ตำรวจรวบหนุ่มวัย 43 ปี หลังก่อเหตุข่มขืน ด.ญ.วัย 11 ปี ลูกสาวนายจ้าง เจ้าตัวปฏิเสธลั่นอ้างถูกกลั่นแกล้ง ยายกับแม่เผย ให้มาทำงานประจำ กินอยู่เหมือนครอบครัวเดียวกัน
(19 ก.ย.64) ตำรวจ สภ.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ ตามจับตัวนาย อ่ำ (นามสมมุติ) อายุ 43 ปี ชาว อ.ปะคำ ไปสอบสวน หลังนาง เอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี แจ้งความกล่าวหานายอ่ำ ลูกจ้างของตัวเอง ข่มขืนลูกสาววัย 11 ปี เมื่อ 3 วันที่ผ่านมา
จากการสอบสวน นายอ่ำ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง เพราะแม่เด็กอาจจะกลัวตนเองแย่งความรักของลูกไป เพราะเด็กคุ้นเคยกันตัวเองเป็นอย่างดี ยืนยันไม่ได้กระทำเด็กเพราะตนมีลูกสาววัย 2 ขวบเหมือนกัน และรักน้องเหมือนลูก
ยายเด็กเล่าว่า ตนอยู่กับอีกหลาน 3 คน เป็นชายอายุ 18 ปี น้องบี อายุ 11 ปี และน้องซี อายุ 8 ปี รวมเป็น 4 คน มีนายอ่ำ เป็นคนงานร้านต้นไม้ ซึ่งอยู่บริเวณเดียวกัน แต่นายอ่ำ จะพักอยู่อีกหลังหนึ่ง โดยทุกวันแม่เด็ก จะมาอยู่เป็นเพื่อนกับลูก จนถึงเวลา 23.00 น. แล้วกลับไปนอนบ้านอีกหลังซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 50 เมตร
ปกติหลานมักจะเล่นคุ้นเคยกับนายอ่ำ เพราะครอบครัวให้นายอ่ำ มากินข้าววงเดียวกัน ไม่คิดว่าเป็นลูกจ้าง ให้พักบ้านเป็นหลัง เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนจะต้องไปนอนเฝ้าคนป่วยที่โรงพยาบาล 1 คืน
หลังกลับจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน เห็นหลาน 11 ขวบไม่ยอมออกจากห้อง ผ่านไป 3 วันจึงเข้าไปคุยกับหลาน ว่าเกิดอะไรขึ้น หลานบอก ไม่อยากเห็นหน้านายอ่ำ จึงเค้นถาม หลานจึงเล่าให้ฟังว่า คืนที่ยายไม่อยู่ นายอ่ำ เข้ามาชวนตนและน้องวัย 8 ขวบ ไปนอนเล่นด้วย ซึ่งตอนนั้นแม่ได้กลับไปนอนที่บ้านแล้ว ส่วนพี่ชายอายุ 18 ปี เข้าห้องนอนไปแล้ว จึงชวนน้องไปด้วยกัน เพราะคิดว่าเป็นคนคุ้นเคย
พอตอนตี 4 ถูกนายอ่ำ มาลวนลาม เอามือปิดปาก แล้วทำการข่มขืน แล้วบอกว่าห้ามบอกให้ใคร จากนั้นจึงบอกให้แม่เด็กทราบ แล้วไปแจ้งความที่ สภ.ปะคำ โดยก่อนที่ตำรวจจะมาถึง นายอ่ำ ยังขอโทษและอ้อนวอนไม่ให้ไปแจ้งความอีกด้วย
ด้านแม่เด็ก บอกว่า คืนเกิดเหตุ ยอมรับว่าตนพลาดเพียงนิดเดียว ตอนที่มาอยู่เป็นเพื่อนลูก แล้วยายไม่อยู่ กะว่าจะพาลูกไปนอนด้วย แต่คิดว่า ”เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว” ไม่คิดว่าในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมง ลูกจ้างที่เราเลี้ยงอย่างดี จะคอยจ้องทำร้ายลูกเราแบบนี้ ห่วงแต่สภาพจิตใจลูกสาว เพราะจะต้องมีเจ้าหน้าที่มาสอบแล้วตอบคำเดิมซ้ำๆ เหมือนตอกย้ำความเจ็บปวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นตำรวจได้ส่งเด็กไปตรวจ อยู่ระหว่างการรอผล แต่ได้แจ้งข้อหาอนาจารเด็กเอาไว้ก่อน หากผลการตรวจ และผลการสอบออกมาจะทำการแจ้งข้อหาเพิ่มตามพยานหลักฐานต่อไป
