สถานการณ์โควิดไทยยังวางใจไม่ได้ ยอดป่วยรายวันยังทะลุหมื่นคน ล่าสุดตายอีก 127 ศพ เป็นผู้สูงวัยเกือบร้อยศพ ส่วน กทม.แชมป์ทุกด้าน ขณะที่คน สธ.สุดปลื้ม ฉีดวัคซีนวันมหิดลวันเดียวเกิน 1.3 ล้านโดส มั่นใจสิ้นปีนี้ฉีดเข็ม 2 ได้ตามเป้า 50 ล้านโดส “อนุทิน” ยันปีหน้าจัดหาวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิเรียบร้อย ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ลอตบริจาคจากสหรัฐฯ ทูตไทยระบุสหรัฐฯเพิ่งเริ่มนัดหารือ ขณะที่ชาวกระบี่โวยกระทรวงการท่องเที่ยวฯจัดมินิคอนเสิร์ตไม่นึกถึงหัวอกคนด่านหน้า-เตียงผู้ป่วยเต็มหมดทุกแห่ง หวั่นทำยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
แม้ไทยมีการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 (โรคโควิด-19) ได้มากขึ้น รักษาหายสะสมกว่า 1.4 ล้านคน แต่วันนี้ยังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็นเลขห้าหลักและผู้ป่วยเสียชีวิตกว่า 100 ศพต่อวันต่อเนื่องมากว่า 2 เดือน
ติดเชื้อใหม่ยังทะลุหมื่นคน
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ที่ผ่า่นมา ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในไทยว่า มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,975 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 11,864 คน จากเรือนจำและที่ต้องขัง 92 คน และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 19 คน โดยมาจากรัสเซีย 2 คน เป็นหญิงชาวรัสเซียทั้งคู่ มาเลเซีย 4 คน เป็นชายไทยทั้งหมด มาทางด่านพรมแดนทางบก 1 คนและช่องทางธรรมชาติ 3 คน ประเทศกัมพูชา 6 คน เป็นคนไทยทั้งหมด ชาย 2 คน หญิง 4 คน นอกนั้นมาจากประเทศละ 1 คนได้แก่ กาตาร์ สหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ บาห์เรน ฝรั่งเศส สิงคโปร์ เมียนมา และ สปป.ลาว ผู้รักษาหายป่วยเพิ่ม 14,700 คน อยู่ระหว่างการรักษา 124,540 คน อาการหนัก 3,323 คน ใส่เครื่องช่วยหายใจ 729 คน ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,549,285 คน ยอดรวมหายป่วยสะสม ตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 1,408,602 คน
ตายเพิ่ม 127 เป็นผู้สูงวัยถึง 97 ศพ
ส่วนผู้ป่วยเสียชีวิตเพิ่ม 127 คน เป็นชาย 69 คน หญิง 58 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้อายุ 60 ปีขึ้นไปถึง 97 คน อายุไม่ถึง 60 ปีแต่มีโรคเรื้อรัง 23 คน ไม่มีโรคเรื้อรัง 7 คน ขณะที่ผู้เสียชีวิตใน กทม.ยังสูงสุดที่ 31 ศพ ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสมตั้งแต่ปี 2563 จำนวน 16,143 คน 10 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ได้แก่ กรุงเทพฯ 2,123 คน ชลบุรี 744 คน สมุทรปราการ 738 คน ยะลา 632 คน ระยอง 454 คน นราธิวาส 423 คน สงขลา 401 คน ราชบุรี 359 คน สมุทรสาคร 317 คน และนครศรีธรรมราช 294 คน
นายกฯขอบคุณทุกฝ่าย
วันเดียวกัน นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ขอบคุณประชาชน บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ร่วมมือร่วมใจกันเข้ารับและให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทำให้วันที่ 24 ก.ย. เวลา 22.01 น. สามารถสร้างสถิติยอดฉีดวัคซีนรายวันสูงสุดที่ 1,443,582 โดส เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันมหิดล ถือเป็นตัวเลขการฉีดรายวันสูงสุด ทำให้ไทยมียอดฉีดวัคซีนสะสมแล้วกว่า 50 ล้านโดส นายกฯ เชื่อมั่นในศักยภาพสาธารณสุขไทยจะสามารถบรรลุเป้าหมายการฉีดวัคซีน 100 ล้านโดส คิดเป็น 50 ล้านคน หรือร้อยละ 70 ของประชากรกลุ่มเป้าหมายภายในปี 2564 เพื่อลดความรุนแรงในการเจ็บป่วยและเสียชีวิตในกลุ่มเสี่ยง ที่สำคัญจะเป็นการกลับมาประกอบกิจการ กิจกรรม รองรับการฟื้นตัวของภาคธุรกิจ อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวในช่วงปลายปีนี้
แห่ฉีดวัคซีนวันมหิดลทะลุเป้า
