“เมืองจันท์” อ่วมน้ำป่าถล่ม ชาวบ้านเก็บของรีบอพยพ “ร้อยเอ็ด” พนังกั้นน้ำแตก “มหาสารคาม”ยังระทมน้ำท่วมนาข้าว

กรมอุตุฯเตือนเฝ้าระวังฤทธิ์พายุ “คมปาซุ” ทำให้เกิดฝนตก หนักต่อเนื่อง พื้นที่ลุ่มต่ำระวังน้ำไหลหลาก ที่เมืองจันท์อ่วมน้ำป่าถล่ม ชาวบ้านเก็บของไม่ทันรีบอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิง ร้อยเอ็ดพนังกั้นน้ำแตก มหาสารคามยังระทมท่วมนาข้าว สุราษฎร์เตือนพื้นที่ริมน้ำเฝ้าระวัง กระบี่คลื่นสูง 4 เมตร ซัดเรือล่ม ปภ.แจงน้ำยังท่วม 11 จว. ส่วนนายกฯสั่งพร้อมจ่ายเงินเยียวยา

ฤทธิ์พายุ “ไลออนร็อก” และ “คมปาซุ” พัดผ่านประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในพื้นที่ภาคอีสาน กลาง และภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตก หนัก คลื่นลมแรง และน้ำท่วมฉับพลัน ชาวบ้านเดือดร้อนต้องอพยพไปอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ส่วนเจ้าหน้าที่ระดมกำลังให้ความช่วยเหลือ

อุตุฯ เตือนพายุ “คมปาซุ”

ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 ต.ค. กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 6 พายุโซนร้อนกำลังแรง “คมปาซุ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะ ไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนาม ตอนบนในช่วงวันที่ 14 ต.ค. หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลง ตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีฝนเพิ่มขึ้นและ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคตะวันออก เฉียงเหนือในช่วงวันดังกล่าว อนึ่ง ร่องมรสุมได้พาด ผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนล่าง ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและ อ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนล่างคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณ ที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือ เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

โคราชเฝ้าระวังพื้นที่ 4 ลุ่มน้ำ

นายวิเชียร จันทรโณทัย ผวจ.นครราชสีมา กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนต่างๆของจังหวัดนครราชสีมาและพายุคมปาซุ ว่า หลังจากที่จะมีพายุ เข้ามาในพื้นที่ ช่วงนี้ต้องแจ้งเตือนไปยังประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำต่างๆทั้ง 4 ลุ่มน้ำ ประกอบด้วยลำตะคอง ลำพระเพลิง ลำมูลบน และลำเชียงไกร ติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อน และปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิด ถึงแม้ว่าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จะลดลงกลับเข้าสู่ภาวะปกติหลายพื้นที่แล้ว แต่หากมีพายุฝน เข้ามาต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอีกครั้ง สั่งย้ำเตือนไปยังนายอำเภอ ส่วนราชการ ผู้นำชุมชน กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน ให้เฝ้าระวังเรื่องน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มน้ำลำเชียงไกรน่าเป็นห่วง เนื่องจากน้ำยังท่วมอยู่จะไหลไปลำสะแทด อ.ประทาย อ.ชุมพวง และ อ.พิมาย ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม กว่า 700 หลังคาเรือน หากปริมาณฝนยังตกมาต่อเนื่องพี่น้องทั้ง 700 หลังคาเรือน อาจจะต้องประสบภัยน้ำท่วมซ้ำเติมไปอีก

ลำพระเพลิงเต็มความจุ

นายวิเชียรกล่าวอีกว่า ส่วนอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง ขณะนี้มีน้ำใกล้เต็มความจุ เจ้าหน้าที่ระบายน้ำออกจากอ่างประมาณวันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) ถือว่ามากกว่าทุกอ่างเก็บน้ำที่ปล่อยน้ำออกจากอ่าง ส่วนอ่างเก็บน้ำลำเชียงไกรตอนล่างกลับ เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ล่าสุด มีปริมาณน้ำในอ่าง 50 เปอร์เซ็นต์ของความจุอ่าง คาดว่าหมดหน้าฝนน่าจะ มีน้ำในอ่างไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 แน่นอน อยากฝากถึงผู้ปกครองในช่วงฝนตกน้ำท่วมให้ดูแลบุตรหลานให้ดี โดยเฉพาะการลงเล่นน้ำในแหล่งน้ำหรือพื้นที่น้ำท่วมขัง และการหาปลาให้ระมัดระวัง เนื่องจากมีเหตุคนจมน้ำเสียชีวิตในลักษณะนี้บ่อยครั้ง

กันทรวิชัยเร่งอพยพ

สถานการณ์น้ำชีที่เอ่อท่วมพื้นที่ จ.มหาสารคาม มวลน้ำส่วนใหญ่ไหลมาจาก อ.โกสุมพิสัย ไปถึง อ.กันทรวิชัย และ อ.เมือง ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ชั่วโมงละ 1-2 ซม. ส่วนที่บ้านกุดหัวช้าง หมู่ 11 ต.ขามเรียง อ.กันทรวิชัย มีผู้ประสบภัย 61 ครัวเรือน 160 ราย เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลขามเรียงตั้งเต็นท์เป็น จุดพักคอยที่หน้าหมู่บ้าน เพื่อให้ชาวบ้านอพยพมาพัก ชั่วคราว ระดับน้ำสูงถึงหน้าอก ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ

ร้อยเอ็ดพนังกั้นน้ำแตกท่วมนาข้าว

ส่วนที่บ้านหนองแค ต.ม่วงลาด อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด มวลน้ำชีจาก จ.ชัยภูมิ ไหลเข้าท่วมพื้นที่ ถนนถูกตัดขาดกว่า 1.5 กม. กระแสน้ำไหลเชี่ยวเข้าท่วมนาข้าวที่กำลังตั้งท้องใกล้เก็บเกี่ยว ระดับน้ำสูง มิดหัว เสียหายกว่า 3,000 ไร่ สภาพรอบหมู่บ้านกลาย เป็นเกาะกลางน้ำ ต้องใช้เรือสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยอุดมเวทนำเรือท้องแบนเข้าไป ช่วยขนย้ายข้าวของขึ้นที่สูง และสร้างเพิงพักนอนบนที่สูง ส่วนที่บ้านหนองโดน ต.แสนชาติ อ.จังหาร พนังกั้นน้ำชีแตกกว้างประมาณ 5 เมตร น้ำไหลเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรกว่า 500 ไร่ เจ้าหน้าที่ อบต. แสนชาติ ช่วยเหลือชาวบ้านยกของขึ้นที่สูง และตั้ง ศูนย์เตรียมอพยพหากมีระดับน้ำสูงขึ้น

ฝนถล่มเมืองจันท์

จากอิทธิพลดีเปรสชันไลออนร็อก และพายุ คมปาซุ ส่งผลให้พื้นที่ จ.จันทบุรี เกิดฝนตกลงมาอย่าง ต่อเนื่องหลายวัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำ อาทิ ริมคลองน้ำใส คลองสระบาป คลองเพชรดาวเรือง คลองพลับพลา และคลองสาขา รวมทั้งพื้นที่ลุ่มต่ำ เชิงเขาสระบาป หมู่บ้านจัดสรร และชุมชนที่อยู่ในเขต อ.เมืองจันทบุรี เขตเทศบาลเมืองจันทบุรี เทศบาลเมืองท่าช้าง เทศบาลพลับพลานารายณ์ เทศบาลเกาะขวาง อบต.ท่าช้าง น้ำท่วมสูงต้องเร่งขนย้ายสิ่งของ กลางดึก ขณะที่ตำรวจ สภ.เมืองจันทบุรี ไปตรวจสอบ ชายจมน้ำที่ชั้นล่างอาคารพาณิชย์ ต.วัดใหม่ พบศพ นายกมล ลิธรรม อายุ 38 ปี สอบถามทราบว่าผู้ตาย ป่วยเป็นลมชักเดินออกมาหน้าบ้านจมน้ำเสียชีวิต

เปิดศูนย์อพยพชั่วคราว

ด้านนายสุธี ทองแย้ม ผวจ.จันทบุรี สั่งบูรณาการหน่วยงานเร่งเข้าช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบขนย้ายสิ่งของ และอพยพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยง ตลอดทั้งคืน มาพักอาศัยที่ศาลากลางจังหวัดเปิดเป็น ศูนย์อพยพผู้ประสบภัยชั่วคราว มีผู้ประสบภัยจาก หมู่บ้านนาฏศิลป์ บ้านมั่นคงเพิ่มพูนทรัพย์ ชุมชนเนินเอฟเอ็ม หมู่บ้านไชยยันต์ และชุมชนวัดใหม่ มาพักอาศัยหลบภัย ชาวบ้านส่วนใหญ่บอกว่า น้ำท่วม กลางดึก ตั้งตัวไม่ทัน ต้องทิ้งสิ่งของ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่จำเป็น เก็บได้แต่ของมีค่าบางรายการและรีบออกจากบ้าน เบื้องต้นถนนสายหลักเชื่อมต่อ จังหวัดยังใช้งานได้ตามปกติ มีเพียงถนนในหมู่บ้าน บ้านจัดสรร ตรอก ซอก ซอย ที่น้ำท่วมสูงรถไม่สามารถ ขับผ่านได้ ต้องใช้เรือเป็นพาหนะ ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการโรงแรมและที่พัก รีสอร์ตอีกหลายแห่ง ต่างได้รับผลกระทบไปด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะชบารีสอร์ตอยู่ในพื้นที่หมู่ 2 ถนนสุขุมวิท ต.ท่าช้าง อ.เมืองจันทบุรี อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ถูกกระแสน้ำหลากเอ่อเข้าท่วมห้องพักและพื้นที่อีกหลายส่วนจนได้รับความเสียหาย พนักงานต้องรีบขนย้ายเตียงและสิ่งของ มีค่าภายในห้องพักขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสูงถึงอก

นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนในพื้นที่ อ.เมืองจันทบุรี โดยเฉพาะที่บริเวณหมู่บ้าน ล่างพูลทรัพย์ แถววิทยาลัยนาฏศิลป์ ในเขตอำเภอเมือง ได้รับความเสียหายหลายร้อยหลังคาเรือน ระดับน้ำท่วมสูง ถึงหน้าอก สั่งการด่วนที่สุดให้กรมเจ้าท่า โดยสำนักงาน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาจันทบุรี สำนักงานพัฒนาและบำรุง รักษาทางน้ำที่ 5 เร่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ยานพาหนะ เรือท้องแบน ลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือประชาชนเป็นการด่วนเเล้ว

ปลัด สธ.ช่วยกลุ่มเปราะบาง

นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ที่ จ.จันทบุรี ตราด และปราจีนบุรี เกิดน้ำท่วมฉับพลัน สถานพยาบาลหลายแห่งได้รับความเสียหาย มอบหมายให้ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 6 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สำรวจประเมินความเสียหายของสถานพยาบาล และวางแนวทางป้องกันไม่ให้กระทบกับการให้บริการประชาชน พร้อมมอบหน่วยงานสาธารณสุขบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ให้การดูแลผู้ประสบภัย โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วยติดเตียง อย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

สุราษฎร์เตือนพื้นที่เสี่ยง

สถานการณ์น้ำในแม่น้ำคลองยัน ณ สถานีเตือนภัยเขาวง หมู่ 9 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ ธานี ระดับ 5 เมตร กระแสน้ำไหลเชี่ยวและเพิ่มระดับขึ้นเอ่อท่วมบ้านเรือนราษฎรริมแม่น้ำ และพื้นที่ทางการเกษตรบริเวณที่ลุ่มบ้างแล้ว ขณะที่ถนนบริเวณสะพานเชื่อมต่อระหว่างหมู่ 6 กับหมู่ 10 ต.บ้านยาง อ.คีรีรัฐนิคม น้ำเริ่มปริ่มๆ ขึ้นบนไหล่ทาง ประชาชนเริ่มออกไปซื้อข้าวสารอาหารแห้งกักตุนกันบ้างแล้ว เพราะเกรงน้ำท่วมฉับพลัน ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้อำเภอและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย ที่ราบลุ่ม ที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน เฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศ สถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ให้ระมัดระวังปริมาณฝนที่เพิ่มมากขึ้น และปริมาณน้ำสะสมที่อาจเป็นเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่ม ในระหว่างวันที่ 14-16 ต.ค. นอกจากนี้ให้อุทยานฯทุกแห่งหรือสถานที่ท่องเที่ยวเป็นน้ำตกและถ้ำ จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ถ้าสถานการณ์วิกฤติให้ดำเนินการปิดหรือห้ามเข้าโดยเด็ดขาด

คลื่น 4 เมตรซัดเรือล่ม

นายพันธ์พงศ์ คงแก้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จ.กระบี่ รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากเรือโดยสารระหว่างอ่าวท่าเลน-เกาะยาว ว่า เรือโดยสารลำดังกล่าวถูกคลื่นซัด ขณะวิ่งเรือนำสินค้าไปส่งยังเกาะยาว จ.พังงา คลื่นซัดเรือล่มห่างจากเกาะผักเบี้ยประมาณ 200 เมตร อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ไปตรวจสอบพบเรือโดยสารเรือปนัดดา เป็นเรือหางยาวขนส่งสินค้าระหว่างท่าเรืออ่าวท่าเลน จ.กระบี่ ไปยังเกาะยาว จ.พังงา สภาพจมทะเลเกือบทั้งลำ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือกัปตันเรือ 1 คน ผู้โดยสาร 1 คน และลูกเรืออีก 2 คน รวม 4 คนขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย สาเหตุมาจากคลื่นสูง 4 เมตรซัดเรือล่ม

กู้ภัยนำเรือไปช่วยผู้ป่วย

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ รพ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ขอความสนับสนุนกำลังและอุปกรณ์จากมูลนิธิการกุศลตาคลี ร่วมกับอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู จุดห้วยหอมตาคลี ช่วยเหลือผู้ป่วยอาเจียนเป็นเลือดที่บ้านหนองไม้เสียบ หมู่ 10 ต.ช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เป็นพื้นที่น้ำท่วมสูง นำเรือไปรับนางสมใจ ชูศรี อายุ 59 ปี มีอาการป่วยออกจากบ้านอย่างทุลักทุเลไปส่ง รพ.ตาคลี

น้ำป่าถล่มถนน 304

ส่วนพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้น้ำท่วมหลายพื้นที่ โดยเฉพาะถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา บ้านโคกอุดม หมู่ 9 ต.หนองกี่ อ.กบินทร์บุรี น้ำป่าไหลหลากลงมาและไหลข้ามถนนทั้งสองฝั่งการจราจร ทำให้บริเวณดังกล่าวน้ำระบายไม่ทัน น้ำท่วมพื้นผิวการจราจรเป็นระยะทางยาวประมาณ 1 กม. ระดับน้ำสูงถึงหัวเข่า ส่งผลให้รถยนต์ที่สัญจรผ่านไปมาต้องชะลอความเร็วตรงจุดที่มีน้ำท่วมขัง เจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งอาสากู้ภัย และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเมืองหนองกี่คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนนำสัญญาณไฟ พร้อมป้ายแจ้งเตือนประชาชน เพื่อความปลอดภัย

