ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 เผยปูพรมค้นหาลูกเรืออีก 30 นาย ที่ยังคงสูญหายอย่างเต็มกำลังความสามารถ ยืนยันบนเรือมีชูชีพกับพวงชูชีพสำหรับลูกเรือทุกคน
พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการกองทัพเรือภาค 1 ยืนยันลูกเรือของเรือหลวงสุโขทัยที่ประสบเหตุจมทะเลสามารถค้นและช่วยเหลือได้แล้ว 75 ราย โดยรายล่าสุดที่เรือหลวงกระบุรีได้นำมาขึ้นที่ท่าบางสะพาน คือ พ.จ.อ.นที ทิมดี หลังทีมค้นหาพบว่านอนหมดสติลอยคออยู่กลางทะเล
โดยหลังจากเรือจอดเทียบท่าสนิท ก็ได้นำส่ง พ.จ.อ.นที ที่สามารถเดินขึ้นเรือมาที่เปลผู้ป่วยได้เอง ก่อนที่กู้ภัยจะนำส่งยังโรงพยาบาลบางสะพานซึ่งพบว่ามีบาดแผลบริเวณศีรษะ และข้อเท้าและมีอาการตาแดง แต่อาการโดยรวมปลอดภัย มีสติพูดคุยได้ แต่มีสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากลอยคออยู่ในน้ำนานกว่า 10 ชั่วโมง
ด้าน นาวาโทไกรพิชญ์ กรวีร์ปภาวิทย์ ผู้บัญชาการเรือหลวงกระบุรี ซึ่งเป็นทีมค้นหา ยืนยันว่ากำลังพลคนล่าสุด ที่ได้รับความช่วยเหลือคือ พ.จ.อ.นที ทิมดี เป็นกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย สภาพโดยรวมปลอดภัย แต่มีอาการอ่อนแรง
พร้อมเล่าวินาทีที่เข้าไปช่วยเหลือกำลังพลคนนี้ว่า ทีมค้นหาได้รับแจ้งจากเฮลิคอปเตอร์ที่บินค้นหา ว่าพบพวงชูชีพประมาณ 4 พวง ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 4 ไมล์ หรือประมาณ 8 กม. แต่มองไม่เห็นว่ามีคนอยู่หรือไม่ จึงได้นำเรือหลวงกระบุรีเข้าไปดู
ปรากฎว่าเจอแค่คนเดียวลอยกอดชูชีพอยู่ นอกนั้นเป็นพวงชูชีพเปล่าจึงนำเรือเข้าไปรับทราบว่าลอยอยู่ประมาณ 10 ชั่วโมง แต่ยังพอมีสติและมีแรงดึงขึ้นเรือได้ปลอดภัย แต่จะมีแผลถลอกเล็กน้อยบริเวณศีรษะและตาที่เจ็บเพราะโดนน้ำทะเลมาก
สำหรับปฎิบัติการค้นหาลูกเรืออีก 30 นายที่เหลือ จะดำเนินการต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยจะใช้เรือทั้งหมด 4 ลำใหญ่ คือ เรือหลวงอ่างทองเป็นเรือควบคุมสั่งการ ส่วนที่เหลือคือเรือหลวงกระบุรี เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช และเรือหลวงนเรศวร ซึ่งเป็นเรือที่มีศักยภาพสูงที่สุดของกองทัพเรือที่จะเข้ามาช่วย โดยจะวางกระจายจุดในพื้นที่ 30 ตารางไมล์ทะเล
ขณะกองทัพอากาศก็จะส่งอากาศยานมาร่วมการค้นหาในการบินตรวจหาเรดาร์ ร่วมกับเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งหากพบจะมีชุดปฎิบัติการพิเศษทั้งมนุษย์กบ กรมสรรพพาวุธและกองทัพอากาศโดยจะส่งนักประดาน้ำลงไปเพื่อไปพยุงและนำขึ้นเรือให้เร็วขึ้น
พร้อมยืนยันว่าจะค้นหากำลังพลที่เหลือและช่วยทุกคนให้ได้ด้วยทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่ ส่วนขวัญและกำลังใจของทีมค้นหาก็พร้อมตลอดเพื่อที่จะช่วยเหลือให้ได้ เบื้องต้น เชื่อว่าหากลูกเรือที่ใส่ชูชีพหรือมีพวงชูชีพจะสามารถลอยอยู่ได้นาน 48 ชั่วโมง ดังนั้นวันนี้ (20 ธ.ค.) จะพยายามค้นหาให้หมด
ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 1 ยอมรับว่า ชูชีพบนเรือไม่ได้มีครบตามจำนวนกำลังพล 106 คน แต่ยืนยันว่า ยังมีอุปกรณ์ช่วยพยุงสำหรับกำลังพลที่เหลือ และช่วงเกิดเหตุกำลังพลทุกคน ขึ้นไปเกาะอยู่บริเวณกาบเรือ เพื่อเตรียมสละเรือ ดังนั้นมั่นใจว่าจะไม่มีกำลังพลติดอยู่ในเรือ
พร้อมยืนยันว่าการตัดสินใจสละเรือไม่ได้ล่าช้า แต่เป็นไปตามขั้นตอนและระเบียบการปฎิบัติทุกขั้นตอนส่วนสาเหตุที่น้ำเข้าห้องเครื่องจำนวนมากยอมรับเป็นเรื่องผิดปกติ เพราะเหตุเช่นนี้ยากที่จะเกิดขึ้นกับเรือรบซึ่งหลังจากนี้จะตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
ล่าสุด ผบ.ทัพเรือภาคที่ 1 ระบุว่า ผู้สูญหาย ตอนนี้คือ 30 นาย แต่ไม่ได้เป็นการพบเพิ่มเติม แต่จากเดิมที่ระบุตัวเลขสูญหาย 31 นาย แต่เป็นการไปตรวจสอบข้อมูลพบรายชื่อที่ต้องขึ้นเรือ 106 นาย แต่ลากิจ 1 นาย ไม่ได้ขึ้นไปกับเรือ เท่ากับเหลือขึ้นเรือจริงๆ 105 นาย ขณะนี้ยังต้องเร่งค้นหาอีก 30 นาย
ส่วนกระแสข่าวที่ว่า พบเพิ่มอีก 3 นาย แล้วนั้น ไม่เป็นความจริง และน่าจะเข้าใจคาดเคลื่อน ขณะที่ในช่วงเช้าวันนี้ จะมีการประชุมวางแผนเพื่อค้นหาและช่วยเหลืออีกครั้ง