นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ พร้อมด้วยทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เดินทางมายังศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เพื่อยื่นฟ้องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ในข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พร้อมเรียกค่าเสียหายจํานวน 100 ล้านบาท
ทนายอนันต์ชัย กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ทนายตั้มได้มีการจัดแถลงข่าวพร้อมมีการนําภาพเสมือนจริงมาประกอบ ซึ่งทนายตั้มมีอาชีพเป็นทนายความ ไม่มีอำนาจหน้าที่ และเหตุผลที่จะมาแถลงข่าวอันเป็นการประจานนายชูวิทย์ กล่าวหาว่ารับเงินจากจากสารวัตรซัว จํานวน 10 ล้านบาท แต่ความเป็นจริง แค่ 6 ล้านบาท และรับจากบุคคลอื่น ไม่ใช่สารวัตรซัว
และยังกล่าวในการแถลงอีกว่า การกระทำของนายชูวิทย์ ในลักษณะดังกล่าวทำมาหลายครั้งหลายหน กล่าวหานายชูวิทย์ว่าเป็น “โรบินฮู้ดจอมปลอม แฉไป ไถไป” หรือในที่นี้หมายถึงเอาเงินจากเว็บการพนันออนไลน์ผิดกฎหมายไปบริจาค
ทนายอนันต์ชัย ระบุว่า การแถลงของทนายตั้มนั้นก่อให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นจึงดําเนินการยื่นฟ้องในข้อหา “หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา” พร้อมเรียกร้องความเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท และให้ลงโฆษณาคำพิพากษาคำขอโทษ ต่อสื่อมวลชน 45 สื่อ ทั้ง สื่อโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ และสื่อออนไลน์ โดยศาลได้รับฟ้อง และนัดไต่สวนวันที่ 19 มิถุนายน 2566 เวลา 13.00 น. นอกจากนี้แล้ว ทนายตั้มยังเข้าข่าวผิดมรรยาททนายตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 ว่าด้วยมรรยาททนายความ พ.ศ. 2529 ข้อ 18 โดยในวันจันทร์ที่ 10 เวลาประมาณ 10.00 น. จะเดินทางไปร้องที่สภาทนายความเพื่อให้สอบเรื่องมรรยาททนาย ซึ่งมีโทษสูงสุดถึงขั้นลบชื่อออกจากการเป็นทนายความ
ทั้งนี้ทนายอนันต์ชัย กล่าวถึงกรณีที่นายชูวิทย์จะไปขอเพิกถอนคุ้มครองชั่วคราวที่ไม่ให้นายชูวิทย์พูดเรื่องกัญชา ว่า คุณชูวิทย์สามารถพูดเรื่องกัญชาได้ แต่ไม่ต้องเอ่ยชื่อพรรคการเมืองดังกล่าว และยืนยันว่าไม่ใช่ศรีธนญชัย แต่ทำเพื่อประโยชน์สาธารณะ
ด้านนายชูวิทย์ กล่าวว่า ทนายตั้มไม่ได้มีความจริงใจ และใช้สื่อเป็นเครื่องมือ อีกทั้งมีการหาลูกความโดยวิธีการแปลกๆ ซึ่งเขาต้องเรียนรู้คุณธรรมให้ดีในอาชีพทนายความ ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องใช้คุณธรรมอย่างสูง การที่เขาร่ำรวยขึ้นมา ตนก็ไม่เคยไปยุ่ง จนกระทั่งมายุ่งกับตนเองก่อน ก็คงจะอโหสิกรรมไม่ได้ และหากได้เงินมาจะนำไปทำบุญ โดยไม่ใช้แม้แต่บาทเดียว