ในที่สุดก็เป็นเวลาของพระเอกประจำงาน Apple Event Unleashed นั่นก็คือ การเปิดตัว MacBook Pro โดยจะมาด้วยกันสองโมเดล ได้แก่ MacBook Pro 14 และ MacBook Pro 16
เริ่มต้นกันที่ MacBook Pro 14 ซึ่งจะมีขนาดหน้าจอ 14.2 นิ้วความละเอียด 3024 x 1964 พิกเซล รองรับเทคโนโลยี ProMotion ทำให้หน้าจอรองรับการแสดงผลรีเฟรชเรต 120Hz ทั้งนี้บริเวณกล้องหน้าของตัวเครื่องจะมีรอยบาก หรือ notch แต่ก็แลกมากับขอบจอที่บางกว่าเก่า โดยมีความหนาอยู่ที่ 3.5 มม.
บริเวณคีย์บอร์ด แอปเปิลได้หันกลับมาใช้ฟิสิคอลคีย์บอร์ดแทนที่ทัชบาร์ (Touch bar) แล้ว ส่วนการออกแบบของตัวเครื่อง MacBook Pro 14 ก็เน้นหนักไปที่พอร์ตต่างๆ เป็นจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่ Thunderbolt, SD Card, ช่องเสียบหูฟัง, HDMI และ MagSafe 3 ก็กลับมาอีกครั้ง
สำหรับราคาวางจำหน่ายของ MacBook Pro 14 มีให้เลือก 2 รุ่นย่อยได้แก่ รุ่น CPU 8 คอร์+GPU 14 คอร์ ในราคา 73,900 บาท ถ้าเป็นรุ่น CPU 10 คอร์+GPU 16 คอร์ อยู่ที่ 89,900 บาท เริ่มสั่งจองได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แต่ถ้าสเปกยังไม่หนำใจก็สามารถเปลี่ยนไปเป็นชิปเซต M1 Max ได้
ต่อมาก็เป็น MacBook Pro 16 ซึ่งถือเป็นรุ่นตัวแรง และเป็นคอมพิวเตอร์ระดับสูงอีกรุ่นหนึ่งของแอปเปิล โดยขนาดหน้าจออยู่ที่ 16.2 นิ้ว ความละเอียด 3456 x 2234 พิกเซล
พอร์ตการเชื่อมต่อต่างๆ ของ MacBook Pro 16 ก็จะคล้ายกับ MacBook Pro 14 โดยมีพอร์ต HDMI, Thunderbolt, SD Card, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และ MagSafe 3
ในเรื่องระบบเสียงรองรับ Spatial Audio พร้อมระบบเสียง 6 ลำโพง หน้าจอมีค่าความสว่างสูงสุด 1,600 nits เบื้องต้นในการใช้งานของทั้ง MacBook Pro 14 และ MacBook Pro 16 จะอยู่ที่ประมาณ 11 ชั่วโมงและ 14 ชั่วโมงตามลำดับ
ตัวเครื่อง MacBook Pro 16 มีให้เลือกด้วยกัน 2 สี ได้แก่ สีเงิน Silver และสีเทา Space Gray รุ่นที่ใช้ชิป Apple M1 Pro มีสองราคาด้วยกัน ได้แก่ 89,900 บาท และ 96,900 บาท ความต่างของสองรุ่นนี้ อยู่ที่ความจุของ SSD โดยแบ่งเป็น 512GB และ 1TB ตามลำดับ ส่วนรุ่นที่ใช้ชิป M1 Max ราคาพุ่งไปที่ 124,900 บาท
ทางด้านเรื่องของชิปประมวลผล ซึ่งแอปเปิลเปิดตัวรวดเดียวสองรุ่น ได้แก่ M1 Pro และ M1 Max โดยแต่ละชิปเซตจะรองรับสำหรับการใช้งานที่ต้องการพลังในการประมวลผลสูงๆ ทั้งนี้ ชิปเซต M1 Pro รองรับการรับส่งข้อมูลแบนด์วิธที่ 200GB/วินาที รองรับแรมสูงสุดที่ 32GB รองรับจอภาพภายนอก 2 จอ และเล่นวิดีโอ ProRes ระดับ 4K ได้สูงสุด 20 สตรีม
ส่วนชิปเซต M1 Max จะแรงยิ่งกว่านั้น โดยการรับส่งข้อมูลแบนด์วิธอยู่ที่ 400GB/วินาที รองรับแรมสูงสุดที่ 64GB ตามด้วยการรองรับจอภาพภายนอก 4 จอ และเล่นวิดีโอ ProRes ระดับ 8K ได้สูงสุด 7 สตรีม