มีรายงานเกิดเหตุเครื่องบินตกทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำดังกล่าวคือหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ที่เคยพยายามก่อกบฏในรัสเซียเมื่อ 2 เดือนก่อน ไบเดน ระบุเคยเตือน “พริโกซิน” แล้ว
ข้อมูลเท่าที่มีการเปิดเผยขณะนี้ คือ เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว ออกเดินทางจากกรุงมอสโกมุ่งหน้านครเซนต์ปีเตอร์เบิร์ก และเริ่มพบปัญหาขัดข้องเมื่อไปได้ครึ่งทาง ซึ่งตอนนี้หลายฝ่ายเชื่อว่าผู้นำกลุ่มวากเนอร์น่าจะเสียชีวิตแล้ว
วันนี้ (24 ส.ค.2566) สถานีโทรทัศน์ของรัสเซียเผยภาพเครื่องบินที่ดิ่งลงสู่พื้นดิน พร้อมรายงานอ้างข้อมูลจากหน่วยงานด้านการบินของรัสเซียที่ระบุว่า
ข้อมูลเบื้องต้นระบุว่า เครื่องบินลำที่เกิดเหตุเป็นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมีคนอยู่บนเครื่อง 10 คน ในจำนวนนี้เป็นลูกเรือ 3 คน ออกเดินทางจากกรุงมอสโกไปนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และจู่ๆ เครื่องบินหายไปจากเรดาร์ และพบว่าเครื่องบินตกในเวลาต่อมา โดยไม่มีผู้รอดชีวิต
แม้ตอนนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้อย่างเป็นทางการว่าพริโกซินเสียชีวิตหรือไม่ แต่ล่าสุด โจ ไบเดน ปธน.สหรัฐฯ ออกมาให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า เขาไม่ประหลาดใจกับเรื่องนี้ โดยก่อนหน้านี้ ไบเดน เคยพูดติดตลก และเตือน พริโกซิน ว่า ถ้าเขาเป็น พริโกซิน จะระวังเรื่องอาหารการกิน ซึ่งสื่อได้ว่า ให้ระวังการถูกวางยาพิษ ซึ่งเป็นวิธีที่หลายฝ่ายเชื่อว่า วลาดิเมียร์ ปูติน ปธน.ของรัสเซียใช้วิธีนี้กำจัดฝ่ายตรงข้าม
ทั้งนี้พริโกซินและกลุ่มวากเนอร์ เคยพยายามก่อกบฏด้วยการเคลื่อนกำลังไปที่กรุงมอสโก แต่ก็ล้มเลิกกลางคันโดยพริโกซินทำข้อตกลงกับปูติน โดยปูตินยอมให้กลุ่มวากเนอร์ย้ายไปปักหลักในเบลารุส และไม่มีการดำเนินคดีใดๆ กับกลุ่มวากเนอร์
เครื่องบินตกไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
รายงานเพิ่มเติมจากสำนักข่าว BBC ระบุว่า จุดที่เครื่องบินตกอยู่ใกล้หมู่บ้าน Kuzhenkino ในภูมิภาค Tver ประมาณครึ่งทางระหว่างมอสโกและเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
วิล เวอร์นอน ผู้สื่อข่าว BBC ประจำกรุงมอสโก ตั้งข้อสังเกตว่า Rosaviatsiya ซึ่งเป็นหน่วยงานการบินของรัสเซียออกแถลงการณ์ยืนยันว่ามีชื่อ พริโกซิน อยู่ในรายชื่อผู้โดยสารของเครื่องบินลำนี้ หลังจากมีข่าวเครื่องบินตกไม่นาน ทั้งๆ ที่โดยปกติ การให้ข่าวจากทางการรัสเซียส่วนใหญ่จะไม่เร็วทันที และไม่ชัดเจนเท่าครั้งนี้ อาจเป็นไปได้ว่า หลังจาก 2 เดือนที่ความสัมพันธ์ของผู้นำทั้ง 2 ขาดสะบั้นลงนั้น เวลาของ พริโกซิน ก็เริ่มถูกนับถอยหลังแล้วก็ได้
เช่นเดียวกับ คริสโตเฟอร์ สตีล อดีตหัวหน้าแผนกรัสเซียประจำหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของอังกฤษ (MI6) กล่าวว่า เป็นเรื่องที่ “หลีกเลี่ยงไม่ได้” ที่เรื่องนี้จะเป็นจุดจบของพริโกซิน เขาบอกกับ BBC ว่า
ชาแชงก์ โจชิ บรรณาธิการการเมืองของ The Economist กล่าวว่า รัฐบาลรัสเซียมีประวัติในการตามล่าผู้ที่ทรยศต่อรัฐ โดย โจชิ ยกตัวอย่างถึง การลอบสังหาร อเล็กซานเดอร์ ลิตวิเนนโก อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองรัสเซีย ในสหราชอาณาจักร โดยการแอบใส่สารกัมมันตรังสี “พอโลเนียม-210” ลงในชา เพื่อวางยาพิษ เมื่อปี 2564
และยังมีการพยายามสังหาร เซียร์เกย์ สกรีปาล อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองทหารรัสเซียและสายลับอังกฤษ และ ยูเลีย สกรีปาล ลูกสาว ที่ถูกวางยาพิษในเมืองซอลส์บรี ประเทศอังกฤษ เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา
ดมิทรี ชาวมอสโกคนหนึ่ง กล่าวว่า เขารู้สึกว่า พริโกซิน ควรได้รับการลงโทษแล้ว แต่ไม่ข้อออกความเห็นว่า เสียชีวิตด้วยสาเหตุใด “เขามีศัตรูมากมาย เท่าที่ผมรู้” ขณะที่หญิงชาวมอสโกอีกคนหนึ่ง ตอบว่า “เสียใจต่อการจากไปของ พริโกซิน”
ที่มา : BBC
