เมื่อเวลา 10.00 น.( 17 ก.ย 64 ) ร.ต.อ.บุญเลิศ ทิพย์ศรีบุตร ร้อยเวรสอบสวน สภ.แม่สอด จังหวัดตาก รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถพ่วงบรรทุกกระสอบเม็ดพลาสติกกว่า 30 ตัน จำนวนนับร้อยกระสอบประสบอุบัติเหตุ รถแหกโค้งพลิกคว่ำที่บริเวณทางโค้งลงเนินเขาลาดชัน “เขตดอยเนินพิศวง” ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 18 ถนนสายแม่สอด-ตาก ฝั่งขาเข้าชายแดนอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก โดยหลังรับแจ้งเหตุตำรวจ พร้อมกองร้อย อส.อำเภอแม่สอด ทหารและหน่วยกู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เขตนครแม่สอดร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นทางโค้งลงภูเขาลาดชัน และเป็นจุดอันตรายที่รถบรรทุกมักมาประสบอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง โดยที่แนวทางโค้งจุดปราบเซียนและพบรถบรรทุกพ่วง ยี่ห้อวอลโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 70-1309 สุพรรณบุรี ซึ่งด้านหลังรถบรรทุกกระสอบเม็ดพลาสติกมาเต็มคันรถ สภาพรถตะแคงพลิกคว่ำด้านหน้ารถ และด้านข้างรถฝั่งคนขับรถพังยับเยิน และบนถนนเต็มไปด้วยกระสอบเม็ดพลาสติกที่แตกกระจายเต็มผิวการจราจร ทั้งฝั่งขาเข้าและขาออก เจ้าหน้าที่ต้องปิดกั้นจราจรชั่วคราวจำนวนสองช่องการจราจรทั้งสองฝั่งถนนเพื่อเร่งเคลียร์เม็ดพลาสติกบนถนน ขณะเดียวกันที่บริเวณห้องคนขับรถที่พังยับเยิน พบตัว นายนิกรณ์ ปุราชะโน อายุ 40 ปี เป็นพนักงานขับรถ นั่งติดคาที่นั่งคนขับ ได้รับบาดเจ็บที่แขนขวา หน่วยกู้ชีพมูลนิธิพิทักษ์กาญจน์เขตนครแม่สอดต้องรีบนำตัวคนขับรถออกมาปฐมพยาบาลเบื้องต้นบนถนน ก่อนนำตัวส่งต่อไปโรงพยาบาลแม่สอดเพื่อให้แพทย์ตรวจร่างกายอย่างละเอียด
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าก่อนเกิดเหตุ นายนิกรณ์ ได้ขับรถบรรทุกพ่วงคันเกิดเหตุมาจากโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดระยอง โดยบรรทุกกระสอบบรรจุเม็ดพลาสติกมากว่า 30 ตัน ขับรถบรรทุกมุ่งหน้ามาส่งสินค้าทั้งหมด ที่ด่านพรมอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
แต่พอขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้งจุดอันตรายรถเสียการควบคุม แหกโค้งจนรถพลิกคว่ำเทกระจาด กระสอบเม็ดพลาสติกทั้งคันรถแตกกระจายเต็มถนน ส่วนตนเองได้รับบาดเจ็บที่แขนไม่สาหัส และคาดว่าที่ตนเองรอดตายครั้งนี้ อาจจะมาจากสติ และพุทธคุณการสักยันต์ของดี ที่ตนเองสักไว้บนแผ่นหลัง และอีกหลายส่วนบนร่างกาย อาจมีผลทำให้ตนเองรอดตายในอุบัติเหตุครั้งนี้
ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ฝากย้ำเตือนให้คนใช้รถบนถนนสายแม่สอด-ตาก ซึ่งระยะทางยาวกว่า 90 กิโลเมตร ขอให้คนขับรถทุกชนิดให้ขับรถปฏิบัติตามป้ายเตือนในจุดอันตราย ซึ่งมีติดเตือนตลอดเส้นทางสายนี้อย่างเคร่งคัด หลังจากอุบัติเหตุหลายๆครั้งเกิดจากที่คนขับรถไม่ปฏิบัติตามป้ายเตือนในจุดอันตราย จนส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุอยู่เป็นประจำบนถนนเส้นทางปราบเซียน