แพรรี่ ไพรวัลย์ ฟาดครูบาคนดังภาพหลุดซ้อนเจ็ตสกี เรื่องคาวๆ เน่าเหม็น ไม่ควรอยู่ในวงการผ้าเหลือง ถามเป็นครูบาแบบสุกตามธรรมชาติ หรือบ่มแก๊ส
หลังจาก “แพรรี่ ไพรวัลย์” โพสต์แซ่บปลุกสังคมพุทธ ฟาดกรณีที่ครูบาชื่อดังมีภาพหลุดเล่นเจ็ตสกี เล่นน้ำตก ซึ่งมองว่าในทางสงฆ์ถือว่าไม่เหมาะสม ล่าสุดมีโอกาสได้เจอแพรี่ ได้เปิดใจถึงเรื่องราวดังกล่าวให้ฟังว่า
“รู้สึกแรงมากค่ะ ประทุภูเขาไฟ ขยันปะทุมากเลย ให้ชาวบ้านมีเรื่องติฉินนินทาตลอด หนูไม่ได้พอใจที่วงการสงฆ์เป็นแบบนี้ ในฐานะที่หนูเคยเป็นคนในวงการ หนูก็อยากเห็นรุ่นน้องในวงการตอนนี้ มีภาพลักษณ์ที่ดี คนศรัทธาคนชื่นชอบ นับถือพระ นับถือศาสนามากขึ้น หนูอยากเห็นมุมนั้นมากกว่า คาวๆ เป็นเรื่องของฆราวาสไหมคะ เรื่องคาวๆ เหม็นๆ เน่าๆ ไม่ควรเป็นเรื่องของคนในวงการผ้าเหลือง”
เคสล่าสุดเราแสดงความเห็นดุเดือดเหมือนกัน ?
“ก็หนูเห็นว่ามันไม่จบซักทีหนึ่ง เริ่มมีภาพหลุดเรื่อยๆ ตัวพระเอง ท่านก็เหมือนไม่ได้เป็นทองรู้ร้อนอะไร ไม่ได้รู้สึกว่าสิ่งที่ท่านทำคือความเสียหาย ท่านจะแสดงความรับผิดชอบยังไง คณะสงฆ์จะมีแนวทางยังไง เพราะก็มีการโยนว่าให้เป็นเรื่องของศาล ให้ศาลตัดสินมีความผิดถูกยังไง ทั้งที่บางภาพไม่จำเป็นต้องรอศาลมีคำพิพากษาภาพไม่เหมาะสม เช่น ภาพขี่เจ็ตสกีควรมีแนวทางได้แล้ว แล้วตัวพระที่มีพฤติกรรมแบบนั้น กลับมาบอกไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ผิด อย่างนี้ก็ไม่ได้แหละ เราต้องออกความเห็นในมุมของเรา ในฐานะที่เราออกมา และมองว่ามันเป็นเรื่องเสียหาย
หนูมองว่าครูบาไก่ไม่ใช่เณรภาคฤดูร้อน ถ้าครูไก่เป็นเณรเป็นเด็กไปบวช แล้วพอใกล้สึกพระอาจารย์พาไปเที่ยวทะเล หนูยังพอรับได้ เพราะเข้าใจว่ายังเด็ก อย่างข่าวล่าสุด เณรเล่นบอลมีคนถ่ายภาพ มันก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งแต่ว่าเคสครูบาไก่ก่อนหน้านี้เขามีข่าวเยอะ และสื่อเคยเอาข่าวเขามาลง มาสร้างภาพลักษณ์สร้างความศรัทธา ไปขุดพระเก่า ไปปราบช้างที่ตกมัน หลายเรื่องหนูรู้สึกว่าตกลงครูบาไก่เป็นพระแบบไหน ถ้าไม่มีภาพหลุดหนูคงเข้าใจ บางคนบอกครูบาไก่เป็นพระอรหันต์ ลูกศิษย์อวย หูทิพย์ ตาทิพย์รู้ได้เลย ที่ดินตรงไหนมีพระฝังอยู่ เจ้าของที่จะหายเจ็บไข้ได้ป่วย ถ้าไม่มีภาพลับคนจะเชื่อว่าเป็นแบบนั้น แต่พอมีภาพลับขี่เจ็ตสกีออกมา ทำให้หนูตั้งคำถามเป็นของแท้ หรือของปลอม ตกลงครูบาไก่เป็นครูบาแท้ หรือครูบาปลอม เป็นครูบาแบบสุกตามธรรมชาติ หรือสุกแบบบ่มแก๊ส”
ภาพเล่นน้ำตกบอกว่าเล่นกับหลานจริงๆควรไหม ?
