2 ต.ค. 64 เวลาประมาณ 06.00 น. ร.ต.อ.สมศักดิ์ ศรีณรงค์ รอง.สว.(สอบสวน) สภ.เมืองฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุรถไฟโดยสารชนเข้ากับรถบรรทุก 10 ล้อ บริเวณจุดตัดข้ามทางรถไฟสถานีคลองเปรง ถนนสาย รพช. (สุวินทวงศ์-บางนาตราด) ม.7 ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในยานพาหนะ จึงประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฉะเชิงเทราเข้าตรวจสอบพร้อมให้การช่วยเหลือ
ที่เกิดเหตุบริเวณถนนหน้าบ้านเรือนประชาชนพบรถบรรทุก 10 ล้อ ลักษณะตู้ทึบ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว พลิกตะแคงข้าง สินค้าภายในรถหล่นกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามช่วยกันนำร่างผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นคนขับรถบริเวณช่วงขาติดอยู่ภายในรถ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ มีบาดแผลถลอกตามลำตัวออกมาจากรถได้สำเร็จ ทราบเป็นชาย อายุ 31ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ฉะเชิงเทรา
สอบถามคนขับรถบรรทุกดังกล่าวเปิดเผยว่า ตนเองขึ้นสินค้าที่คลังยูนิลิเวอร์ ฉะเชิงเทรา กำลังนำสินค้าไปส่งที่จังหวัดปัตตานี เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุเห็นไม้กั้นทางรถไฟลงมาแล้วเป็นเวลานาน สังเกตเห็นรถข้ามผ่านไปมา ตนเองจึงคิดว่าไม้กั้นทางรถไฟเสีย จึงเร่งเครื่องรถขับแอบไม้กั้นทางรถไฟขึ้นมาโดยไม่ทันระวังก่อนจะเห็นรถไฟโดยสารวิ่งเข้ามาหารถตน บีบแตรเสียงดังสนั่น ตนเองพยามเร่งเครื่องรถแต่ไม่ทันถูกรถไฟชนบริเวณด้านท้ายรถของตน ก่อนจะหมุนไถลมาอยู่ที่หน้าบ้านเรือนประชาชน
นายสุทธิศักดิ์ หวังเกษม อายุ 32 พนักงานคุมประแจ สถานีรถไฟคลองเปรง เปิดเผยว่า รถไฟขบวนดังกล่าวเป็นรถไฟโดยสารขบวนที่ 384 ฉะเชิงเทรา-กรุงเทพมหานคร ขณะเกิดเหตุรถไฟขบวนนี้กำลังวิ่งเข้ากรุงเทพมหานคร ตนเองได้ยินเสียงหวูดเตือนรถไฟดังต่อเนื่อง ก่อนจะได้ยินเสียงชนกันดังสนั่น จึงออกมาดูก็พบว่ารถไฟได้ชนเข้ากับรถบรรทุก 10 ล้อแล้ว ส่วนที่กั้นรถไฟใช้งานได้ตามปกติ เป็นเครื่องกั้นรถไฟอัตโนมัติ เวลาลงจะใช้เวลานาน ซึ่งเครื่องกันจะลงกั้นไม่เต็มถนน ทำให้รถที่สัญจรผ่านไปมาบริเวณนี้ มักจะขับรถแอบเครื่องกั้นข้ามทางรถไฟกันอยู่บ่อยครั้ง
เจ้าของบ้านที่รถสิบล้อไถลมาจอดอยู่หน้าบ้านเปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุตนเองได้นั่งดูข่าวอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงชนกันดังสนั่นก่อนที่จะได้ยินเสียงรถไถลมาชนเข้ากับบ้านของตน จึงเดินออกมาดู ยอมรับตกใจมากทีแรกนึกว่าคนขับจะเป็นอะไรมากกว่านี้ ซึ่งเหตุการณ์นี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่รถไฟชนรถบรรทุกแล้วรถไถลมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของตน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตามไปสอบสวนผู้บาดเจ็บเพิ่มเติมถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย