ลูกชายเผยอาการล่าสุด!! เหตุทางเลื่อนสนามบินดูดขาผู้โดยสาร แม่เล่าสาเหตุที่ล้ม-การช่วยเหลือมาช้า

ลูกชายเผยอาการล่าสุดหลังการผ่าตัด เหตุทางเลื่อนสนามบินดูดขาผู้โดยสาร แม่เล่าสาเหตุที่ล้ม ชี้การช่วยเหลือมาช้า

กรณีผู้โดยสารหญิงวัย 57 ปี โดนทางเลื่อนในสนามบินดอนเมืองหนีบขา จนได้รับบาดเจ็บหนักขาซ้ายขาด ล่าสุด ลูกชายของผู้บาดเจ็บได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ระบุว่า

ส่วนที่ 1 อัพเดทอาการของคุณแม่ในเบื้องต้น

1.คุณแม่ฟื้นตัวจากการผ่าในครั้งแรกได้ผลเป็นที่น่าพอใจในเบื้องต้น ทานข้าวได้เอง เริ่มพูดคุยได้มากขึ้น อย่างไรก็ตามทางทีมแพทย์ยังลงความเห็นให้อยู่ในสถานะเฝ้าระวังการติดเชื้อ ยังคงต้องอยู่ต่อในห้อง ICU อีกสักพัก และใคร่ขอความอนุเคราะห์งดเยี่ยมเพื่อให้คุณแม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ ซึ่งจะมีผลต่อการฟื้นตัวของบาดแผลและการรักษาฟื้นฟูในระยะยาว.

2. สภาพจิตใจของคุณแม่เข้มแข็งมาก ๆ ครับ วันนี้เป็นวันที่ 2 หลังวันเกิดเหตุ คุณแม่บอกว่าคุณแม่จะสู้ คุณแม่จะต้องกลับมาเดินได้อีกครั้งครับ คุณแม่ได้ปรึกษากับทั้งทีมแพทย์และครอบครัวในกระบวนการรักษาฟื้นฟูระยะยาวรวมถึงการใส่ขาเทียม ผมได้ติดต่อเพื่อน ๆ ที่ทำงานในบริษัทนวัตกรรมขาเทียมชั้นนำทั้งในในต่างประเทศ ทุก ๆ คนบอกว่ามีความเป็นไปได้มาก ๆ ที่คุณแม่จะกลับมาเดินและใช้ชีวิตได้จนเกือบเหมือนปกติครับ โดยทั้งคุณแม่และครอบครัวของเราจะสู้อย่างเต็มที่ทั้งในเรื่อง สภาพร่างกาย สภาพจิตใจ และ กำลังทรัพย์ (พวกเราดีใจมากจริง ๆ ที่ยังมีความเป็นไปได้ในเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นครั้งนี้)อย่างไรก็ตามครอบครัวเลือกให้มีจิตแพทย์เข้าร่วมในขั้นตอนการเยียวยารักษา เพื่อให้คุณแม่ฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจครับ.

3. คุณแม่ขอฝากผมมาขอโทษพี่ ๆ สื่อมวลชน และ สังคมที่ยังไม่สามารถออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้น ณ วันเกิดเหตุได้ เพราะตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงวันนี้ คุณแม่ยังไม่ได้มีสติสัมปชัญญะเต็มร้อย เพราะความตกใจ ความเศร้า และอาการของฤทธิ์ยาแก้ปวด คุณแม่ขอเวลาทุก ๆ ท่านที่เกี่ยวข้องพักฟื้นอีกสักหน่อย และขอทบทวน เรียบเรียง เรื่องราวและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งปรึกษาทนายความของครอบครัว เพื่อให้ข้อเท็จจริงที่จะได้มีเผยแพร่ออกไปให้เป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด.