ถนนทรุดเป็นหลุมใหญ่

นอกจากนี้ยังพบว่าถนนสายบ้านสระดู่-บ้านสะพานหิน หมู่ 9 ช่วงบริเวณบ้านม่วง ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เกิดทรุดตัวเป็นหลุมขนาดใหญ่ทำให้รถยนต์ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ต้องปิดการจราจร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมชั่วคราว เพื่อให้การสัญจรเป็นไปได้ตามปกติ ด้านนายสนธยา เฟื่องจรัส ปลัดอำเภอนาดี กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกหนัก ทำให้มีปริมาณน้ำในคลองมากขึ้น ประกอบกับจุดที่เป็นหลุมเพิ่งวางท่อใหม่ดินอาจจะยังไม่อยู่ตัว ทำให้น้ำเซาะเข้าไปด้านข้างทำให้ดินไหลไปตามน้ำ ทำให้ถนนทรุดตัว อยู่ระหว่างดำเนินการซ่อมถนน ส่วนที่บ้านริมตลิ่งแม่น้ำป่าสัก อ.เมืองสระบุรี เกิดดินสไลด์บ้านพัง 3 หลัง

“ศักดิ์สยาม” ลุยอ่างทอง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พร้อมคณะ เดินทางไปที่เทศบาลตำบลไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง มีนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.อ่างทอง บรรยายสรุปสถานการณ์อุทกภัยจังหวัดอ่างทอง จากนั้นลงเรือไปเยี่ยมผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ ต.จรเข้ร้อง อ.ไชโย มอบถุงยังชีพให้ประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน นายศักดิ์สยามกล่าวว่า พื้นที่ จ.อ่างทอง น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นทะลักเข้าพื้นที่ ชาวบ้านเดือดร้อน 872 หลังคาเรือน ถนนสายเอเชียถูกตัดขาดคาดว่าจะใช้งบประมาณซ่อมแซม 40 ล้านบาท

ปภ.แจง 11 จว.น้ำท่วม

นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมคงเหลือ 11 จังหวัด ประกอบด้วย จ.ขอนแก่น จ.มหาสารคาม จ.นครราชสีมา จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรี จ.สุพรรณบุรี จ.สิงห์บุรี จ.อ่างทอง จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี และ จ.นครปฐม รวม 48 อำเภอ 319 ตำบล 1,765 หมู่บ้าน 92,107 ครัวเรือน ทั้งนี้ ภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายในหลายพื้นที่ แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างเร่งระบายน้ำ

นายกฯพร้อมจ่ายเยียวยา

ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำโดยรวมว่า ยอมรับว่ามีความกังวลและเป็นห่วงประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในขณะนี้ แต่เตรียมการไว้ให้พร้อมแล้วทั้งการช่วยเหลือและเยียวยา

สสน.แจงฤทธิ์ “คมปาซุ”

นายสุทัศน์ วีสกุล ผอ.สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวว่า สถานการณ์พายุโซนร้อน “คมปาซุ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนคาดว่าเคลื่อนตัวไปทางตะวันตกผ่านเกาะไหหลำประเทศจีน เข้ามายังประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 14 ต.ค.นี้ ก่อนจะปะทะกับความกดอากาศสูง ทำให้อ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วบริเวณประเทศลาวเช่นเดียวกับพายุ “ไลออนร็อก” และทำให้รูปแบบฝนตกคล้ายคลึงกัน จะทำให้ประเทศไทยมีฝนตกมากกว่า 90 มิลลิเมตรจากอิทธิของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดผ่านบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ภาคกลางตอนกลาง และภาคตะวันออก เข้าสู่ศูนย์กลางพายุโซนร้อนคมปาซุบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักต่อเนื่องที่ จ.ตราด 602 มม. จ.จันทบุรี 323 มม. ทำให้เกิดน้ำท่วมในตัวเมืองอย่างหนัก จ.พังงา 118 มม. และ จ.ระนอง 99 มม. ทั้งนี้ จากกระแสลมตะวันตกเฉียงใต้พัดขึ้นไปปะทะแนวด้านหน้าของเขาใหญ่ เป็นแนวด้านใต้ของร่องมรสุม ทำให้มีฝนตกหนักที่ จ.ปราจีนบุรี 126 มม. จ.สระแก้ว 123 มม. และจากแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านบริเวณภาคกลาง และภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้มีฝนตกหนักที่ จ.สุรินทร์ 125 มม. และ จ.นครสวรรค์ 110 มม.