ส่วนที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญ วีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องในวันมหิดล 24 กันยายน ซึ่งทุกปีกระทรวงสาธารณสุขจะจัดกิจกรรมเพื่อสาธารณ ประโยชน์เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบัน” ปีนี้ได้รณรงค์ให้มีการฉีดวัคซีนเนื่องในวันมหิดลให้ได้ครบ 1 ล้านโดสให้กับประชาชนทั่วไป และด้วยความร่วมมือร่วมใจและความตั้งใจของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข และความร่วมมืออย่างดีของประชาชน ทำให้วันมหิดลเราสามารถฉีดวัคซีนได้ 1,300,677 โดส ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงประสิทธิภาพการฉีดวัคซีนของการสาธารณสุขของไทย และเป็นสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนทุกคนว่า หากทุกคนร่วมใจมาฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ศักยภาพของระบบสาธารณสุข พร้อมให้บริการได้
โวฉีดสะสมเกิน 50 ล้านโดส
นายอนุทินกล่าวต่อว่า ตัวเลขการฉีดวัคซีนสะสมตั้งแต่เดือน มี.ค.-วันที่ 24 ก.ย. ทั่วประเทศเกิน 50 ล้านโดส ครอบคลุมเข็มที่ 1, 2 และ 3 โดยเป็นวันแรกที่เริ่มฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับประชาชนทั่วไปที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคไปแล้วก่อนหน้านี้ สามารถฉีดให้กับประชาชนกว่า 1.5 แสนคน จากนี้ขอเชิญคนที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็มตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย.ลงทะเบียนนัดหมายมารับวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด ส่วนจำนวนวัคซีนจากเดือน ต.ค.-ธ.ค. กรมควบคุมโรค จัดหาวัคซีนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยจะมีวัคซีนจนถึงเดือน ธ.ค.ทั้งสิ้น 125 ล้านโดส และตั้งแต่เดือน ต.ค.จะเร่งฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากรทุกกลุ่ม ทั้งนี้ทุกคนในกระทรวงสาธารณสุขจะตามรอยเบื้องพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานของพระบรม ราชชนก ที่มีพระราชดำรัสว่า “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง”
จัดหาวัคซีนกระตุ้นภูมิปีหน้า
นายอนุทินกล่าวด้วยว่า สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ ซึ่งรัฐบาลจัดหามา 30 ล้านโดสที่จะฉีดให้กับเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป จะเริ่มฉีดต้นเดือน ต.ค.นี้ ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครอง พิจารณานำลูกๆ มารับวัคซีน เพื่อโรงเรียนจะได้เปิดตามปกติเร็วที่สุด นอกจากนี้เราได้รับความร่วมมือจากประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน บริจาควัคซีนให้ไทยมาตลอด รวมทั้งยืมวัคซีนจากสิงคโปร์และภูฏาน มาใช้ก่อนและจะคืนให้ตามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน สำหรับปีหน้ามีการยืนยันจัดหาวัคซีนไว้แล้ว เพียงพอสำหรับนำมาฉีดกระตุ้นภูมิให้กับประชาชน และจะกระตุ้นภูมิไปเรื่อยๆ จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
ตีปี๊บฉีดวัคซีนมาถึงครึ่งทาง
ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า อัตราการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 24 ก.ย. สามารถฉีดได้รวม 1,300,677 โดส เป็นวัคซีนเข็มที่ 1 จำนวน 841,769 โดส วัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 309,429 โดส และวัคซีนเข็มที่ 3 จำนวน 149,479 โดส โดยเขตสุขภาพที่ 6 มีการฉีดมากที่สุด 148,887 โดส ส่วนจังหวัดที่ฉีดมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ กทม. 64,880 โดส ชลบุรี 48,316 โดส อุดรธานี 47,110 โดส นครราชสีมา 44,863 โดส และเชียงใหม่ 39,214 โดส ขณะนี้ไทยเดินทางมาถึงครึ่งทาง จากนโยบายรัฐบาลตอนแรกตั้งใจฉีดให้ได้ปีนี้ 100 ล้านโดส หรือ 50 ล้านคน ปัจจุบันเราฉีดได้ 50 ล้านโดส และเมื่อเราจัดหาวัคซีนมาเพิ่มก็จะฉีดให้ได้ครอบคลุมให้มากที่สุด
ก.ย.-ต.ค.ฉีดได้ก้าวกระโดด
ส่วน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ติดเชื้อแนวโน้มผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลงเรื่อยๆ ผู้ป่วยหนัก และผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ลดลงตามลำดับเช่นกัน กระทรวงจะพยายามลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตให้ได้มากที่สุด มาตรการหนึ่งคือการฉีดวัคซีน แผนการจัดหาและการฉีดวัคซีนในเดือน ก.ย.-ต.ค.จะมีอัตราการฉีดแบบก้าวกระโดด โดยมีวัคซีนหลักของรัฐบาล ได้แก่ ซิโนแวค 6 ล้านโดส แอสตราเซเนกา 7.7 ล้านโดส ไฟเซอร์ 2 ล้านโดส และวัคซีนทางเลือก ซิโนฟาร์ม 10 ล้านโดส รวม 25.7 ล้านโดส ส่วน ต.ค.จะมีวัคซีนหลักของรัฐบาลรวม 24 ล้านโดส วัคซีนทางเลือก 6 ล้านโดส รวม 30 ล้านโดส แผนการฉีดเดือน ต.ค.-ธ.ค.จะเร่งฉีดวัคซีน คาดว่าถึงสิ้นเดือน ธ.ค.เข็มที่ 1 จะฉีดสะสมได้ 60 ล้านโดส หรือร้อยละ 85 ของประชากร ส่วนเข็มที่ 2 สิ้นเดือน ธ.ค.จะฉีดสะสมได้ 52 ล้านโดส หรือร้อยละ 74 ของจำนวนประชากร ส่วนเข็มที่ 3 เริ่มฉีดปลาย ก.ย.เมื่อถึงสิ้น ธ.ค.คาดว่าจะฉีดได้สะสม 7 ล้านโดส หากฉีดได้ตามที่วางแผนจะทำให้สถานการณ์การติดเชื้อและเสียชีวิตลดลง และกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ
มะกันเพิ่งนัดหารือสัปดาห์หน้า
ส่วนกรณีวัคซีนบริจาคจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มเติม 1 ล้านโดส ที่ ส.ว.แทมมี่ ดักเวิร์ธ ระบุยังไม่ได้รับเอกสารจากฝ่ายไทย ทำให้ยังจัดส่งวัคซีนให้ไม่ได้นั้น วันเดียวกัน นายมนัสวี ศรีโสดาพล เอกอัครราชทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า จากการโทรศัพท์หารือกับ ส.ว.แทมมี่ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. ตนสอบถามท่านถึงเรื่องความคืบหน้าวัคซีน 1 ล้านโดส ท่าน ส.ว.แจ้งว่าท่านมีข้อมูลว่าเอกสารติดค้างอยู่ที่ไทย และขอความร่วมมือให้ตนช่วยตรวจสอบ จึงได้กลับมาตรวจสอบกับทุกฝ่าย ก่อนจะกลับไปแจ้งท่าน ส.ว.แทมมี่ทราบเมื่อเย็นวันที่ 24 ก.ย.ว่า ทางการสหรัฐฯยังไม่ได้จัดส่งเอกสารใดๆให้ฝ่ายไทยและทางการไทยไม่ได้รับเอกสารใดที่เกี่ยวข้องจากฝ่ายสหรัฐฯ และวันนี้มีข่าวดีคือ สอท.ได้รับแจ้งจากทางการสหรัฐฯนัดหารือคณะทำงานระหว่างกันอย่างเป็นทางการในสัปดาห์หน้า และจะมีการหารือลอตที่ 2 ยังไม่ทราบว่าเป็นวัคซีนชนิดใด และยังไม่มีการแจ้งระเบียบวาระการประชุมหรือรายละเอียดเอกสารใดๆมา
ฉีดวัคซีนกะเหรี่ยงคอยาว
นอกจากนี้ ตลอดวันจังหวัดต่างๆยังเดินหน้าฉีดวัคซีนอย่างขะมักเขม้น โดยที่ จ.แม่ฮ่องสอน แม้ยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 22 คน จากคลัสเตอร์ครูนักเรียนโรงเรียนบ้านเมืองแปง อ.ปาย คลัสเตอร์โรงเรียนสบเมยวิทยาคม คลัสเตอร์โรงงานน้ำแข็งใน อ.แม่สะเรียง ขณะเดียวกัน นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้นำกลุ่มกะเหรี่ยงคอยาว หรือชนเผ่าปะด่อง พร้อมครอบครัว จาก 2 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านห้วยปูแกง และ บ้านห้วยเสือเฒ่า ต.ผาบ่อง อ.เมือง กว่า 200 คน มาร่วมฉีดวัคซีนทางเลือกซิโนฟาร์ม ที่ อบจ.แม่ฮ่องสอนใช้งบประมาณกว่า 40 ล้านบาท จัดซื้อมาฉีดให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส กลุ่มนักบวช และกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยวและนันทนาการต่างๆ จำนวน 11,000 โดส และหลังฉีดวัคซีนกลุ่มผู้ประกอบการอย่างทั่วถึงและครบตามจำนวน จังหวัดแม่ฮ่องสอนก็พร้อมที่จะพิจารณาเปิดหมู่บ้านท่องเที่ยวกะเหรี่ยงคอยาว หมู่บ้านท่องเที่ยวชาวจีนยูนนาน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติตามชุมชนต่างๆ โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป นักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้โดยต้องแสดงผลการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม และผู้ที่มาจากพื้นที่สีแดงจะต้องมีผลตรวจ ATK มาแสดงตามด่านตรวจก่อนเข้าสู่จังหวัดแม่ฮ่องสอนด้วย
กระบี่โวย ก.ท่องเที่ยวจัดคอนเสิร์ต
