“ชูวิทย์” เปิดแผลใหม่แก๊งมาเฟีย 14K จากฮ่องกง ตั้งสมาคมเถื่อนกลางกรุง แจ้งจับ “หยู ซิน ฉี” ผิดม.112

“ชูวิทย์” เปิดแผลใหม่แก๊งมาเฟีย 14 K จากฮ่องกง ตั้งสมาคมเถื่อนกลางกรุง จี้ มหาดไทยตรวจสอบด่วน ลั่น บุกทำเนียบยื่นเรื่องธุรกิจผิดกฎหมายให้นายกฯ พร้อมแจ้งจับหยู ซิน ฉี 3 ข้อหารวด ผิด ม.112-พ.ร.บ.คอมพ์-หมิ่นประมาท ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” รับลูกสั่งไล่เอกซเรย์ปิดมูลนิธิ-สมาคมผีด่วน สั่งเร่งกวาดบ้านให้สะอาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจ

จากกรณีตำรวจบุกทลายรังนายหยู ซิน ฉี ประธานมณฑลส่านซี สมาคมแห่งประเทศไทย ผู้ต้องหาคดีผิด พ.ร.บ.คอมพ์, พ.ร.บ.เรี่ยไร และตั้งสมาคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยตำรวจได้สั่งเพิกถอดวีซ่าพร้อมเตรียมเนรเทศออกนอกประเทศและขึ้นแบล็กลิสต์ถาวร ตามที่เสนอข่าวให้ทราบนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งความเอาผิดนายหยู ซิน ฉี มาตรา 112 และข้อหาหมิ่นประมาท โดยมี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. รับเรื่องด้วยตัวเองโดยตรง หลังนายหยู ซิน ฉี มักแอบอ้างว่าใกล้ชิดสถาบันเบื้องสูงและถ่ายรูปคู่กับกลุ่มวีไอพี ซึ่งมีพฤติการณ์แอบอ้างหาประโยชน์ส่วนตัว ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย เป็นการดูหมิ่นที่กระทบต่อความมั่นคง และอีกข้อหาหนึ่งคือผิด พ.ร.บ.คอมพ์ โดยโจมตีว่าตนเป็นเศษขยะทั้งที่ตนพูดความจริง

นายชูวิทย์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมของนายหยู ซิน ฉี  ใช้วีซ่าเกษียณอายุซึ่งวีซ่าประเภทนี้  ต้องแสดงหลักฐานทางการเงิน  เป็นเงินฝากในบัญชีออมทรัพย์ไม่น้อยกว่า 800,000 บาท และต้องเปิดบัญชีล่วงหน้า 2 เดือน ก่อนยื่นขอวีซ่า แต่นายหยูซินฉีแค่จ่ายเงิน 2 แสนบาท และนำเงินเข้าบัญชี 800,000 บาทภายในวันเดียว พอวันรุ่งขึ้นถอนเงินในออกจากบัญชี ลักษณะเช่นนี้แสดงให้เห็นถึงความบกพร่องของเจ้าหน้าที่ ตม. ตนคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ ตม. ต้องไปขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย 

นักแฉตัวตึง กล่าวว่า ที่ผ่านมาพบว่าสมาคมหรือมูลนิธิต่าง ๆ ที่ขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย ซึ่งมีอยู่มากและไม่รู้ว่าปลัดกระทรวงมหาดไทย มีเวลาไปตรวจสอบบ้างหรือไม่ เช่น ที่ จ.กาญจนบุรี จังหวัดเดียวมีกว่า 600  สมาคม และสมาคมเถื่อนอีกแห่ง คือสมาคมหงเหมินแห่งประเทศไทย ซึ่งได้จดทะเบียนแต่ไม่ถูกต้องตามข้อระเบียบ เลยเป็นสมาคมเถื่อนที่มีนายไบ๋ 1 ใน แก๊ง 14 K เป็นประธานหัวหน้าคณะสมาคม สำหรับแก๊ง 14 K เป็นกลุ่มนายทุนจากมาเก๊าฮ่องกง ซึ่งเป็นอันตรายและเป็นสมาคมเถื่อนอีกสมาคมหนึ่งของต่างชาติ ตั้งอยู่ที่ย่านถนนศรีวรา ย่านวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร อยากให้กระทรวงมหาดไทยไปตรวจสอบด้วย ในวันที่ 21 ก.พ. เวลา 13.00 น. ตนจะบุกทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นเรื่องการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศไทยให้นายกรัฐมนตรี

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า มาตรา 112  ถือเป็นการทำหน้าที่พลเมืองดีที่น่ายกย่อง เนื่องจากความผิดตามมาตรานี้ ต้องมีผู้กล่าวหา เมื่อมีผู้กล่าวหาตำรวจต้องรับทำคดี กรณีของนายหยู ซิน ฉี เชื่อว่าถ้าไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐคอยช่วยเหลือ คนเหล่านี้ไม่น่ามาได้ไกลถึงขนาดนี้  อย่างไรก็ตามวันนี้ต้องเรียนว่าสมาคมและมูลนิธิในไทยมีมาก ตอนนี้กำลังไล่เอกซเรย์  ไล่ถอนมูลนิธิและสมาคมที่ไม่มีใบขออนุญาต ปีนี้ประเทศไทยตั้งเป้าหมายรับนักท่องเที่ยว 25 ล้านคน วันนี้ต้องกวาดบ้านให้สะอาด เพื่อให้นักท่องเที่ยวมั่นใจและหลั่งไหลเข้ามาเที่ยวไทยมากขึ้น

ด้านนายวิธาร สุขการ ผอ.ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 2 กรมการปกครอง กระทรวงมหาไทย ยืนยันว่าที่ผ่านมาทางกรมปกครอง ไม่เคยทราบข้อมูลนายหยู ซิน ฉี มาก่อน พอทราบส่งเจ้าหน้าที่แจ้งความดำเนินคดีทันที ส่วนที่นายชูวิทย์เปิดข้อมูลสมาคมเถื่อนหลายร้อยแห่งใน จ.กาญจนบุรี และจังหวัดอื่น จะส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากประชาชนพบเห็นความผิดปกติ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้