“ธนกร” จี้!! “ก้าวไกล” ปรามด้อมส้ม หยุดข่มขู่คุกคาม ส.ว. ย้ำ!! หากตั้งรัฐบาลไม่ได้ ควรให้พรรคอื่น

“ธนกร” จี้ “พิธา-ก้าวไกล” ปรามด้อมส้ม หยุดข่มขู่คุกคาม ส.ว.-ครอบครัว เพิ่มอุณหภูมิความขัดแย้งในบ้านเมือง พรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ควรให้อันดับสองและสามทำแทน

นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติให้สัมภาษณ์ ว่า จากกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงในรัฐสภาไม่ผ่านการโหวตให้เป็นนายกฯ ทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนออกมาใช้สื่อโซเชียลบูลลี่ ด่าทอรวมไปถึงการแบนธุรกิจส.ว.เข้าข่ายคุกคามครอบครัวของวุฒิสมาชิกหลายคน ซึ่งได้ทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวมองว่า นายพิธาและพรรคก้าวไกล ควรจะสื่อสารทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้สนับสนุนให้มากกว่านี้

ไม่ควรใช้วิธีในลักษณะข่มขู่คุกคาม เพราะเป็นการกระทำเข้าข่ายผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สร้างความแตกแยกระหว่างประชาชน และเป็นการเพิ่มอุณหภูมิความขัดแย้งในบ้านเมืองมากขึ้นไปอีก ซึ่งควรที่จะเคารพการตัดสินใจและประชาธิปไตยเสียงข้างมากในรัฐสภา ตามที่พรรคก้าวไกลมีเจตนารมย์มาโดยตลอด

เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่นายพิธาได้ออกแถลงการณ์เปิด 2 สมรภูมิเพื่อต่อสู้ให้ไปถึงการจัดตั้งรัฐบาล ควบคู่ไปกับการเคลื่อนมวลชนออกมาชุมนุม นายธนกร ระบุว่า เวลานี้นายพิธาและพรรคก้าวไกล สมควรอย่างยิ่งที่จะเดินหน้าพูดคุยขอการสนับสนุนจากวุฒิสภา ไม่ใช่ยื่นแก้ไขมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ส.ว. แบบนี้เพราะจะยิ่งจะทำให้ยากขึ้นไปอีก จะไปเอาเสียงมาจากไหนถึง 84 สว. ขนาด 60 สว.ยังหาไม่ได้เลย อีกทั้งยังปลุกให้มวลชนไปกดดัน บูลลี่ ข่มขู่ คุกคาม ครอบครัวส.ว.ซึ่งมองว่าจะไม่เป็นผลดีต่อทุกฝ่าย และทราบมาว่าทางส.ว.ก็ได้มีการให้ฝ่ายกฎหมายเตรียมดำเนินคดีกับผู้คุกคามทุกรายแล้ว ท้ายที่สุด หากนายพิธา และพรรคก้าวไกล ยังยึดถือแนวทางการเมืองลักษณะนี้ ประเทศและประชาชนจะมีแต่ความแตกแยก เสียหาย

“ขอฝากไปถึงนายพิธา รวมถึงแกนนำของพรรคก้าวไกล ช่วยสร้างความเข้าใจแก่แฟนคลับผู้สนับสนุน ให้เคารพสิทธิของผู้อื่น เคารพกฎหมายด้วย ขอให้นึกถึงประเทศชาติบ้านเมือง นึกถึงความสงบสุข ตลอด 9 ปีที่ผ่านมา เวลานี้ควรมุ่งหาเสียงสนับสนุนจากส.ว. ด้วยเหตุด้วยผล ด้วยความจริงใจ เพื่อผ่านความเห็นชอบ ก้าวขึ้นสู่การเป็นนายกฯและจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพื่อเข้าไปพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น ไม่ใช่การปิดสวิตซ์ส.ว. แต่ถ้ายังคงใช้วาทะกรรม ปลุกระดมมวลชนสร้างความขัดแย้งแบบนี้ สุดท้ายประเทศชาติ

อาจกลายเป็นสมรภูมิรบอย่างที่นายพิธาแถลงก็เป็นได้ แต่ประเทศของเรา ไม่ใช่ สมรภูมิรบ จึงอยากให้นายพิธาและพรรคก้าวไกลได้ทบทวนในเรื่องนี้ นอกจากนั้นผมพูดมาตลอดถ้าพรรคอันดับหนึ่งตั้งรัฐบาลไม่ได้ก็ควรให้อันดับสองและสามเป็นคนจัดตั้งไม่ควรเสียเวลาเพราะคนทั้งประเทศรอรัฐบาลใหม่อยู่ไม่ใช่พอตั้งไม่ได้แล้วไปปลุกม็อบลงถนน”นายธนกรกล่าว