เมื่อถามย้ำว่าอย่างกลุ่มนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯ นายสันติถึงกับหยุดคิดก่อนส่ายหน้าตอบว่า ไม่ได้คุย เมื่อถามว่าหัวหน้าพรรคมีความเห็นอย่างไรกับกระแสข่าวดังกล่าว นายสันติ ตอบว่า ยังไม่ได้คุยกัน คิดว่า ส.ส.ยังยึดมั่นต่อพรรค เพียงแต่เป็นข่าวเวลาไปปรากฏตามงานสำคัญๆ ถือเป็นเรื่องปกติ เราเชื่อมั่น ส.ส.พรรค ไม่ต้องเรียกคุย เมื่อถามว่าปัจจัยกระแสพรรคที่ตกต่ำมีผลต่อการตัดสินใจของ ส.ส.หรือไม่ นายสันติตอบว่า ไม่ดาวน์ (ตกลง) หรอก เวลา พล.อ.ประยุทธ์หรือ พล.อ.ประวิตร ไปลงพื้นที่ประชาชนดีใจมาต้อนรับกันเยอะแยะไปหมด ส่วนเรื่องปรับ ครม.ในพรรคยังไม่ได้คุยกัน
“สมศักดิ์” ลั่นสามมิตรไม่ไปไหน
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร. แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวถึงกระแสข่าวกลุ่มสามมิตรจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทยว่า ยืนยันไม่เป็นความจริง ในรอบ 20 วันนี้ยังไม่เจอใครเลย เพราะมีภารกิจไปต่างประเทศ ส่วนปรากฏการณ์มี ส.ส.ของพรรคไปงานวันเกิดบุคคลสำคัญนั้น กำลังมองดูอยู่ แต่ยังไม่ได้คิดและพูดคุยกับใคร อาจมีการคิดอะไรกันบ้าง คงทักท้วงและพูดคุยกันได้ กลุ่มสามมิตรไม่คิดไปไหน ยังยืนยันอยู่พลังประชารัฐ เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีพร้อมรับกลับ นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่ได้คิดและไม่ได้เจอใคร ขณะที่แกนนำหรือผู้ใหญ่ในพรรค ใครสนิทกับใครก็ควรคุยกัน ให้รู้ให้ชัดเจนว่าใครยังอยู่และใครคิดจะไม่อยู่ เมื่อถามว่ามั่นใจว่าพลังประชารัฐยังได้เป็นรัฐบาลในครั้งหน้า นายสมศักดิ์ตอบว่า มั่นใจ พล.อ.ประยุทธ์สามารถควบคุมสถานการณ์และทำงานได้ เมื่อถามย้ำว่าเป็นเพราะ มี ส.ว. 250 เสียงหนุนอยู่หรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า อย่าไปคิดมาก ส่วนประเด็น พล.อ.ประยุทธ์เหลือวาระอยู่แค่ 2 ปี เชื่อว่าไม่เป็นปัญหา
เข็น “ลุงตู่” เป็นนายกฯอีกรอบ
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรค พปชร. แกนนำกลุ่มสามมิตร กล่าวว่า มีการพูดคุยกันภายในกลุ่มสามมิตรเรียบร้อยแล้ว ยืนยันเลือกตั้งครั้งหน้ายังอยู่กับพรรค พปชร.จะไม่ไปไหน เมื่อถามว่ามีข้อสังเกตหรือไม่ว่ามีกระแสข่าวย้ายพรรคกลุ่มสามมิตรมักถูกพุ่งเป้าตลอด นายสุริยะตอบว่า เป็นเรื่องปกติที่คาดเดากันไป จึงต้องการออกมายืนยันให้เกิดความชัดเจน สำหรับกลุ่มอื่นหากจะออกไปตนคงไปบังคับใครไม่ได้ แต่กลุ่มสามมิตรยังอยู่กับพลังประชารัฐ เชื่อว่าประชาชนจะให้การสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ต่อไป “เอาเป็นว่ากลุ่มสามมิตรขอสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ”
“หนู” แซะกลับ “อาเหลิม” เบาๆ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ปรึกษาคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ขู่ให้เตรียมตัวเป็นผู้นำฝ่ายค้านหลังการเลือกตั้งว่า ตรงนั้นก็ดี จะได้ตั้งคณะกรรมการอิสระ อีกไม่เกิน 6 เดือนก็รู้แล้ว เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไร นายอนุทินตอบว่า “ผมบอกแล้วไงก็อาเหลิม” ประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินใจ ไม่อยากคุยเรื่องขัดแย้ง นักการเมืองต้องอยู่กับร่องกับรอย ขณะนี้สิ่งที่ประชาชนต้องการคือความสงบสุข ของบ้านเมือง ถ้าจะทำให้บ้านเมืองสงบต้องสามัคคีกัน ฝ่ายค้านหรือฝ่ายรัฐบาลเป็นเพียงบทบาท หลังรู้ผลเลือกตั้งถึงจะกำหนดได้ว่าใครจะไปอยู่ที่ไหน เราไม่เชื่อว่าความขัดแย้งจะนำไปสู่การแก้ปัญหาได้ ต่อให้ได้ชัยชนะมันจะยั่งยืนหรือไม่