“(หัวเราะ) ฆราวาสเล่นน้ำ ยังไม่แก้ผ้าแบบนั้นเลย เข้าใจประเด็นน้ำตกไม่ได้เสียหายมาก แต่ภาพที่ซ้อนท้ายขี่เจ็ตสกี อันนั้นเกินไปแล้ว”
ตามกฎของสงฆ์เวลาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ลงโทษยังไง ?
“มันก็แล้วแต่ของใครของมัน ซึ่งครูบาไก่สังกัดธรรรมยุติ พระธรรรมยุติต้องออกมาให้คำอธิบาย ครูบาไก่ต้องไปสอบเรียกว่าสอบอธิกร ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำจริงไหม ทำไมถึงไปทำ การทำแบบนี้ทำให้คณะสงฆ์เสียหาย ตัวท่านเสียหายไหม ภาพที่ท่านบอกเป็นครูบาเป็นอาจารย์ มีลูกศิษย์ลูกหาทั่วประเทศ แต่หนูยังไม่เห็นเขาทำอะไรแบบเป็นเรื่องเป็นราว แล้วครูบาไก่ยังอาศัยอยู่วัด ยังออกมาให้สัมภาษณ์สื่อ เหมือนไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น หนูรู้สึกว่าไม่ได้รู้สึกรู้สาเกินไป”
รู้สึกละเหี่ยใจไหม ?
“หนูไม่ได้รู้สึกละเหี่ยใจ เพราะหนูไม่ได้เป็นลูกศิษย์เขา ไม่ได้รู้สึกละเหี่ยใจ หรือผิดหวังอะไร เพราะหนูไม่ใช่ลูกศิษย์ครูบาไก่ แต่หนูเห็นแก่ศาสนาโดยรวม เพราะถ้าเราไม่ตั้งคำถาม และเรายังมองพระในมุมหนึ่งว่า ใครที่บวชเข้าไปและใส่จีวร ก็เป็นคนศักดิ์สิทธิ์ไปหมด เป็นพระโพธิสัตว์ เราก็จะโดนหลอกกันแบบนี้ไปอยู่เรื่อย หนูไม่อยากให้มีฆราวาสด้วยกัน หรือพระคนอื่นๆ ที่ไม่ใช่เป็นของแท้จริงๆ หลอก อยากให้ตั้งคำถามว่าพฤติกรรมเหล่านี้ที่เกิดขึ้น มันย้อนแย้งกันขนาดไหน ซึ่งบางคนก็ยังมองว่ามันคือมารผจญ ถ้าเป็นพระดีขอให้ผ่านเรื่องนี้ไป แล้วภาพออกมากลายเป็นมารศาสนา เราก็ออกมาค้าน ต่อให้มันจะมีผลประโยชน์กันหรือไม่มี ภาพก็คือภาพจริง จะบอกว่าเขามุ่งร้ายต่อศาสนา เราว่ามันไม่ได้”
ท่านออกมาบอกว่า มันเป็นการจัดฉาก?
“จัดฉากยังไงคะ ไปเล่นเจ็ตสกี ถ้าท่านดีจริง ใครจะทำร้ายท่านได้ ต่อหน้าท่านเป็นครูบาไก่ ปฏิบัติงดงามยังไง แต่เบื้องหลังท่านเป็นแบบนั้น ใครจะไปแอบถ่ายได้ มันเป็นเพราะเบื้องหน้าและเบื้องหลังท่าน ไม่ใช่เป็นแบบเดียวกันไง เขาถึงถ่ายได้ ท่านเซ็ตตัวมี 2 เวอร์ชั่น ต่อหน้าฆราวาส ญาติโยมก็เวอร์ชั่นหนึ่ง กับลูกศิษย์ที่รู้เบื้องหลังก็อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ถึงมีภาพหลุด ภาพลักษณ์แบบนี้ออกมา”
พอมีดราม่าวงการสงฆ์ คนก็จะมาถามเราตลอด?
