นักท่องเที่ยวแห่โต้ลมหนาว คึกคัก กางเต็นท์นอนตามยอดดอยยอดภูได้ชมทะเลหมอกยามเช้าสวยงามตระการตา ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมขังหลายพื้นที่ชาวบ้านยังจมทุกข์ ร้อยเอ็ดพนังกั้นน้ำชีแตกทะลักท่วมนาข้าวกว่า 500 ไร่ จ่อถล่ม 5 หมู่บ้าน หากอุดไม่อยู่ กาฬสินธุ์ติดตั้งสะพานเบลีย์จุดที่พนังขาดเสร็จแล้ว เร่งกู้ถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ดยังไม่สำเร็จ เมืองอุบลฯคลายวิกฤติน้ำลดลงเรื่อยๆ ถนนสายหลักเริ่มเปิดให้รถสัญจรได้ ประจวบฯฝนเทน้ำป่าซัดถนนทางเข้าอำเภอบางสะพานน้อยขาด อุตุฯแจ้งต้นเดือนหน้าอุณหภูมิจะลดฮวบอีก 2-4 องศาฯ
ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว แต่หลายพื้นที่ยังเผชิญปัญหาน้ำท่วมขังสร้างความระทมทุกข์ให้ชาวบ้านผู้ประสบภัย เมื่อวันที่ 29 ต.ค. เกิดเหตุพนังกั้นแม่น้ำชีแตกที่ จ.ร้อยเอ็ด เป็นถนนคอนกรีตระหว่างบ้านสำโรง-บ้านกุดเรือ ต.นางาม อ.เสลภูมิ ขาดเป็นทางยาวกว่า 10 เมตร ทำให้มวลน้ำไหลทะลักลงพื้นที่ด้านล่าง นายศักดา โพธิษา นายก อบต.นางาม เผยว่า จุดที่พนังแตกเป็นทางน้ำเดิม เป็นคลองไหลออกมาจากแม่น้ำชีมีถนนเป็นพนังกั้น เมื่อ 2 ปีที่แล้วปรับปรุงจากถนนลูกรังเป็นถนนคอนกรีตเสริมความมั่นคง กระทั่งช่วงต้นเดือนน้ำเริ่มล้นตลิ่งไหลเซาะถนนผู้นำชุมชนและชาวบ้านช่วยกันเสริมท่อนไม้และวางกระสอบทรายแต่เอาไม่อยู่ สุดท้ายถนนขาดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 ต.ค. น้ำล้นตลิ่งกว่า 2 เมตร ไหลบ่าเข้าพื้นที่การเกษตรนาข้าวเสียหายถึง 500 ไร่ ระดมเจ้าหน้าที่เร่งนำถุงบิ๊กแบ็กบรรจุทรายไปวางปิดกั้นทางน้ำ หากยังอุดไม่อยู่คาดว่า 3-4 วัน มวลน้ำจะทะลักเข้าพื้นที่ชุมชนอีก 5 หมู่บ้านใน ต.นางาม สำหรับสถานการณ์แม่น้ำชียังมีแนวโน้มสูงขึ้น สถานีบ้านม่วงลาด อ.จังหาร สูงกว่าตลิ่ง 2.30 เมตร สถานีบ้านวังยาว อ.เชียงขวัญ สูงกว่าตลิ่ง 2.45 เมตร สถานีบ้านท่าสะแบง อ.ทุ่งเขาหลวง สูงกว่าตลิ่ง 1.50 เมตร
จ.กาฬสินธุ์ นายศุภศิษย์ กอเจริญยศ รรท.ผวจ.กาฬสินธุ์ นำคณะไปติดตามการติดตั้งสะพานเบลีย์บริเวณพนังกั้นน้ำชี กม.54 บ้านโนนเมือง หมู่ 8 ต.ดงลิง อ.กมลาไสย ที่ถูกน้ำกัดเซาะขาด ล่าสุดติดตั้งสะพานเสร็จเปิดแล้วใช้งานได้ พร้อมแจ้งฝ่ายปกครองจัดเวรยามเฝ้าระวังอันตรายบริเวณดังกล่าวตลอด 24 ชม. ส่วนพนังกั้นน้ำชีขาดที่บ้านสะดำสี ต.ลำชี อ.ฆ้องชัย เจ้าหน้าที่ซ่อมเสร็จเรียบร้อยเปิดใช้งานได้ปกติแล้วเช่นกัน ขณะที่ถนนสายกาฬสินธุ์-ร้อยเอ็ด ช่วงบ้านหัวแฮด ถึงบ้านหนองบัว ต.เจ้าท่า อ.กมลาไสย มีน้ำท่วมสูง 80 ซม. เจ้าหน้าที่ระดมกำลังพร้อมเครื่องจักรเร่งกู้ถนนอย่างต่อเนื่อง นำกระสอบทรายเข้าปิดกั้นข้างทางเพื่อเตรียมสูบน้ำท่วมขังออกจากถนน คาดว่าจะเปิดให้รถสัญจรได้เร็วๆนี้
