พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ส่งทีมนักวิเคราะห์แผนประทุษกรรมชุด PCT5 ร่วมกับชุดลาดตระเวนออนไลน์สืบนครบาลแกะรอยติดตามคนร้าย อ้างตัวเป็นนายแพทย์ทอมในโลกโซเชี่ยลหลังรับแจ้งจากผู้เสียหายหญิงรายหนึ่งซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ถูกคนร้ายรายนี้หลอกลวงผ่านแอปพลิเคชั่นหาคู่ จากพฤติกรรมพบว่าผู้ก่อเหตุจะใช้โปรไฟล์เป็นหนุ่มหน้าตาดี หลอกให้เหยื่อหลงรัก จากนั้นคนร้ายลวงให้ผู้เสียหายลงทุน Money Exchange มูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาทจนหมดตัว แล้วออกอุบายบังคับให้มีเพศสัมพันธ์กับพ่อของคนร้ายเพื่อพิสูจน์รักแท้ แต่สุดท้ายพบว่าเป็นตัวคนร้ายเอง
สืบพบว่ามีประวัติโชกโชน ตระเวนก่อเหตุมาตั้งแต่ปี 49 จนถึงปัจจุบันกว่า 6 คดี และมีหมายจับ 2 หมายโดยได้ตัดกำไร EM หลบหนีประกัน จึงให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ในฐานะหัวหน้า PCT 5 เร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะเป็นภัยสังคมอย่างยิ่ง เกรงว่าจะมีเหยื่อหญิงสาวถูกล่อลวงเพิ่มขึ้น
ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายพงศกรหรือชาย อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหา และตรวจค้นห้องพัก ในพื้นที่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ สามารถตรวจยึดของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ (พบข้อมูลภาพผู้เสียหายเปลือยที่คนร้ายใช้แบล็คเมลล์) สมุดจดบันทึก 6 เล่ม มีการจดลักษณะนิสัยของเหยื่อ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรเอทีเอ็ม และซิมโทรศัพท์อีกกว่า 16 ซิม
สอบถามข้อมูลจากผู้เสียหายเล่าว่า ได้พบกับคนร้ายซึ่งอ้างว่าตนเองชื่อ นายเธนศ(ไม่ทราบนามสกุล) ชื่อเล่น “ทอม” โดยคนร้ายสร้างภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มรูปหล่อ แชทสนทนาจีบกันกับหญิงผู้เสียหาย โดยคนร้ายหว่านล้อมแสดงตนว่าเป็นผู้ชายสายบุญ กระทั่งหญิงผู้เสียหายรายนี้เริ่มหลงรัก เมื่อคนร้ายได้แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหายได้มาระยะหนึ่ง และรับรู้ว่าฝ่ายหญิงมีอาการป่วยโรคซึมเศร้า คนร้ายได้ใช้เทคนิคการสนทนาในลักษณะรู้จุดอ่อนของเหยื่อแต่งเรื่อง “วิปริต” หลอกลวงหญิงผู้เสียหายต่อไปว่า หากต้องการจะคบเป็นแฟน หญิงผู้เสียหายจะต้องไปหลับนอนกับ “พ่อ”ของตนก่อนมิเช่นนั้นจะต้องเลิกรากัน ซึ่งหญิงผู้เสียหายกลัวที่จะต้องเลิกรายอมเดินทางไปพบกับ “พ่อของหนุ่มหล่อที่แชทสนทนากัน ซึ่งแท้จริงพ่อคนดังกล่าวนั้นคือ ผู้ต้องหานั่นเอง
โดยคนร้ายหลอกลวงเช่นนี้เพราะทราบดีว่าตนเองหน้าตาไม่เหมือนกับใบหน้าในโปรไฟล์ที่แชทสนทนา จึงออกอุบายว่าตนเองเป็นพ่อของหนุ่มรูปหล่อที่แชทสนทนากับหญิงผู้เสียหาย