“ประเสริฐ” ไม่ปฏิเสธ “ผู้กอง”
ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย จะย้ายเข้ามาอยู่กับพรรคว่า ยังไม่ขอแสดงความคิดเห็น การเมืองเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ขอดูความชัดเจนอีกระยะหนึ่ง เมื่อถามว่ามีเงื่อนไขอะไรหรือไม่ที่ ร.อ.ธรรมนัสจะเข้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐตอบว่า ปกติพรรคเพื่อไทยมีหลักเกณฑ์การพิจารณารับคนเข้าเป็นสมาชิกพรรคอยู่แล้ว ฉะนั้นการพูดถึงในตอนนี้ยังอาจดูเร็วไป
“อิ๊ง” เลี่ยงชื่อ “เศรษฐา” โผล่ พท.
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงความมั่นใจที่พรรคเพื่อไทยจะได้ตามเป้าหมายแลนด์สไลด์ว่า ตอนนี้มีกำลังใจมากๆ ประชาชนตอบรับดี เราออกมาพบประชาชนด้วยใจ มาโชว์ว่าเรามีความพร้อมแก้ปัญหาให้ประชาชน เมื่อถามถึง กระแสข่าวมีชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจชื่อดัง รวมถึง น.ส.แพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกฯ น.ส.แพทองธารตอบว่า จริงๆแล้วไม่ต้องระบุชื่อก็ได้ ขอคนพร้อมและมีความสามารถ การเมืองไม่ใช่เรื่องง่าย ถ้ามีคนอยากจะเข้ามาช่วยต้องเปิดโอกาสให้เข้ามา อย่ารุมอะไรเลย ประเทศต้องไปต่อแล้ว จุดนี้ขอให้มองอนาคตประเทศและประชาชนเป็นที่ตั้ง ขอให้มีคนเก่งเข้ามาคือกำไรของประเทศ อยากให้ประเทศไปต่อ ไม่ว่าจะอย่างไรพรรค พท. สนับสนุนเต็มที่แล้ว ทั้งนี้ ยังไม่ขอระบุชื่อ ขอแค่คนที่พร้อม
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคพท.กล่าวเสริมว่า เรื่องนี้ยังต้องผ่านขั้นตอนของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรค อีกไม่นาน ขอให้ใจเย็นๆ
คุย พท. เป็น รบ. ดูแลน้ำดีกว่านี้
วันเดียวกันที่วัดลาดชิด อ.ผักไห่ จ.พระนคร ศรีอยุธยา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจิรทัศ ไกรเดชา ส.ส.พระนครศรีอยุธยา นายอัณณพ อารีย์วงศ์สกุล นายอาทิตย์ ภาคอินทรีย์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พระนครศรีอยุธยา พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาชลประทานผักไห่ เพื่อลงเรือเยี่ยมพี่น้องประชาชนบริเวณแม่น้ำน้อย ที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย น.ส.แพทองธารกล่าวว่า วันนี้มาให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ถ้าพรรคเพื่อไทยได้กลับมาเป็นรัฐบาล เรามั่นใจว่าจะจัดการดูแลเรื่องน้ำให้ประชาชนดีกว่านี้แน่
“พิชัย” ติงแนวคิด “ลุงตู่” ล้าสมัย
วันเดียวกันที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ กล่าวในงานเสวนา “ความท้าทายของการบริหารของภาครัฐ จากยุค New Normal สู่ยุค Next Normal” ว่า เป็นไปได้สูงที่เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ตลอด 8 ปีมานี้เศรษฐกิจไทยย่ำแย่การขยายตัวต่ำมาก หนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนพุ่งสูง การลงทุนหดหาย นักศึกษาและคนรุ่นใหม่จบแล้วหางานทำไม่ได้ ต่างจากชาติในกลุ่มอาเซียน มาเลเซีย เวียดนาม หรืออินโดนีเซียที่เห็นอนาคตสดใสกว่า ขอเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ปรับเปลี่ยนการทำงานรวม 8 ข้อ คือ 1.เร่งฟื้นจีดีพีให้ขยายมากขึ้น 2.เร่งสร้างธุรกิจสมัยใหม่โดยเฉพาะธุรกิจทางเทคโนโลยี 3.ปรับโครงสร้างพลังงาน 4.ปรับเปลี่ยน Digital transformation ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน รองรับอนาคต 5.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทุกด้าน 6.จำกัดและทำลายการผูกขาดในธุรกิจทุกประเภท 7.พัฒนาความสามารถแข่งขันของประเทศในทุกด้าน และ 8.ให้เสรีภาพและความเสมอภาคของประชาชน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
“จุฑาพร” ชี้ผู้นำต้องตามทันโลก
น.ส.จุฑาพร เกตุราทร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัจจุบันคนไทยกำลังลำบากจากภาวะเงินเฟ้อ ข้าวของแพง รายจ่ายสูง คนรุ่นใหม่แทบมองไม่เห็นอนาคต บัณฑิตจบใหม่ตกงานหลายแสนคนต่อปี แต่รัฐบาลมักอ้างว่าจบมาไม่ตรงกับความต้องการของตลาด แต่ที่จริงเป็นหน้าที่รัฐบาลต้องสร้างงาน สร้างโอกาสให้ประชาชน ให้มีทางเลือกในการทำงานมากขึ้น โลกเปลี่ยนแปลงรวดเร็วผู้นำต้องตามทันโลก และมีวิสัยทัศน์คิดล่วงหน้าได้ โลกยุคใหม่หลังวิกฤติโควิด ทำให้แรงงานต้องปรับตัวตามให้ทัน หากไทยต้องการก้าวไปข้างหน้าพร้อมกับประเทศอื่น เรายังต้องการผู้นำที่ตามทันโลกไม่ใช่มีความคิดล้าหลัง ที่สำคัญต้องมีวิสัยทัศน์คิดล่วงหน้าได้ เพื่อผลักดันส่งเสริมให้คนไทยเติบโตไกลถึงระดับโลกอย่างเต็มภาคภูมิ
“พิธา” โวเรตติ้งก้าวไกลกระฉูด
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีพรรค ก.ก.ครองเเชมป์รับบริจาคภาษีจากประชาชนประจำปี 2564 ว่า ขอบคุณประชาชน การระดมทุนคนละ 100 บาท 1 ล้านคน มีความหมายกว่าระดมทุนจากเจ้าสัว 10 คน คนละ 10 ล้านบาท ประชาชนสนับสนุนพรรคเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจาก 12,695,738 บาท เป็น 27,564,203 บาท แสดงถึงความนิยมในเขตเมือง พรรคต้องปักหลักและขยายฐานเสียงให้ได้ เพื่อเป็นพรรครัฐบาลในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ในทางปฏิบัติจากระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เงินที่บริจาคใช้ยากลำบาก อย่างกรอบวงเงินที่อนุมัติให้ใช้ต่ำกว่าความจริงมาก เช่น เดินทาง 700 กิโลเมตรให้ใช้เพียง 1,000 บาท เป็นต้น กกต.ไม่ควรออกระเบียบแบบคิดแทนพรรคการเมือง กกต.ไม่ใช่นักการเมือง ไม่ได้รู้ดีไปกว่านักการเมือง
ยื่น ป.ป.ช.ฟัน “จุติ” ทุจริตถมดิน
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรค ก.ก.เข้ายื่นคำร้องให้ ป.ป.ช.ไต่สวนนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กรณีทุจริตถมดิน การจ้างช่าง และเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเอกชน ในโครงการเคหะสุขประชาของการเคหะแห่งชาติ (กคช.) โดยนายณัฐชากล่าวว่า จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายจุติครั้งที่ผ่านมา ขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวนนายจุติ ทุจริตต่อหน้าที่ ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรม รวมถึงขอให้ ป.ป.ช.ไต่สวน นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการการ กคช.และนายทวีพงษ์ วิชัยดิษฐ ผู้ว่าฯ กคช. เป็นเจ้าพนักงานใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ บริษัทเอกชนเอื้อประโยชน์ให้ทรัพย์สินแก่เจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่ ทุกเรื่องมีหลักฐานชัดเจน หวังว่า ป.ป.ช.จะให้ความกระจ่างแก่สังคม
ไฟเขียวเปิดสภาเทอมสุดท้าย
ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.เรียกประชุมรัฐสภาสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.65-28 ก.พ.66 ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บัญญัติให้ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญของรัฐสภาสองสมัย สมัยหนึ่งให้มีกำหนดเวลา 120 วัน
“บิ๊กแก้ว” พยักหน้าไม่ปฏิวัติ
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ถนนแจ้งวัฒนะ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธานการประชุม ผบ.เหล่าทัพ และ ผบ.ตร.ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ 2566 ภายหลังการประชุม พล.อ.เฉลิมพลแถลงถึงจุดยืนของกองทัพต่อกรณีอาจมีการยุบสภาฯหลังการประชุมเอเปกว่า เราปฏิบัติตามนโยบายของรัฐบาลที่มาจากการเมือง ทหารเรามีความเกี่ยวพันกับการเมือง เพราะเป็นองค์กรเหมือนกับส่วนราชการอื่น แต่เราไม่ยุ่งเกี่ยวการเมือง มีบทบาทตามขอบเขต ประเทศพัฒนาไกลมากแล้ว ทุกคนต้องการเห็นพัฒนาการของประเทศเป็นไปในรูปแบบภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทหารก็ต้องการเห็นอย่างนั้น ไม่ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรก็ตาม ขอให้เชื่อมั่นได้ทหารก็ทำหน้าที่ของเราเท่านั้นเอง เมื่อถามว่า ให้ความเชื่อมั่นได้หรือไม่จะไม่มีปฏิวัติ พล.อ.เฉลิมพลพยักหน้าและยิ้ม พร้อมกล่าวว่า “ครับผม”
ขณะที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ได้ตอบคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามว่า ทหารจะขยับหรือไม่ โดยเอานิ้วชี้ไปที่ศีรษะก่อนตอบว่า “ในหัวมีแต่ประชาชน ช่วยเหลือประชาชน ตอนนี้คิดถึงประชาชนก่อน”
ยันเอเปกไร้วี่แววเกิดเหตุร้าย
ที่กองบัญชาการกองทัพไทย (บก.ทท.) ถนนแจ้งวัฒนะ พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด กล่าวถึงความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยภายในการประชุมเอเปกว่า จากการติดตามข้อมูลด้านการข่าวของทางทหาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และมิตรประเทศยังไม่มีปัจจัยหรือสิ่งบอกเหตุที่จะเกิดเหตุร้าย แต่ได้เตรียมแผนที่รัดกุมร่วมกับทุกภาคส่วนทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ส่วนความเคลื่อนไหวของชนกลุ่มน้อยของประเทศเพื่อนบ้านนั้น กลุ่มคนเหล่านี้มีเพียงแต่แนวคิด ยังไม่มีพฤติกรรมที่จะก่อเหตุหรือสร้างความรุนแรง เพราะทราบดีว่า หากก่อเหตุรุนแรงแล้วเขาไม่สามารถอยู่ในประเทศไทยได้
การข่าวทหาร-ตร.จับตาโจรใต้
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ในที่ประชุมเตรียมการของหน่วยข่าวทางทหารและตำรวจ กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งว่า นายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ยืนยันมาเข้าร่วมประชุม ส่วนนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน อยู่ระหว่างรอยืนยัน ขณะที่นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกา ยังยืนยันส่งผู้แทนเข้าร่วม อย่างไรก็ตาม หน่วยงานความมั่นคงยังประเมินว่า มีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มจะเคลื่อนไหว แต่ไม่ถึงกับวุ่นวายรุนแรง แค่ต้องการแสดงตัวตนเท่านั้น โดยให้หน่วยข่าวจับตาเฝ้าระวังกลุ่มก่อความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพิเศษที่สุ่มเสี่ยงจะขึ้นมาก่อเหตุใน กทม.