“หนูก็หนีไม่ได้ ไม่ได้จะพูดด้วยซ้ำนะ มีคนแท็กก็รู้สึกว่ามันหนีความรับผิดชอบไม่ได้ แต่ที่มาพูดไม่ได้จงใจจะไปโจมตีพระรูปใดรูปหนึ่ง แต่หนูเห็นว่ามันเป็นเรื่องส่วนรวม ตอนนี้หนูยังนับถือศาสนาพุทธอยู่ ก็เป็นหนึ่งในพุทธบริษัท หนูไม่ได้มีหน้าที่แค่เอาเงินไปให้พระ เอาของไปถวายแล้วจบ แต่หนูหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ด้วยในกรณีที่พระทำตัวไม่เหมาะสม ซึ่งชาวพุทธส่วนหนึ่งไม่ทำหน้าที่นี้ คือทำหน้าที่แค่ในฐานะทายกและทายิกาอย่างเดียว แต่ไม่ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์ ติติงบางเรื่องที่พระทำตัวไม่ดี ทำตัวไม่เหมาะสม มันเป็นสิ่งที่เราทำได้นะ เพราะเราทำด้วยความหวังดี ไม่ได้หวังประทุษร้ายใคร”
คำว่าครูบาต้องบวชกี่พรรษา?
“ธรรมเนียมแต่ละที่มันไม่เหมือนกัน ปกติคำว่าครูบาเขาไม่ค่อยใช้กับพระหนุ่ม เขาจะใช้กับพระมหาเถระที่บวชมีพรรษาเยอะๆ 20-30 พรรษา แล้วในชุมชนหนึ่งจะมีแต่รูปเดียว ที่เป็นครูบาน่าศรัทธา ยกย่อง ภาษาอีสานไม่ค่อยได้ยินเขาใช้คำว่าครูบานะ ส่วนมากได้ยินคำว่ายาคู พอได้ 10 พรรษา เขาจะยกย่องกัน ปัญหาคือพระเดี๋ยวนี้คือยังไม่แก่เต็มที่ก็อยากจะเป็นครูบา”
“หนูทำคนเดียวไม่ได้ แต่ตอนนี้พระในสังคมค่อนข้างเข้มแข็ง พอดูกรณีพระคาดผม พอคนจำได้ว่ามีคดีเรื่องสีกา สังคมตั้งคำถามเลย เอามาโพสต์ มาแชร์ ชวนให้คิด พอภาคสังคมเข้มแข็ง ก็อยู่ไม่ได้ ถ้าชาวพุทธเข้มแข็งช่วยกันเป็นหูเป็นตา พระยังไงก็อยู่ไม่ได้หรอก ถ้าไม่ดีจริง ต้องจัดการ ถ้าจะเพิกเฉย ก็เดือดร้อน เจ้าอาวาสก็โดนปลดไปด้วยเลย ถ้าถึงขั้นมีสีกาไม่ใส่เสื้อผ้าในกุฏิก็ชัดเจน”
กลัวว่าคนจะไม่ศรัทธา?
“ศรัทธามาก ไม่ได้หมายความว่าคนศรัทธาพระแล้วมันดีงามรุ่งเรือง เดี๋ยวนี้คนไปศรัทธาพระไม่ได้ด้วยคำสอน การปฏิบัติพระจริงๆ แต่ศรัทธาที่ความศักดิ์สิทธิ์ ที่ภาพลักษณ์ที่ถูกเซ็ตขึ้น เช่น มีสตอรี่ ทำวัตถุมงคล แล้วก็แข่งกันสร้างที่ได้เงินมาแบบไม่ถูกต้อง เงินมันมีสองอย่าง ได้มาแบบถูกต้องสุจริตกับได้มาโดยการหลอกลวงฆราวาส แล้วก็เอามาสร้าง เสริมสร้างบารมีให้ตัวเอง”
กลัวไหมออกมาพูดแบบนี้?
“ก็หนูพูดแบบตรงไปตรงมา ไม่ได้พูดแบบมีผลประโยชน์ไง หนูไม่ได้เป็นลูกศิษย์เขา ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไม่เคยมีเรื่องให้รู้สึกว่าต้องการจะไปโจมตี อย่างถ้าเกิดเคยมีเรื่องกับครูบาไก่มาก่อนก็ว่าไปอย่าง”