เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีมัสยิดชาวชีอะห์ ในอัฟกานิสถาน สังเวยอย่างน้อย 50 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 ราย นับเป็นเหตุนองเลือดรุนแรงที่สุดในอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่สหรัฐฯถอนทหารออกไป
สำนักข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดรุนแรงในมัสยิด “โกซาร์ เอ ซายเอ็ด อะบัด” ซึ่งเป็นมัสยิดของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ในเมืองคุนดุซ ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน โดยรายงานข่าวระบุว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในช่วงวันศุกร์ ที่มีชาวมุสลิมจำนวนมากเดินทางไปประกอบพิธีทางศาสนาที่มัสยิดแห่งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากถึง 50 ศพ บาดเจ็บกว่า 100 ราย นับเป็นเหตุนองเลือดรุนแรงที่สุดในอัฟกานิสถาน นับตั้งแต่สหรัฐฯ ถอนทหารออกไป
ผู้อยู่ในเหตุการณ์ที่รอดชีวิตมาได้เล่าว่า เหตุระเบิดเกิดขึ้นในขณะที่มีหลายคนกำลังประกอบพิธีทางศาสนาอยู่ในมัสยิด และแรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่ตำรวจระบุว่าอาจเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย แต่ยังอยู่ระหว่างการสืบสวน
ด้านโฆษกกลุ่มตาลีบัน ซาบิอุลเลาะห์ มูจาฮิด กล่าวว่า ในครั้งนี้มัสยิดชาวชีอะห์ตกเป็นเป้าโจมตี ในขณะที่กองกำลังพิเศษตาลีบันกำลังไปถึงสถานที่เกิดเหตุและสืบสวนเหตุการณ์นองเลือดที่เกิดขึ้น
หลังเกิดเหตุกลุ่มนักรบอิสลามิกหัวรุนแรงนิกายสุหนี่ ในจังหวัดโคราซาน ที่มีชื่อว่ากลุ่ม “ไอซิส-เคพี” (The Islamic State in Khorasan Province-ISKP) ออกแถลงการณ์ผ่านทีวีท้องถิ่น “เทเลแกรม” ระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการโจมตีมัสยิดแห่งนี้
ทั้งนี้ กองกำลังไอซิส ในอัฟกานิสถานมักจะออกมาก่อเหตุระเบิดรุนแรงต่อต้านรัฐบาลตาลีบัน ส่วนใหญ่เป็นการก่อเหตุทางพื้นที่ภาคตะวันออกของประเทศ ก่อนหน้านี้เพิ่งวางระเบิด 2 ครั้งในกรุงคาบูล.