จ.อุบลราชธานี สถานการณ์น้ำท่วมขังเริ่มคลี่คลายไปเรื่อยๆ ถนนสถิตนิมานกาล เป็นถนนสายหลักเชื่อมเมืองคู่แฝด อ.วารินชำราบ กับ อ.เมืองอุบลราชธานี น้ำที่ท่วมขังลดลงจนรถทุกชนิดสามารถแล่นผ่านไปมาได้แล้ว รถบรรทุกขนาดใหญ่ของทหารและหน่วยงานต่างๆที่มาคอยรับส่งชาวบ้านนานร่วมเดือนประกาศให้บริการเป็นวันสุดท้ายเพื่อเปลี่ยนภารกิจไปช่วยชาวบ้านตามชุมชนที่ยังมีน้ำท่วมขังได้กลับเข้าไปอยู่ในบ้าน มีประชาชนนำดอกไม้มามอบให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคนที่มาช่วยเหลือ สำหรับถนนสายหลัก 2 สาย เชื่อมระหว่างเมืองคู่แฝดคือถนนสถิตนิมานกาล และถนนเลี่ยงเมือง 231 ฝั่งตะวันตก สามารถเปิดใช้เส้นทางได้แล้ว ยังเหลืออีก 1 เส้นทางคือ ถนนสะพาน 100 ปี สมเด็จพระศรี นครินทร์ ยังมีน้ำท่วมสูง รถยังไม่สามารถสัญจรได้ ส่วนชุมชนริมแม่น้ำมูลทั้ง 2 ฝั่ง ยังถูกน้ำท่วมรวม 265 ชุมชน กว่า 18,700 คน ยังต้องอาศัยอยู่ในศูนย์อพยพชั่วคราว
จ.ประจวบคีรีขันธ์ ฝนตกหนักนานกว่า 2 ชม.ในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย ประกอบกับมีฝนสะสมมาหลายวันจนเกิดน้ำป่าจากเทือกเขาตะนาวศรีไหลหลากลงอ่างเก็บน้ำช้างแรกล้นสปิลเวย์ลงคลองช้างแรก ทำให้ทางเบี่ยงบริเวณสะพานช้างแรก หมู่ 3 ต.ช้างแรก ถูกน้ำพัดขาดจนรถทุกชนิดที่จะวิ่งเข้าออกตัวอำเภอไม่สามารถผ่านได้ ส่วนเส้นทางสายรองซอยอยู่เจริญก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นกันเนื่องจากมีน้ำล้นฝายไหลผ่านระดับสูงประมาณ 80 ซม. นายธีรวัฒน สุดจันทร์ นายก อบต.ช้างแรก เผยว่า คาดว่าน้ำจะลดระดับอย่างรวดเร็วเนื่องจากทุกหมู่บ้านทุกตำบลได้วางแผนการระบายน้ำให้ไหลลงทะเล เบื้องต้นประสานผู้รับเหมาเข้าซ่อมแซมทางเบี่ยง และให้รถขนาดเล็กวิ่งผ่านสันอ่างเก็บน้ำช้างแรก ทะลุหมู่ 4 ต.ปากแพรก ไปเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษม
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ฐานะรอง ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) เผยว่า ศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคกลาง กอนช.หารือแนวทางบริหารจัดการน้ำลุ่มเจ้าพระยา ปรับลดการระบายน้ำเขื่อนป่าสักฯ เพิ่มการระบายน้ำฝั่งตะวันออกลดการระบายน้ำฝั่งตะวันตก และลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยเหลือประชาชนท้ายเขื่อนเร็วขึ้นประมาณ 1-2 สัปดาห์
เลขาธิการ สทนช.เผยด้วยว่า สำหรับ จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำในแม่น้ำมูลลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายแล้ว 13 อำเภอ ได้แก่ เดชอุดม นาจะหลวย น้ำยืน ทุ่งศรีอุดม น้ำขุ่น ม่วงสามสิบ ตระการพืชผล เหล่าเสือโก้ก นาเยีย สิรินธร บุณฑริก กุดข้าวปุ้น และโขงเจียม ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมอีก 7 อำเภอ ได้แก่ เมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ พิบูลมังสาหาร สว่างวีระวงศ์ ดอนมดแดง ตาลสุม และเขื่องใน หน่วยงานต่างๆเข้าไปช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย คาดว่าระดับแม่น้ำมูลจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงกลางเดือน พ.ย.นี้
ภาพรวมสถานการณ์น้ำท่วมปัจจุบันมี 28 จังหวัด ได้แก่ ภาคเหนือ 4 จังหวัด พิษณุโลก พิจิตร อุทัยธานี และนครสวรรค์ ภาคกลาง 10 จังหวัด สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นครปฐม ชัยนาท นนทบุรี ลพบุรี สุพรรณบุรี และสระบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 12 จังหวัด หนองบัวลำภู ชัยภูมิ มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ ยโสธร นครราชสีมา และสุรินทร์ ภาคตะวันออก 2 จังหวัด นครนายก และปราจีนบุรี ภาคใต้ 3 จังหวัด สุราษฎร์ธานี นราธิวาส และตรัง
