“ช่วงก่อนที่จะไปศึกษาต่อต่างประเทศ มีความตั้งใจว่าเราอยากจะมาทำงานทางด้านผ้าไทย เพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก รู้สึกว่าน่ามหัศจรรย์มาก มีความประทับใจในความสวยงาม ทำให้อยากเรียนรู้ในเรื่องนี้ สมเด็จย่าท่านทรงเป็นไอดอลของท่านหญิง ก่อนที่จะไปศึกษาต่อที่ปารีสก็ได้กราบบังคมทูลลา ท่านบอกว่าอย่าลืมรักษาความเป็นไทย โดยเฉพาะเรื่องของแนวคิดและรูปแบบที่เราจะนำไปผสมผสานกับความเป็นตะวันตกได้อย่างชัดเจน จึงตั้งปณิธานว่าถ้าจะช่วยเหลือประชาชนและก่อให้เกิดประโยชน์ แก่ประเทศชาติ ก็ควรเป็นสาขาวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา”
นับแต่ที่ได้ตั้งปณิธานไว้ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ก็ตั้งพระทัย มั่นในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธาน และพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” สมเด็จย่าของพระองค์ ตามแนวพระดำริ “ผ้าไทยใส่ให้สนุก” คือความสุขที่ได้เลือกใช้ศิลปหัตถกรรมไทย เพื่อให้รายได้กลับสู่ชุมชน ส่งเสริมและกระตุ้นผ้าไทยให้ทันสมัยสู่สากล เป็นที่นิยมในทุกเพศ ทุกวัย และทุกโอกาส
ด้วยพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพอันน่าทึ่ง พระองค์ได้พระราชทานแนวพระดำริในการพัฒนาผ้าไทยให้แก่กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสมาคมแม่บ้านมหาดไทย และคณะทำงานโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก โดยบูรณาการองค์ความรู้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาผ้าไทยที่เป็นมรดกของชาติ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการ ช่างทอผ้า และเยาวชนคนรุ่นใหม่ ร่วมกันสร้างสรรค์ ผ้าผืนงามที่เปรียบดังบทบันทึกทางประวัติศาสตร์ สะท้อนวิถีชีวิตอันงดงามไปด้วยภูมิปัญญาที่ถูกฟื้นคืน ผ้าทุกผืนได้ถูกถักทอขึ้นจากเส้นใยและพืชพรรณภายในชุมชน ตามหลักปรัชญา “เศรษฐกิจพอเพียง” ที่ “พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร” ได้พระราชทานไว้ และยังประโยชน์ให้แก่ปวงชนชาวไทยเสมอมา
ด้วยความเทิดทูนในพระวิสัยทัศน์และพระอัจฉริยภาพของ “สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” กระทรวงมหาดไทยจึงมุ่งมั่นสนับสนุนโครงการตามแนวพระดำริของพระองค์อย่างเต็มกำลังเสมอมา ล่าสุดได้จัดทำหนังสือเฉลิมพระเกียรติ “36 พรรษา สมเด็จ พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ทั้งในรูปแบบหนังสือเล่มและฉบับดิจิทัล นอกจากจะมีการเจาะลึกพระประวัติอย่างละเอียดทุกแง่มุม และนำเสนอพระอัจฉริยภาพครอบคลุมทั่วทุกด้านแล้ว ภายในหนังสือเล่มนี้ยังบอกเล่าเรื่องราวความตั้งพระทัยในการสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชปณิธานและพระราชภารกิจอันยิ่งใหญ่ใน “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” สมเด็จย่าของพระองค์
เป็นที่ทราบกันดีว่า “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญา” ทรงให้ความสำคัญกับงานด้านศิลปาชีพมาตั้งแต่
ทรงพระเยาว์ พระองค์ได้มีโอกาสโดยเสด็จ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ไปทรงเยี่ยมสมาชิกศิลปาชีพในภูมิภาคต่างๆ ทำให้ทรงรับรู้ว่าสมเด็จย่าของพระองค์ทรงให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดมาจากรุ่นถึงรุ่น อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้คนในชาติเกิดความรัก และภาคภูมิใจในงานหัตถศิลป์ของไทย เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพจุนเจือครอบครัว มีเกียรติและมีความภาคภูมิใจในตนเอง โดยเฉพาะการถักทอผืนผ้าด้วยมือนั้น ถือเป็นงานหัตถศิลป์ที่ได้รับการยกย่อง แสดงให้เห็นถึงความมีอารยะและภูมิปัญญาพื้นถิ่นในแต่ละภูมิภาค ด้วยเหตุนี้ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” จึงมีพระปณิธานอันแน่วแน่ที่จะสนับสนุนและส่งเสริมอาชีพให้แก่ช่างทอผ้าและผู้ประกอบการกลุ่มผ้าไทยให้เป็นอาชีพที่มีความยั่งยืน อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ผ้าทอพื้นเมืองอันทรงคุณค่าไว้ไม่ให้เลือนหายไป ท่ามกลางกระแสโลกาภิวัตน์
ด้วยทรงตระหนักถึงภูมิปัญญาพื้นถิ่น อันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ “สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา” ได้เสด็จไปทรงเยี่ยมและให้กำลังใจกลุ่มทอผ้าในภูมิภาคต่างๆอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 การเสด็จของพระองค์ก่อให้เกิดความซาบซึ้งว่า สถาบันหลักของชาติมีความห่วงใยและพร้อมที่จะช่วยเหลือบำบัดทุกข์ของประชาชนในระยะยาว การเสด็จในภูมิภาคต่างๆนี้ ทำให้ภูมิปัญญาการถักทอผืนผ้าด้วยมือได้รับความสนใจ ดังเช่นการพระราชทานผ้าลายพระราชทานต่างๆ มีการจัดการประกวด การตัดสิน และการจำหน่ายผืนผ้า สร้างรายได้ให้เศรษฐกิจท้องถิ่นมาอย่างต่อเนื่อง สมกับที่ตั้งพระปณิธานไว้ว่าถ้าจะช่วยเหลือประชาชนและก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ ก็ควรเป็นสาขาวิชาชีพที่ร่ำเรียนมา
จนถึงวันนี้ พระราชดำรัสของ “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” ยังคงดังก้องอยู่ในพระทัย…อย่าลืมรักษาความเป็นไทย!!