4. คุณแม่ขอฝากขอบคุณทุก ๆ กำลังใจที่ได้รับจากทุก ๆ ท่านอีกครั้ง ต้องยอมรับว่าคุณแม่ไม่เคยคิดว่าจะมีกำลังใจหลั่งไหลกันเข้ามา ทั้งจาก ญาติมิตร คนสนิท คนรู้จัก และคนที่ไม่รู้จัก ทุก ๆกำลังใจช่วยเยียวยาจิตใจของคุณแม่มาก ๆ จริง ๆ ครับ.5. คุณแม่ขอให้ผมให้ข้อมูลที่เผยแพร่โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้พูดถึงถึงเหตุการณ์ในวันนั้น ท่านได้ตั้งคำถามในหลายประเด็นจากข้อสมมติฐานจากแถลงการณ์ ซึ่งทำให้คุณแม่ยังคงร้องไห้และมีอาการซึมเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางครอบครัวจึงยืนยันที่จะจำกัดการเข้าถึงข่าวสารของคุณแม่ และให้ผมผู้เป็นลูกชายคนโตเป็นตัวแทนในการสื่อสารและเปิดเผยข้อมูลจนกว่าคุณแม่จะพร้อมครับ

ส่วนที่ 2 สานส์จากครอบครัวถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน

  1. ก่อนอื่นทางครอบครัวต้องขอขอบคุณน้ำใจและกำลังใจจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ที่เข้ามาเยี่ยมแสดงความจริงใจและให้กำลังใจ รวมไปถึงทางทีมผู้บริหารทางท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานไทย ผู้ติดตาม และหน่วยงานต่าง ๆ พวกเรามีความซาบซึ้งน้ำใจของทุกท่าน นอกจากกำลังใจ เรายังได้รับคำสัญญาที่จะช่วยเหลือดูแลการรักษาพยาบาลอย่างเต็มที่จนกว่าคุณแม่จะหายดี หรือกลับมาเดินได้ดังเดิมครอบครัวได้มีการพูดคุยกับทาง ผอ.ของทั้งสองหน่วยงาน ทั้งสองท่านได้ชี้แจงเจตนารมย์ที่จะรับผิดและช่วยเหลือเยียวยา จึงขอให้ครอบครัวสบายใจในกระบวนการ อีกทั้งชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดภายในเขตอาคารของการท่าฯ ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพวกท่าน รวมไปถึงคำชี้แจงอย่างไม่เป็นทางการสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น.
  2. คำชี้แจงจากทางครอบครัว สิ่งที่เราจะโฟกัสรองจากการรักษาของคุณแม่คือ ข้อเท็จจริง สำหรับเรื่องราวที่เกิด ทางครอบครัวได้ชี้แจงประเด็นที่เคลือบแคลงใจไปยังการท่าฯ ในประเด็นต่าง ๆดังต่อไปนี้

    2.1 คุณแม่เล่าว่าในตอนเกิดเหตุ ท่านได้เดินอย่างปกติจนกระทั่งใกล้ถึงจุดสิ้นสุดทางเลื่อน (ประมาณ 2-3 แผ่นเหล็กแพลทฟอร์ม) ทางเลื่อนแผ่นหนึ่งก็ยุบตัวลงและดูดขาของคุณแม่ลงไป
    2.2 คุณแม่เห็นว่าช่วงเวลาตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงการเข้าช่วยเหลือกู้ภัย ใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน ถ้าหากเร็วกว่านี้อาจจะสามารถช่วยลดการสูญเสีย หรือ ท่านอาจจะไม่ต้องเสียขาไป ทุก ๆ วินาทีที่ขาท่านติดอยู่ในเครื่องมันคือทุกวินาทีที่ทรมานที่สุดในชีวิตของท่านครับผอ.ทั้งสองท่านก็รับปากและจะรีบตรวจสอบให้เร็วที่สุด.
  3. นอกจากนี้ทางครอบครัวได้ยื่นหนังสือโดยตรงในระหว่างการพูดคุยเพื่อที่จะขอ

