นายกฯ สมยศ ยังยืนยันพร้อมลาออกตามคำสั่งลุงป้อม ไม่ยึดติด แต่รอการดำเนินให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับ ของสมาคมฯ
เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2566 พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงการลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมฯ ว่า “ขณะนี้เรื่องการลาออกยังอยู่ระหว่างการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อบังคับลักษณะปกครองสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ที่ระบุเรื่องการพ้นจากตำแหน่งของนายกสมาคมฯ ไว้ว่า หมดวาระ 4 ปี, ขาดการประชุมเกิน 4 ครั้ง, กระทำการหรืองดเว้นกระทำการในการปฏิบัติหน้าที่ และที่ประชุมใหญ่มีมติถอดถอน ฯลฯ
ซึ่งตรงนี้ก็ได้รับคำแนะนำจาก ฟีฟ่า,เอเอฟซี และ การกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าหากการลาออกด้วยเหตุผลที่ขัดต่อข้อบังคับ หรือระเบียบของฟีฟ่า จะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อวงการฟุตบอลไทย
“โดย เอเอฟเอฟ, เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ได้ให้ความสนใจและมีการสอบถามข้อมูลถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมแสดงความเป็นห่วงต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลไทย และอาจเสียโอกาสในการพัฒนาจากความร่วมมือในการทำโครงการต่างๆ ร่วมกัน รวมถึงกระทบต่อการที่ประเทศไทยจะได้เป็นเจ้าภาพการประชุมใหญ่สามัญประจำปี FIFA Congress ครั้งที่ 74 ในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 หากเหตุผลของการลาออกขัดต่อข้อบังคับฯ ทั้งนี้ จะมีหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงเป็นลายลักษณ์อักษร เข้ามาอย่างเป็นทางการอีกครั้ง”
“ในระหว่างนี้ ผมยังคงต้องปฏิบัตหน้าที่ต่อไปตามปกติ ยืนยันว่าไม่ได้ยึดติดตำแหน่ง และไม่คิดจะหนีปัญหา โดยจะมีการประชุมสภากรรมการในวันที่ 3 กรกฏาคม 2566 เพื่อหาแนวทางการแก้ปัญหา อย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ให้สำเร็จลุล่วง ตามแนวทางของสโมสรสมาชิก หากไม่ขัดต่อข้อบังคับฯ เพื่อให้วงการฟุตบอลสามารถเดินหน้าต่อไปได้ทั้งองคาพยพ โดยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนผู้มีความรู้ความสามารถ มีศักยภาพ ที่จะเสียสละ เข้ามาแก้ปัญหา และพัฒนาให้วงการฟุตบอลต่อไป”
“ผมยืนยันว่า จะปฏิบัติตามคำสั่งของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิค ที่แจ้งในการประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคฯ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 3566 ที่ผ่านมา ซึ่งท่านได้มีคำสั่งให้ผมลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เพื่อรับผิดชอบกับผลการแข่งขันฟุตบอลซีเกมส์ และการทะเลาะวิวาท ที่ประเทศกัมพูชา โดยจากนี้จะได้หารือกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามขั้นตอนตามข้อบังคับฯ ให้ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม
ขอขอบคุณ
ข้อมูล :Ttunyaluk Yyooyen