จากนั้นคนร้ายจึงเริ่มล่อลวงให้ร่วมลงทุน Money Exchange โดยเริ่มโอนเงินให้กับคนร้ายหลายครั้ง และยังถูกหลอกให้นำรถยนต์ของเหยื่อไปขายเพื่อนำเงินมาโอนให้กับคนร้ายอีก ซึ่งรวมความเสียหายทั้งหมด 1,511,911 บาท
ในชั้นจับกุม นายพงศกรฯ ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนเองจบการศึกษานิติศาสตร์ และเนติบัณฑิตไทย และเคยมีอาชีพเป็นทนายความ เป็นเจ้าของเปิดสำนักงานทนายความอยู่ที่ จ.ชลบุรี แต่ตนได้เข้าไปพัวพันกับกลุ่มชาวต่างชาติ สัญชาติออสเตรเลียที่กระทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติด จึงทำให้ไม่ได้เป็นทนาย โดยช่วงที่ผ่านมาได้ใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆ เพราะได้หนีการประกันตัวชั้นศาล โดยได้แอบถอดกำไรข้อเท้าทิ้งไปแล้ว โดยในคดีนี้ตนยืนยันว่าตนเองไม่ได้ลงมือข่มขืนผู้เสียหาย และไม่ได้มีการแบล็คเมลล์แต่อย่างใด โดยอ้างว่าหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายยินยอม และอ้างว่าเมื่อนัดพบกันแล้วและใบหน้าไม่เหมือนโปรไฟล์นั้น หญิงผู้เสียหายไม่ได้ว่าอะไรเพราะคุยกันเรียบร้อยแล้ว และไม่ได้ฉ้อโกง แต่เป็นการขอยืมเงิน โดยอ้างว่ายังติดหนี้หญิงผู้เสียหายอยู่แค่ 500,000 บาท แต่เอาเงินไปเล่นการพนันออนไลน์จนหมดแล้วจึงไม่มีคืน ส่วนที่ภายในห้องพบสมุดบัญชีและซิมโทรศัพท์จำนวนมากนั้น เป็นของคนรู้จักไม่ได้มีการทำผิดกฎหมายใดๆ ส่วนภาพผู้เสียหายในเครื่องโทรศัพท์นั้นเป็นการเอามาจากเว็บไซส์และเป็นการแลกคอลเสียวกันโดยเต็มใจทั้งสองฝ่าย ยืนยันว่าไม่ได้มีการนำภาพมาแบล็คเมลล์แต่อย่างใด ส่วนคดีอื่นๆที่ยังค้างอยู่เยอะนั้นตนเองไม่ทราบ”
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของผู้ต้องหา เพราะจากพยานหลักฐานได้วิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ต้องหา ประกอบกับภาพในโทรศัพท์ของผู้ต้องหานั้น เป็นภาพการวีดิโอคอลลักษณะที่ฝ่ายหญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายเปิดภาพกล้องฝ่ายเดียวในสภาพเปลือยกาย ส่วนฝ่ายคนร้ายนั้นไม่มีการเปิดกล้อง เป็นเช่นนี้จำนวนหลายภาพ รูปแบบและเทคนิคการฉ้อโกงที่น่ากลัว และพยานหลักฐานที่พบสมุดจดในห้องนั้นมีการวิเคราะห์จุดอ่อนของเหยื่อไว้ด้วย คนร้ายในคดีนี้จึงถือเป็นภัยต่อสังคมอย่างยิ่ง มีจิตวิทยาสูง อาศัยความเชื่อเหยื่อในการดูดวง
ผมจะไม่ยอมให้คนเหล่านี้อยู่ร่วมในสังคมกับประชาชนทั่วไปได้ เพราะการกระทำเยี่ยงนี้สามารถทำลายชีวิตคนให้ตายทั้งเป็นได้เลย และขอเตือนภัยไปยังกลุ่มผู้ใช้แอปพลิเคชั่นหาคู่เหล่านี้ ล่าสุดเราพบข้อมูลในโทรศัพท์ของคนร้าย ยังคงมี User ออนไลน์ไว้ในระบบแอปหาคู่ชื่อดัง 2 แอปพลิเคชั่น โดยใช้ชื่อโปรไฟล์ว่า “Tom” โดยใช้ภาพโปรไฟล์เป็นหนุ่มหล่อ ให้ลองตรวจสอบโดยเร็วหากผู้ใดได้รับความเสียหายถูกหลอกลวงไปแล้วหรือกำลังจะหลงเชื่อ สามารถขอคำปรึกษาได้ทางเพจเฟสบุ๊ค สืบสวนนครบาล IDMB ได้ตลอด 24 ชม.”