ที่สำนักงานเขตยานนาวา นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เผยสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯว่า วันนี้มีน้ำท่วมที่เขตยานนาวาค่อนข้างรุนแรง ออกมาบนถนนพระราม 3 ซอย 52 เนื่องจากเป็นพื้นที่ฟันหลอ ประตูน้ำอยู่ติดกับถนนพระราม 3 มีช่วงที่น้ำทะลุเข้ามาได้ ตอนนี้น้ำเริ่มลง ได้ปิดกั้นพร้อมดูดลงคลองตาห่วงที่อยู่ใกล้ๆใช้เป็นแก้มลิงดันน้ำลงได้ ในซอยที่ได้รับผลกระทบมีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก การเสริมกระสอบทรายจะก่อให้เกิดปัญหารถเข้าออก ได้ปรึกษากับนายวิศนุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. จะลองราดยางมะตอยเป็นเบิมคล้ายเขื่อนกั้นไปเลย ต้องดูความเป็นไปได้และต้องพูดคุยกับชาวบ้านจะว่าอนุญาตหรือไม่ ทั้งนี้ ในเดือน พ.ย.จะมีน้ำหนุนสูง 2 ครั้งจะสูงกว่านี้ วันนี้ฐานน้ำ 1.27 เมตร เดือนหน้าจะเป็น 1.35 เมตร และปลายปีจะมีอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยวโต้ลมหนาวตามสถานที่ต่างๆในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เริ่มกลับมาคึกคัก ที่ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ นักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นไปสัมผัสอากาศเย็นบนดอยพากันดีใจเมื่อฟ้าโปร่ง สามารถมองเห็นทะเลหมอกและทิวทัศน์โดยรอบได้อย่างสวยงาม อุณหภูมิเช้านี้วัดได้ต่ำสุด 11 องศาฯ ที่ยอดดอยกิ่วแม่ปาน 12 องศาฯ และที่ทำการอุทยาน 17 องศาฯ คาดว่าจากนี้ไปอุณหภูมิจะลดลงอีกแน่นอน
เช่นเดียวกับที่ภูทอก บ้านลาด ต.นาพึง อ.นาแห้ว จ.เลย แหล่งท่องเที่ยวโต้ลมหนาวยอดฮิตอีกแห่ง นักท่องเที่ยวพากันมากางเต็นท์นอนตื่นเช้าจิบกาแฟสด นั่งชมทะเลหมอกขาวโพลนเต็มท้องฟ้าสวยงาม ท่ามกลางสภาพอากาศเย็นสบายที่อุณหภูมิ 16 องศาฯ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านลาดให้บริการนักท่องเที่ยวคิดค่ากางเต็นท์แค่คนละ 100 บาทสำหรับคนที่นำอุปกรณ์มาเอง ถ้าไม่ได้นำมาจะมีเต็นท์พร้อมเครื่องนอนครบชุด 1 หลัง นอนได้ 2 คนราคา 350 บาท ที่ลานกลางเต็นท์มีสมาชิกในกลุ่มฯมาคอยเฝ้าดูแลอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชม. นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพาไปเที่ยวชมธรรมชาติรอบๆ เช่น อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำไพร้ ลงเล่นน้ำ งมหอยกาบทราย หาปู ปลา กุ้ง นำมาปรุงอาหารให้รับประทานกันสดๆที่ริมอ่างเก็บน้ำหรือที่เรียกว่า “ไปกินข้าวป่า”
กรมอุตุนิยมวิทยาคาดหมายสภาพอากาศ วันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ทำให้มีฝนลดลง และอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง อุณหภูมิจะเริ่มลดลงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะลดลงในระยะถัดไป ส่วนช่วงวันที่ 2-4 พ.ย. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้อุณหภูมิจะลดลงอีก 2-4 องศาเซลเซียสกับมีลมแรง สำหรับร่องมรสุมจะเลื่อนไปพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ทำให้ภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง