โจรใต้เหิม ก่อเหตุวางระเบิดริมทางสุไหงปาดี หวังสังหารเจ้าหน้าที่ทหาร ขณะขี่จยย.ลาดตระเวนผ่าน โดยจุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร บึมทำทหารพรานบาดเจ็บ 2 นาย ก่อนที่เพื่อนจะสาดกระสุนยิงเพื่อป้องกัน เพราะเกรงผู้ก่อเหตุจะถล่มซ้ำ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 พ.ย. 64 พ.ต.ท.ลัทธวิชย์ แคยิหวา สารวัตร สภ.สากอ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายจุดชนวนระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ทหารชุดลาดตระเวนเส้นทาง สังกัดกองร้อยทหารพรานที่ 4809 กรมทหารพรานที่ 49 ริมถนนในหมู่บ้านสือแด ม.7 ต.สากอ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 2 นาย จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บก็และทำลายวัตถุระเบิด ตชด.447 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
พบที่บริเวณพุ่มไม้ใหญ่ที่รกทึบริมถนน ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายลอบวางระเบิด ทำให้ต้นไม้ถูกอานุภาพของระเบิดเตียนราบเป็นรัศมีกว้าง 1 เมตร โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่องที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 กก. จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร ตกกระจายเกลื่อนพื้นถนนและพงหญ้ารกทึบริมทาง ในที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนหนึ่ง และปลอกกระสุนปืนของเจ้าหน้าที่ตกอยู่จำนวนหลายสิบปลอก เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักฐานในที่เกิดเหตุ
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเพื่อนทหารได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดีไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อคือ อส.ทพ.อับดุลฮาลิม เจ๊ะนะ อายุ 39 ปี มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณหูด้านขวาฉีกขาดและแผลถลอกที่บริเวณหลัง และ อส.ทพ.โนรอาลัม การียา อายุ 27 ปี มีบาดแผลถูกสะเก็ดระเบิดที่บริเวณขมับขวาและมีแผลฉีกขาดที่ด้านหลังใบหูขวา เมื่อแพทย์ทำการปฐมพยาบาลในเบื้องต้นได้ส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 4809 จำนวน 6 นาย ขี่และซ้อนท้ายจยย. 3 คัน ออกจากฐานซึ่งตั้งอยู่ ต.สากอ เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบความเรียบร้อยเส้นทางพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อถึงบริเวณจุดเกิดเหตุคนร้ายซึ่งแฝงตัวในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้วิทยุสื่อสารจุดชนวนระเบิดบริเวณพุ่มไม้ใหญ่ริมทางจนเกิดระเบิดขึ้น ในขณะที่ อส.ทพ.อับดุลฮาลิม เจ๊ะนะ และ อส.ทพ.โนรอาลัม การียา ขี่และซ้อนท้ายรถ จยย.ผ่านมาเป็นคันแรก ทำให้ถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บและรถได้เสียหลักล้มคว่ำ เพื่อนทหารที่ขี่ตามไล่หลังมาจึงได้จอดรถ จยย.แล้วใช้อาวุธปืนประจำกายยิงสุ่มเข้าไปในป่าที่รกทึบ เพื่อป้องกันกลุ่มคนร้ายจะบุกชาร์จใช้อาวุธปืนยิงซ้ำ จนกลุ่มคนร้ายได้อาศัยความชำนาญพื้นที่หลบหนีไป
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นฝีมือการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เพื่อลอบดักสังหารเจ้าหน้าที่รายวัน.