ส่วนที่ จ.กระบี่ ยังคงมีกระแสคัดค้านจากชาวกระบี่ กรณีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข จัดมหกรรมคอนเสิร์ตภายใต้ชื่อ “THAI LAND SHA SHA SHA” ที่ขนเอาศิลปินเพลงชื่อดังหลายคน มาจัดมินิคอนเสิร์ตใน 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ระหว่างวันที่ 24 ก.ย.-3 ต.ค.64 ที่อ่าวนางแลนด์มาร์ก หน้าหาดนพรัตน์ธารา ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ เนื่องจากยังเกิดการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงในพื้นที่ ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ก.ย. กระแสคัดค้านการจัดงานดังกล่าวยังคงกระหน่ำผ่านสังคมโซเชียลอย่างต่อเนื่อง โดยต่างมองว่าไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ในขณะนี้ อาทิ เฟซบุ๊กของนายอติพจน์ ศรีสุคนธ์ นักธุรกิจชื่อดังของเมืองกระบี่ และช่างภาพนิตยสาร อสท.ได้ออกมาโพสต์เปรียบเทียบให้เห็นสถานการณ์ปัจจุบันที่มีภาพของ จนท.กู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา กำลังช่วยกันนำศพผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไปฝัง พร้อมเขียนข้อความว่า “เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชาทำงานกันอย่างหนัก แต่พวกผีห่าซาตานกลับอ้างส่งเสริมการท่องเที่ยว”
เช่นเดียวกับบุคลากรทางการแพทย์บางส่วนระบายความในใจที่ต้องสละเวลาแบกรับปริมาณผู้ป่วยที่เพิ่มจำนวนอย่างต่อเนื่องทุกวัน จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน กลับไปหาครอบครัว หลายคนมองว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวอาจจะเสี่ยงทำให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ที่จะไปเพิ่มภาระให้กับ จนท.ด่านหน้า และกดดันการทำงานของ จนท.ในระดับปฏิบัติ ประกอบกับช่วงนี้เตียงผู้ป่วยในกระบี่เต็มหมดทุกแห่งแล้ว
ปิดตลาดสุรนารีไม่มีกำหนด
วันเดียวกัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา ระบุสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จากคลัสเตอร์ตลาดสุรนารี เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นตลาดค้าส่งพืชผักผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน ล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 486 คน แพร่กระจายไปใน 19 อำเภอของจังหวัดนครราชสีมา และยังมีแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกเป็นจำนวนมาก ดังนั้น คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครราชสีมา จึงมีคำสั่งขยายเวลาปิดตลาดสุรนารีตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
สิงคโปร์เข้มมาตรการคุมระบาด
ส่วนสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ทั่วโลก เมื่อวันที่ 25 ก.ย.มีผู้ป่วยสะสม 231,894,122 คน เสียชีวิตสะสม 4,751,272 คน ขณะเดียวกัน ในสิงคโปร์เริ่มตึงเครียดมากขึ้น หลังมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 24 ก.ย.มีผู้ป่วยรายใหม่ 1,650 คน ทางการสิงคโปร์คาดว่าอาจมีผู้ติดเชื้อเพิ่มถึง 3,200 คนต่อวัน จึงตัดสินใจยกระดับมาตรการทางสังคมให้เข้มงวดขึ้นประมาณ 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย.-24 ต.ค. จำกัดการรวมกลุ่มในที่สาธารณะและการรับประทานอาหารภายในร้านสูงสุด 2 คน โดยทั้งคู่ต้องฉีดวัคซีนครบแล้ว ขอให้ผู้สูงอายุอยู่บ้านมากที่สุดไม่ว่าจะฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ สนับสนุนให้ประชาชนทำงานที่บ้านให้มากที่สุด และขยายการเรียนออนไลน์ของนักเรียนประถมศึกษาไปจนถึงวันที่ 7 ต.ค. นอกจากนี้ ยังเตรียมฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้แก่ผู้มีอายุระหว่าง 50-59 ปี ที่ได้รับวัคซีนเข็มที่ 2 มาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน เริ่มตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.เป็นต้นไป ทั้งนี้ สิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สูงที่สุดในโลก โดยประชาชนราวร้อยละ 82 ได้รับวัคซีนครบแล้ว