    3.1 หลักฐานทั้งหมดที่สามารถชี้แจงเรื่องราวที่เกิดอย่างตรงไปตรงมา
    3.2 การอนุญาตให้ครอบครัวแต่งตั้งตัวแทน เพื่อเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการทีมคณะทำงานตรวจสอบ เพื่อให้ผลการตรวจสอบเป็นไปอย่างตรงไปตรงมาและไร้ขอสงสัยซึ่งทางท่านผอ.ทั้งสองท่านก็ตอบรับ และจะนำไปพิจารณาและจะช่วยประสานงานอย่างเร็วที่สุด.
  4. พวกเราต้องขอขอบพระคุณสื่อมวลชนทุกท่านที่นำเสนอข่าวจนเป็นที่สนใจของสังคมในเวลานี้ ซึ่งทำให้เราได้รับพลังที่แข็งแรงจากทุกคนในสังคมและสื่อโซเชียล ที่จะช่วยวิเคราะห์และตั้งข้อสังเกตุในเหตุการณ์ที่เกิด แต่ในขณะเดียวกันพวกเราต้องขออภัยที่ยังไม่สามารถตอบทุกคำถามที่ได้รับ โดยเฉพาะเรื่องการเจรจาค่าเยียวยา ทางครอบครัวต้องขอเรียนด้วยความเคารพว่ายังไม่พร้อมเจรจา มันเป็นเรื่องที่ยากและโหดร้ายสำหรับเราที่จะต้องตีราคา “ขาของคุณแม่” ของพวกเราในเวลาแบบนี้ อีกทั้งบางคำถามอาจจะมีผลต่อรูปคดีตามคำแนะนำของทนายความของครอบครัว พวกเราขอทำใจให้แข็งแรงอีกสักหน่อย แล้วพวกเราจะกลับมาสู้ในเรื่องนี้อย่างมีสติครับ.
  5. นอกจากนี้ครอบครัวขอความอนุเคราะห์ จากทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการนำเสนอหรือแชร์ข่าว ให้ส่งต่ออย่างระมัดระวังทั้งในส่วนของรูปภาพและข้อความ เนื่องจากการส่งต่อจะถูกบันทึกอยู่ในดิจิตอลฟุตปรินท์ทั้งหมด ผมมีความกังวลหากในอนาคตอีก 6 เดือน 1ปี หรือ 10ปี เมื่อคุณแม่ย้อนกลับมาดูและเห็นภาพหรือเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม มันคงทำร้ายจิตใจของคุณแม่มากจริง ๆ ครับ
  6. ทางครอบครัวขอชี้แจงอีกครั้งว่าไม่ได้มีเจตนาให้เกิดการลงโทษบุคคลใด แต่เพื่อพัฒนามาตรฐานความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของทุก ๆ คน และขอวิงวอนให้เหตุการณ์นี้เป็นครั้งสุดท้าย คุณแม่ของผมเสียขาไปแล้วครับ ผมและครอบครัวไม่ต้องการให้ใครสูญเสียอาชีพการงาน ทรัพย์สิน และ ร่างกายอีก

ท้ายนี้ผมขอเรียนแจ้งว่าผมจะต้องเดินทางไปทำภารกิจที่ต่างประเทศเป็นระยะเวลาหนึ่ง จึงอาจจะไม่สามารถคอยอัพเดทอาการให้ทุกท่านทราบได้ตลอดเวลา ซึ่งทางคุณพ่อและครอบครัวจะเป็นผู้ดูแลคุณแม่อย่างใกล้ชิดหากท่านใดมีคำถามหรือต้องการข้อมูลสอบถามใดในกรณีเร่งด่วน ขอให้รบกวนติดต่อทาง Line ผมเท่านั้นครับทางครอบครัวหวังเป็นอย่างยิ่งว่าในการเขียนจดหมายเปิดผนึกฉบับหน้า จะเป็นการอัพเดทว่าคุณแม่พ้นขีดอันตรายแล้วครับ