ไทยสร้างไทย แนะ เปิดประเทศ 1 พ.ย. ต้องสร้างความเชื่อมั่นต่างชาติ-ผู้ประกอบการ มีแผนรองรับสร้างความปลอดภัย มีการตั้งรับและการรับมือโควิด-19 จี้ ยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-เคอร์ฟิว
วันที่ 16 ต.ค. นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงมาตรการเปิดประเทศ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย.นี้ ว่า รัฐบาลต้องมีการแผนการรองรับการท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นระบบ เพราะในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตไทยในการประชาสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในด้านความปลอดภัยจากสถานการณ์โควิด และตัวเลขผู้ติดเชื้อที่แท้จริง และด้านการรับมือ เพื่อขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทย จึงทำให้ต่างประเทศเกิดความไม่มั่นใจในการจัดการโควิดของไทย จะเห็นได้จากประเทศที่เป็นพันธมิตร อย่างเกาหลี ญี่ปุ่น ที่คนไทยจะบินไป ยังต้องทำวีซ่า
นอกจากนี้ ยังมีความไม่มั่นใจของผู้ประกอบการสายการบิน ที่บินมาแล้วจะคุ่มค่ามั้ย เพราะคงไม่มีนักท่องเที่ยวหรือคนไทยที่บินเพียงพอในขากลับไป ที่สืบเนื่องจากปัญหาดังกล่าว ที่ต่างประเทศเกิดความไม่มั่นใจ จึงทำให้การจัดตารางเที่ยวบิน รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มีความชัดเจนว่า หากเพิ่มเที่ยวบินจะคุ้มค่าหรือไม่ รวมถึงมาตรการกักตัวในการเข้าประเทศ 7 วัน ที่เป็นอุปสรรคกับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีรายได้มาก ทำให้สูญเสียเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มีรายได้อีกจำนวนมาก และปัญหาด้านความพร้อมในการจัดการป้องกันโควิด กรณีที่เกิดจากนักท่องเที่ยว
“การเปิดประเทศเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเศรษฐกิจของประชาชนคนรากหญ้า และผู้ประกอบการรายย่อย ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดอย่างแสนสาหัส แต่จากการลงรับฟังปัญหาของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทย ยังไม่เห็นความชัดเจนของแผนการรองรับการท่องเที่ยว ที่จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถพลิกฟื้นธุรกิจ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ซึ่งรัฐบาลจะต้องมีแผนรองรับการท่องเที่ยวว่าจะมีความปลอดภัยอย่างไร จะมีการตั้งรับอย่างไร และจะรับมือกับโควิดอย่างไร”
นายรัฐภูมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน โดยต้องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิวช่วงเวลา 23.00 น.-03.00 น. รวมถึงลดขั้นตอนเอกสารที่มีความยุ่งยาก เร่งสร้างความเชื่อมั่นกับต่างประเทศ ลดช่วงระยะเวลาการกักตัวจาก 7 วันเหลือ 1 วัน และที่สำคัญต้องสร้างความปลอดภัย มีการตั้งรับป้องกันโควิด และต้องมีมาตรการรับมือสถานการณ์โควิดได้อย่างทันท่วงที